[CR] No.9 Three Billboards Outside Ebbing , Missouri : โกรธง่าย ลืมยาก แค้นมาก


หลังจากงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 93 ผ่านพ้นไป ในงานค่ำคืนนั้นผลปรากฎว่าเจ้าป้า Frances Mcdormand สามารถคว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีกครั้งจากเรื่อง Nomadland (2020) ไปครอง ซึ่งเป็นรางวัลที่เจ้าป้าเคยได้รับมากแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งผมจะรีวิวครั้งนี้ เป็นหนังที่ได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่ 3 ของเธอ กับเรื่อง Three Billboards Outside Ebbing , Missouri  เป็นผลงานของผู้กำกับ Martin Mcdonagh จาก  In Bruges (2008) , Seven Psychopaths (2012) ควบตำแหน่งเขียนบท และ กำกับด้วย ซึ่งแนวตลกร้ายที่คุ้นเคยนี้มีความลูกผสมของ Comedy + Crime + Drama สไตล์คันทรี่หน่อย ๆ รวมถึงส่งผลให้ Sam Rockwell คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกด้วย การันตีถึงความหัวร้อนทุกรูขุมขน โดยในเรื่องพูดถึงหญิงวัยกลางคนออกมาเรียกร้องความยุติธรรมต่อเจ้าหน้าที่ในการตามล่าหาคนร้ายที่ฆ่าลูกสาวของเธอ แทนที่เจ้าหน้าที่จะรับฟังแต่กลับเมินเฉยซะงั้น แถมยังทำงานชักช้าอีก ในเมื่อเจ้าหน้าที่ไม่สนใจ กฎหมายไม่ทำงาน เธอจึงต้องลงมือตามล่าหาคนร้ายด้วยตัวเอง

ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 55 นาทีที่สนุก เพลิดเพลินไปกับวิธีการแก้แค้นของเธอสารพัดวิธี โทนหนังเรียบง่าย เข้าใจง่าย เป็นเส้นตรง มีกลิ่นอายในวิถีชีวิตของชนบทลอยฟุ้งทั้งเรื่อง ให้อารมณ์ความเป็นชายชาตรี อก 3 ศอกหน่อย ๆ รวมถึงได้นักแสดงมากฝีมือ อาทิ ป้า Frances Mcdormand จาก Nomadland (2020) ลุง Woody Harrelson จาก Natural born killers (1994)  และ น้า Sam Rockwell จาก Moon (2009)  มาประชันบทบาทปล่อยของกันสุดฤทธิ์ไม่มีใครยอมใคร แถมจิกกัดด้วยมุกตลกร้ายที่ระบบความยุติธรรมอย่างตำรวจถึงกระบวนการทำงานทีมีช่องโหว่ของความไม่แยแสต่อประชาชนได้อย่างเจ็บแสบ ถามว่าขำมั้ย ก็ขำแต่ขำด้วยความข่มขื่นมากกว่า ยิ่งเมื่อเทียบกับสถานการณ์บ้านเมืองเราที่ใกล้เคียงด้วยแล้ว มัน Link เข้ากับอารมณ์ร่วมกันได้รวดเร็ว ข้อดีคือมุกตลกที่ปล่อยออกมาค่อนข้างช่วยให้บรรยากาศไม่ตึงเครียดเกินไป ทั้งที่ตัวเรื่องนั้นโคตรซีเรียสชิปเป๋ง อีกอย่างคือชีวิตจริงไม่มีใครมาหัวเราะขำก๊ากขณะที่ความรู้สึกในใจโคตรเจ็บปวดทรมานจะเป็นจะตายอยู่แล้ว ซึ่งมันขัดแย้งทางอารมณ์ในความเป็นจริงอย่างชัดเจน

ส่วนที่ตำหนิหน่อยก็คือ ในพาร์ทดราม่ามันขยี้ความรู้สึกน้อยไปหน่อย ไม่ค่อยชวนให้มีอารมณ์ร่วมถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่กำลังเจ็บปวดซะเท่าไหร่ ทั้งที่ปัจจัยหลายอย่างมันสามารถเอื้ออำนวยให้เรื่องราวที่บอกเล่าขยายความต่อให้ชัดเจนขึ้นไปอีก แม้แทบจะไม่มีฉากยิงปืนกันแต่ก็ยังมีฉากปะทะฝีปากหรือฉากอัดเพื่อนทำลายข้าวของพอที่จะทำให้น่าตื่นเต้นได้บ้าง อีกอย่างที่ขอโดยเฉพาะความสัมพันธ์ครอบครัวเจ้าป้าอยากให้เพิ่มรายละเอียดลงไปอีกว่าปมที่มาของการเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างไร ทำไมป้าถึงผูกพันกับลูกขนาดนั้น ขยายภาพให้มากขึ้น เพิ่มน้ำหนักตรงมูลเหตุไปหน่อย ถึงจะรู้สึกกลมกล่อมลงตัวมากกว่านี้

