สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
คุณพ่อใช้สิทธิอะไรครับ?
ไม่แน่ใจว่าอยู่ จ.ไหน
1.แนะนำให้ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ
ทุก รพ.จะมีหน่วยที่ชื่อว่า Paliative Care
Unit นี้จะให้คำปรึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ป่วยติดเตียง
รวมถึงส่งต่อ รพ.สต.หรืออบต/เทศบาลในชุมชน
ในกรณีที่สหวิชาชีพประเมินแล้วว่าผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตกับครอบครัวได้
อาจจะมีการส่งต่อไปยังสถานสงเคราะห์/ศุนย์เลี้ยงดูผู้ป่วยติดเตียงในหน่วยงานรัฐบาล
การไปขอข้อมูลหรือปรึกษาเจ้าหน้าบริการสุขภาพจะได้คำแนะนำที่ดีกว่านะครับ
ไม่แน่ใจว่าอยู่ จ.ไหน
1.แนะนำให้ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ
ทุก รพ.จะมีหน่วยที่ชื่อว่า Paliative Care
Unit นี้จะให้คำปรึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ป่วยติดเตียง
รวมถึงส่งต่อ รพ.สต.หรืออบต/เทศบาลในชุมชน
ในกรณีที่สหวิชาชีพประเมินแล้วว่าผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตกับครอบครัวได้
อาจจะมีการส่งต่อไปยังสถานสงเคราะห์/ศุนย์เลี้ยงดูผู้ป่วยติดเตียงในหน่วยงานรัฐบาล
การไปขอข้อมูลหรือปรึกษาเจ้าหน้าบริการสุขภาพจะได้คำแนะนำที่ดีกว่านะครับ
ความคิดเห็นที่ 5
ขอแสดงความเสียใจด้วย เรื่องที่คุณแม่จากไปกะทันหันเมื่อปีที่แล้ว
เราอยาก จะพูดอะไร ให้คุณสบายใจได้จัง
แต่สิ่งที่คุณเจอ มันหนักหนามาก …
คุณมีเจ้ากรรมนายเวร ที่มาทวงหนี้คุณ และมาอยู่ใน สถานะบุพการี ซึ่งเป็นสถานะ ที่รับมือได้ “ยากที่สุด”
ถ้าคุณมีศรัทธา ในเรื่อง กรรมวิบาก
ลองนึกในแง่ว่ากำลัง ใช้หนี้ นะคะ
การที่พ่อ จะทำให้เรื่องนี้ มันยากขึ้น นั่นเป็นกรรมที่พ่อ ก่อขึ้นมาใหม่กับคุณ
ยั่วโทสะ ก็เพื่อให้คุณทำกรรมต่อกันอีก เพื่อจะได้มาเจอกันอีก
มายาแห่งการเวียนว่ายตายเกิด มันน่ากลัวแบบนี้แหละค่ะ
มันปิดบังความจริง แล้วยุยง ให้มนุษย์ทำร้ายกันเอง ด้วยกิเลสบังตา
ตอนนี้ คุณก็ทุกข์ เพราะไม่อยาก จะโกรธพ่อ คุณพยายามดีกับพ่ออย่างที่สุดแล้ว
ตรงนี้ ถ้าเผลอไปโกรธบ้าง ทำกริยาไม่ดีบ้าง ต้องรีบให้อภัยตัวเองนะคะ แล้วเริ่มใหม่
อย่าให้ใน จมอยู่กับโทสะ และความรู้สึกผิดนาน
ตอนไปทำงาน ไปอยู่ข้างนอก ให้ลืมความพะวงตรงนี้ไปให้มากที่สุด
(เพื่อจะเดรน ความเครียดทั้งหลายออกจากหัวใจบ้าง)
ให้รางวัลชีวิตตัวเองบ้าง เช่นอาหารอร่อยๆสักมื้อ จะได้มีแรงใจมารับมือกับความเครียดได้ต่อ
เมื่อกลับมาบ้าน เจอพ่อออกฤทธิ์อาละวาด
ให้ดูแลท่าน ด้วยใจที่วางอุเบกขา ดูแลให้ดีที่สุด เท่าที่จะดูแลได้ แต่ไม่กังวลทุกข์ร้อนไปข้างหน้ามากนัก (เพราะความกังวลไม่ช่วยอะไร)
เมื่อคุณทำหน้าที่คุณอย่างดีแล้ว
คุณจะไม่ตำหนิตัวเอง จะภูมิใจในตัวเอง ทุกครั้งที่คิดถึงค่ะ และหากพ่อตายไป คุณจะไม่มีความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจ
ถ้าเป็นไปได้ ลองจ้างคน มาดูแลพ่อแทนคุณบ้าง แบบเว้นช่วงให้คุณได้พักบ้าง
ตรงนี้สำคัญมาก ถ้ามีความเครียดต่อเนื่องนานๆ อาจจะทำให้คุณมีปัญหาสุขภาพกาย / สุขภาพจิตได้น่ะค่ะ
เราอยาก จะพูดอะไร ให้คุณสบายใจได้จัง
แต่สิ่งที่คุณเจอ มันหนักหนามาก …
คุณมีเจ้ากรรมนายเวร ที่มาทวงหนี้คุณ และมาอยู่ใน สถานะบุพการี ซึ่งเป็นสถานะ ที่รับมือได้ “ยากที่สุด”
ถ้าคุณมีศรัทธา ในเรื่อง กรรมวิบาก
ลองนึกในแง่ว่ากำลัง ใช้หนี้ นะคะ
