ยุโรปห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok ตามรอยสหรัฐ
ยุโรปห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok ตามรอยสหรัฐ”
ยุโรปประกาศห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok ด้วยเหตุผลความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้านแอพดัง โต้ขาดหลักฐาน ไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน ย้ำ ที่ผ่านมายึดมั่นในการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน
รัฐสภายุโรปสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ใช้ TikTok เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
“เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลและการรวบรวมข้อมูลโดยบุคคลที่สาม” โดยมีคำแนะนำให้ลบแอพพลิเคชั่น TikTok ออกไป ซึ่งก็หมายความว่าตอนนี้แอปแชร์วิดีโอของจีนถูกระงับการใช้ในหน่วยงานรัฐหลักทั้งสามแห่งของสหภาพยุโรป
ด้าน TikTok ที่มีบริษัท ByteDance ในปักกิ่งเป็นเจ้าของ มองว่า “น่าผิดหวัง” ที่หลายๆหน่วยงานทั้งของและเอกชน แบน TikTok บนอุปกรณ์ของพนักงานโดยปราศจากการใคร่ครวญหรือหลักฐาน
การแบนเหล่านี้มาจากการรับข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับบริษัทของเรา เรายืนยันถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล และเรามีเป้าหมายเช่นเดียวกับรัฐบาล คือ รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
และที่ผ่านมา Tiktok เคยชี้แจงต่อคณะกรรมการยุโรปว่า ทำการปกป้องข้อมูลของผู้คน 125 ล้านคนทั่วสหภาพยุโรปที่เข้ามาใช้ TikTok ทุกเดือนได้อย่างไร"
คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การตัดสินใจแบน TikTok มีผลกับอุปกรณ์ที่ของฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรปเท่านั้น
“มาตรการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องคณะกรรมาธิการจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และการถูกโจมตีทางไซเบอร์”
ก่อนหน้านี้ TikTok ได้เปิดเผยต่อผู้ใช้ในยุโรปว่าพนักงานในจีนอาจเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ในสหภาพยุโรปได้ และไม่นานมานี้บริษัทเพิ่งประกาศแผนการเปิดศูนย์ข้อมูลใหม่ 2 แห่งในยุโรป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Tiktok ถูกแบนหรือจำกัดการใช้งาน ที่ผ่านมา TikTok กำลังเผชิญกับการตรวจสอบที่คล้ายคลึงกันในหลายปะเทศเช่น สหรัฐ แคนาดา อินเดีย ไต้หวัน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินโดนีเซีย ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวผู้ใช้
เมื่อวันจันทร์ ทำเนียบขาวสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางลบแอบพลิเคชั่น TikTok ออกจากอุปกรณ์ภายในหน่วยงานทั้งหมดภายใน 30 วัน โดยอาจมีข้อยกเว้นบางประการ ถือเป็นการเพิ่มความพยายามของสหรัฐ ในการแบนแอพพลิเคชั่น ที่สร้างความกังวลด้านความปลอดภัย
ทั้งยังคาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนอาจกดดันให้ ByteDance ส่งมอบข้อมูลที่รวบรวมจากผู้ใช้ แล้วนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านข่าวกรองหรือบิดเบือนข้อมูลได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอิสระได้กล่าวว่าการเข้าถึงข้อมูลด้วยวิธีนี้มีความเป็นไปได้ แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีรายงานว่าพบเหตุการณ์ดังกล่าวก็ตาม
บรูค โอเบอร์เวตเตอร์ โฆษกของ TikTok เรียกการแบนนี้ว่า
“little more than political theater.”