 พอดูหนังเรื่องนี้จบแล้วมันทำให้เกิดความคิด 2 แง่ 2 มุม ทั้งฝ่ายตัวเจ้าป้าที่เป็นนางเอกกับฝ่ายตำรวจ คือ ถ้าเรามองในมุมของเจ้าป้ามันจะให้ความรู้สึกเลยว่าการเป็นผู้สูญเสียมันรู้สึกเจ็บปวด เคียดแค้นมากแค่ไหนต่อความไม่ยุติธรรมของโลกใบนี้ แม้ว่าจะมีตำรวจทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมือง แต่กลับไม่สามารถจับคนร้ายได้ เพราะขาดความบกพร่องไม่เอาใจใส่ในหน้าที่อย่างจริงจัง ทำให้ความศรัทธาทีมีของประชาชนจึงเริ่มหมดความน่าเชื่อถือลง ในขณะที่มุมมองของตำรวจจะเห็นว่าเป็นตำรวจบางทีมันไม่ง่ายอย่างที่ประชาชนคิดเลย คนก่อร่างสร้างเรื่องตลอดเวลา ไหนจะเรื่องชาวบ้าน เรื่องตนเองอีก บางครั้งตำรวจก็รับมือกันไม่ไหว บางคดีจับคนร้ายได้ ก็ได้สรุปปิดสำนวนคดีกันเร็วก็ดีไป แต่คดีไหนที่จับตัวคนร้ายไม่ได้ หรือ จับได้แล้วก็ยังต้องใช้เวลาในการทำคดีเพื่อพิสูจน์พยาน หลักฐานทึ่มีอยู่ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินคดียืดเยื้อกันไปอีก แล้วยิ่งยุคสังคมปัจจุบันที่ข้อมูลเข้าถึงง่าย วิธีการของคนร้ายย่อมมีการพัฒนาการขึ้นไปตามด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสร้างความปวดหัวชวนเหนื่อยใจให้แก่ตำรวจเข้าไปอีก คือก็น่าเห็นใจกันทั้ง 2 ฝ่ายที่ต่างฝ่ายต่างพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ที่สุด แต่ยังไงหัวอกของผู้ที่ถูกกระทำ หรือ ผู้สูญเสียก็ควรให้เข้าใจในมุมมองแต่ละฝ่ายซึ่งกันและกัน

สรุปคือ สนุก น่าติดตามไปตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แม้บรรยากาศในเรื่องค่อนข้าง Slow Life เอื่อย ๆ ช้า ๆ จวนจะหลับไปซะหน่อย แต่ก็ได้พลังนักแสดงสายฝีมือทั้งหลายช่วยประคับประคองไม่ให้หนังน่าเบื่อจนเกินไป มีการจัดสรรปันแต่ละส่วนของความดุเดือดทั้งบทสนทนาที่ประชันฝีปากกันอย่างถึงพริกถึงขิง หรือ ฉากการทำลายข้าวของของเจ้าป้าและรองนายอำเภอที่เป็นคู่กัดไม้เบื่อไม้เมา เจอที่ไหนเป็นจะไฝว้กันอย่างเดียว รวมถึง Scene ดราม่าค่อนข้างทำได้สะเทือนใจอยู่โดยเฉพาะฉากที่นายอำเภอยิงตัวตาย เป็น Scene ที่ช็อกสำหรับผมมาก จะเรียกว่าเป็น Scene ที่ประทับใจที่สุดของเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าคุณชื่นชอบผลงานของความตลกร้ายเสียดสีสังคมแก้แค้นระบบความอยุติธรรมโดยผู้กำกับ Martin Mcdonagh หรือ เป็น FC ป้า Frances Mcdormand , ลุง  Woody Harrelson และ น้า Sam Rockwell เรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านรับชมแล้ว สามารถกด Like กด Share ได้ที่เพจ True id Intrend ของผมชื่อ EMCONCEPT เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า:   Review By EMCONCEPT
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่