การที่พ่อ จะทำให้เรื่องนี้ มันยากขึ้น นั่นเป็นกรรมที่พ่อ ก่อขึ้นมาใหม่กับคุณ
ยั่วโทสะ ก็เพื่อให้คุณทำกรรมต่อกันอีก เพื่อจะได้มาเจอกันอีก
มายาแห่งการเวียนว่ายตายเกิด มันน่ากลัวแบบนี้แหละค่ะ
มันปิดบังความจริง แล้วยุยง ให้มนุษย์ทำร้ายกันเอง ด้วยกิเลสบังตา
ตอนนี้ คุณก็ทุกข์ เพราะไม่อยาก จะโกรธพ่อ คุณพยายามดีกับพ่ออย่างที่สุดแล้ว
ตรงนี้ ถ้าเผลอไปโกรธบ้าง ทำกริยาไม่ดีบ้าง ต้องรีบให้อภัยตัวเองนะคะ แล้วเริ่มใหม่
อย่าให้ใน จมอยู่กับโทสะ และความรู้สึกผิดนาน
ตอนไปทำงาน ไปอยู่ข้างนอก ให้ลืมความพะวงตรงนี้ไปให้มากที่สุด
(เพื่อจะเดรน ความเครียดทั้งหลายออกจากหัวใจบ้าง)
ให้รางวัลชีวิตตัวเองบ้าง เช่นอาหารอร่อยๆสักมื้อ จะได้มีแรงใจมารับมือกับความเครียดได้ต่อ
เมื่อกลับมาบ้าน เจอพ่อออกฤทธิ์อาละวาด
ให้ดูแลท่าน ด้วยใจที่วางอุเบกขา ดูแลให้ดีที่สุด เท่าที่จะดูแลได้ แต่ไม่กังวลทุกข์ร้อนไปข้างหน้ามากนัก (เพราะความกังวลไม่ช่วยอะไร)
เมื่อคุณทำหน้าที่คุณอย่างดีแล้ว
คุณจะไม่ตำหนิตัวเอง จะภูมิใจในตัวเอง ทุกครั้งที่คิดถึงค่ะ และหากพ่อตายไป คุณจะไม่มีความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจ
ถ้าเป็นไปได้ ลองจ้างคน มาดูแลพ่อแทนคุณบ้าง แบบเว้นช่วงให้คุณได้พักบ้าง
ตรงนี้สำคัญมาก ถ้ามีความเครียดต่อเนื่องนานๆ อาจจะทำให้คุณมีปัญหาสุขภาพกาย / สุขภาพจิตได้น่ะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขอพื้นที่ระบาย เราควรอย่างไรดี เมื่อดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียงเราแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้แล้ว
บ้านเรามีพี่สาว 1 คนจากแม่เดียวกัน อีก 2 คน เป็นพี่แต่คนละแม่ พี่สองคนนั้น ไม่เคยติดต่อมาเลย ช่วงแม่เราป่วย เราขอให้เค้าผลัดกันเอาพ่อไปดูแล เค้าพุดว่าเค้าไม่ไหว ไหนหมาเค้า ไหนลูกเค้าอีก ค่าใช้จ่ายใดๆ เรากับพี่สาวจึงต้องดูแลพ่อ ผลัดกันคนละ 1 ปี
ปี 66 เราเริ่มดูแลพ่อ เนื่องจากพี่สาวเราท้องแก่ใกล้คลอดลูก วันที่พ่อมาอยุ่กับเรา (เราอยุ่หอพัก ) เราหาเตียงเพื่อที่จะให้เค้านอนสบายๆ พ่อเราทานข้าวเองได้ นะคะ หยิบจับอะไรได้ แต่ไม่ขยับตัว เพราะเราอยุ่คนเดียว ต้องทำงานเช้า กลับมาเย็น (ดึก) เพราะฐานะบ้านเราเรียกว่า ติดลบ เลยก็ว่าได้ เราพยายามพูดกับพ่อดีๆ พยายามทำทุกอย่าง แต่พ่อเราไม่ให้ความร่วมมืออะไรใดๆทั้งสิ้น ประชดไม่กินข้าว เอาข้าวเทบนเตียง เอามือแกะแพมเพิส ออก ฉี่เลอะไปหมด พอเรากลับมา ก็ละเลงข้าวบนตัวเอง เวลาเราพยายามเอาพ่อไปอาบน้ำ ก็ไม่ยอมไป พูดได้แต่ไม่พูดกับเรา เราพยายามดันตัวไปเข้าห้องน้ำ เค้าก็ทำตัวหนักๆ ซึ่งเราพาเค้าไปไม่ไหว บางวันที่ เรากลับมาจากที่ทำงานดึกเหนื่อย เจอเค้าทำตัวแบบนี้บางทีเราก็อดคิดไม่ดีตลอด บางทีก้มีสติหลุดหลายครั้ง
เราไม่อยากทำบาป ไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่บางทีมันก้เกินที่เราจะรับไหว
เราไม่รู้จะทำอย่างไง ขอเป็นพื้นที่ระบายแล้วกันนะคะ เพราะ เรารุ้สึกเครียดและแย่มาก เราควรทำยังไง จัดการความรุ้สึกยังไงดีค่ะ
" ภาพจำพ่อกับเราตอนเด็กแทบไม่มี มีแต่ภาพ พ่อตีเรา ด่าเรา แช่งเรา หาว่าเราจะท้อง เรียนไม่จบ คงเพราะเราเกเร ส่วนมาก ส่วนมากพ่อจะรักลูก 2 คนที่คนละแม่มากกว่า จะชมฝั่งนั้นมากกว่า กับเราแทบจะไม่ลงรอยแต่เด็ก "
" แต่ปัจจุบัน เราส่งตัวเองเรียนจนจบ เพราะทำงานแต่เด็ก และยังไม่เคยท้องให้เค้าต้องมาแบกรับภาระใดๆกับเราเลยนะคะ ทำไมกันนะ ฮื้อออ "