เขายังเสริมว่า “การห้ามใช้ TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางตั้งแต่เดือนธันวาคม นั้นไม่มีการไตร่ตรองใด ๆ น่าเสียดายที่วิธีการดังกล่าวได้กำลังเป็นพิมพ์เขียวสำหรับรัฐบาลประเทศอื่นๆ
และสภาคองเกรสควรต้องหาทางออกว่าทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นการ "ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น" ของชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคน
ที่มา : Cnn
ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ
https://www.thansettakij.com/world/557702
ยุโรปห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok ตามรอยสหรัฐ
ยุโรปห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok ตามรอยสหรัฐ”
ยุโรปประกาศห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok ด้วยเหตุผลความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้านแอพดัง โต้ขาดหลักฐาน ไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน ย้ำ ที่ผ่านมายึดมั่นในการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน
รัฐสภายุโรปสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ใช้ TikTok เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
“เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลและการรวบรวมข้อมูลโดยบุคคลที่สาม” โดยมีคำแนะนำให้ลบแอพพลิเคชั่น TikTok ออกไป ซึ่งก็หมายความว่าตอนนี้แอปแชร์วิดีโอของจีนถูกระงับการใช้ในหน่วยงานรัฐหลักทั้งสามแห่งของสหภาพยุโรป
ด้าน TikTok ที่มีบริษัท ByteDance ในปักกิ่งเป็นเจ้าของ มองว่า “น่าผิดหวัง” ที่หลายๆหน่วยงานทั้งของและเอกชน แบน TikTok บนอุปกรณ์ของพนักงานโดยปราศจากการใคร่ครวญหรือหลักฐาน
การแบนเหล่านี้มาจากการรับข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับบริษัทของเรา เรายืนยันถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล และเรามีเป้าหมายเช่นเดียวกับรัฐบาล คือ รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
และที่ผ่านมา Tiktok เคยชี้แจงต่อคณะกรรมการยุโรปว่า ทำการปกป้องข้อมูลของผู้คน 125 ล้านคนทั่วสหภาพยุโรปที่เข้ามาใช้ TikTok ทุกเดือนได้อย่างไร"
คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การตัดสินใจแบน TikTok มีผลกับอุปกรณ์ที่ของฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรปเท่านั้น
“มาตรการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องคณะกรรมาธิการจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และการถูกโจมตีทางไซเบอร์”
ก่อนหน้านี้ TikTok ได้เปิดเผยต่อผู้ใช้ในยุโรปว่าพนักงานในจีนอาจเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ในสหภาพยุโรปได้ และไม่นานมานี้บริษัทเพิ่งประกาศแผนการเปิดศูนย์ข้อมูลใหม่ 2 แห่งในยุโรป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Tiktok ถูกแบนหรือจำกัดการใช้งาน ที่ผ่านมา TikTok กำลังเผชิญกับการตรวจสอบที่คล้ายคลึงกันในหลายปะเทศเช่น สหรัฐ แคนาดา อินเดีย ไต้หวัน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินโดนีเซีย ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวผู้ใช้
เมื่อวันจันทร์ ทำเนียบขาวสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางลบแอบพลิเคชั่น TikTok ออกจากอุปกรณ์ภายในหน่วยงานทั้งหมดภายใน 30 วัน โดยอาจมีข้อยกเว้นบางประการ ถือเป็นการเพิ่มความพยายามของสหรัฐ ในการแบนแอพพลิเคชั่น ที่สร้างความกังวลด้านความปลอดภัย
ทั้งยังคาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนอาจกดดันให้ ByteDance ส่งมอบข้อมูลที่รวบรวมจากผู้ใช้ แล้วนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านข่าวกรองหรือบิดเบือนข้อมูลได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอิสระได้กล่าวว่าการเข้าถึงข้อมูลด้วยวิธีนี้มีความเป็นไปได้ แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีรายงานว่าพบเหตุการณ์ดังกล่าวก็ตาม
บรูค โอเบอร์เวตเตอร์ โฆษกของ TikTok เรียกการแบนนี้ว่า
“little more than political theater.”
เขายังเสริมว่า “การห้ามใช้ TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางตั้งแต่เดือนธันวาคม นั้นไม่มีการไตร่ตรองใด ๆ น่าเสียดายที่วิธีการดังกล่าวได้กำลังเป็นพิมพ์เขียวสำหรับรัฐบาลประเทศอื่นๆ
และสภาคองเกรสควรต้องหาทางออกว่าทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นการ "ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น" ของชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคน
ที่มา : Cnn
ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ
https://www.thansettakij.com/world/557702