ที่มา :
Arsurapadd
เริ่มต้นเปิดเอ็มวีมาเจโฮปอยู่กับเด็กคนหนึ่ง จากการวิเคราะห์
1. ถ้าเป็นแบบเดียวกับเอ็มวีของจิน เด็กคนนี้คือตัวแทนของอาร์มี่ (อาร์มี่อายุประมาณ 10 ขวบ เด็กผู้ชายคนนี้และเด็กผู้หญิงใน mv the astronaut ก็อายุประมาณนี้เช่นกัน)
เจโฮปกำลังบอกลาเด็กคนนี้พร้อมให้ความหวังและการยืนยันว่าเขาจะกลับมา จากที่บอกลาไปแล้วแต่เด็กก็ยังเหลียวหลังหันมาอีกรอบ เจโฮปก็ยิ้มและส่งเด็กคนนี้ให้ไปเติบโตด้วยตนเองในขณะที่เขาไม่อยู่
2. แต่ถ้าตีความตามเนื้อเพลง Future ในอัลบั้ม Jack in The Box เด็กคนนั้นอาจหมายถึงความตั้งใจของเจโฮปที่อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อไปก็เป็นได้ (จากการแสดงเพลง Future เป็นเพลงปิดที่
เทศกาลดนตรี lollapalooza และที่งานมอบรางวัล MAMA) สังเกตได้จากการที่เด็กคนนี้ใส่หูฟังฟัง
เพลง เขาก็อาจจะเป็นคนที่มีpassion เกี่ยวกับดนตรีเหมือนเจโฮป
3. หรืออีกความเป็นไปได้คือเด็กคนนั้นคือตัวแทนของจองโฮซอกในวัย 10 ขวบที่เริ่มต้นเรียนเต้นจาก
การที่เด็กคนนี้แต่งตัวเหมือน J.cole ในเอ็มวีนี้เลย เสื้อพัฟเฟอร์แจ็กเก็ตสีเขียวมะกอก กางเกงขา
ยาวสีดำซึ่งก็คือเด็กชายจองโฮซอกที่มี J.cole เป็นแรงบันดาลใจให้มีpassion เกี่ยวกับดนตรีฮิปฮอปและเสียงเพลง และข้างๆกันที่ฟุตบาตอีกข้าง มีคู่รักคู่หนึ่งกำลังเดินอยู่ซึ่งอาจจะหมายถึงพ่อแม่ของเจโฮปก็เป็นได้ เจโฮปกำลังขอบคุณตัวเองในอดีตที่เลือกเส้นทางนี้ที่นำพาเขามาถึงทุกวันนี้และ
ขอบคุณพ่อแม่ที่สนับสนุนเขา (โดยเฉพาะคุณแม่อย่างที่เจโฮปเคยกล่าวขอบคุณไว้ในเพลง
เดี่ยว MAMA ในอัลบั้ม Wings และจากการดูแลพ่อแม่ของเจโฮปในสารคดีJack In the
Box) หรือถ้าไม่ใช่การขอบคุณ เขาก็กำลังบอกลาช่วงเวลาวัยเด็กและพ่อแม่ของเขาเพื่อที่จะมา
เดินทางในเส้นทางนี้
นอกเหนือจากนี้ตรอกถนนในฉากแรก เป็นสถานที่เดียวกันกับที่ J.cole เคยใชถ่าย MV เพลง Simba ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลในอัลบั้มเดบิ้วต์ของเขาในปี 2007
และเด็กคนนี้ก็ใสรองเท้า Air Jordan’s (J’s) รุ่น 11s (ซึ่งตอนนี้เจโฮปก็มีใส่อยู่คู่หนึ่ง) ซึ่งเป็นรองเท้าที่เจ
โคลเคยพูดถึงในเนื้อเพลง Higher ซึ่งเป็นหนึ่งเพลงใน Friday Night Lights Mixtape ซึ่งเป็นเพลงและมิกซ์เทปโปรดของเจโฮป ซึ่งในเนื้อเพลงท่อนที่เจโฮปร้องมีท่อนที่ร้องว่า "J in the Air" ซึ่งเน้นย้ำ ดีเทลเล็กๆใส่มาในนี้ด้วยถือเป็นการ pay homage ให้ศิลปินที่เจโฮปเคารพและให้กับวงการฮิปฮอปดั้งเดิม (og hiphop) ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนคลับคุณโคลมักจะสังเกตเห็นในรายละเอียดนี้ได้และชื่นชมเจโฮปมากๆในเอ็มวีนี้ที่ให้ความเคารพกับคุณโคลและต้นกำเนิดฮิปฮอปเป็นอย่างดี
ต่อมาที่กล้องแพนไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวางดอกไม้ลงบนอนุสรณ์ดอกไม้ที่วางอยู่ที่พื้นถนน แม้จะเห็นเป็นลางๆ มีอาร์มี่อินเตอร์วิเคราะห์ว่าดอกไม้เหล่านี้อาจมีดอก chrysanthemum ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ใช้ในการไว้อาลัยและมีดอก daisy และ tulip ซึ่งเป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความบริสุทธิ์และความหวัง
ซึ่งสะท้อนไอเดียโดยรวมของเพลงนี้อย่างที่เจโฮปได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "สำหรับผม ถนนคือสถานที่ที่เราสามารถพบเจอและรู้สึกได้ถึงชีวิตจริง ๆ ของมนุษย์กล่าวคือ ความบริสุทธิ์ของจิตใจเด็ก การพบเจอใครเป็นครั้งแรกแล้วตกหลุมรัก คนที่กำลังอยู่ในภาวะเร่งรีบ การทะเลาะกัน การบอกเลิกกัน ฯลฯ เส้นทางถนนเปรียบเทียบได้กับชีวิต ผมพยายามจะถ่ายทอดสารทั้งหมดเหล่านี้ลงในเพลงและแบ่งปันความหวังและกำลังใจให้ผู้คนที่กำลังก้าวเดินไปบนเส้นทางชีวิตของตนเอง"
ต่อมาเจโฮปก็เริ่มต้นการเป็นนักเต้น street dance ในเอ็มวีก็ตรงไปตรงมาเลยว่าหลังจากบอกลาเด็กชายคนนั้น เจโฮปก็เริ่มเต้นไปตามท้องถนน = street dance
ในเอ็มวีเจโฮปเดินลงบันไดมาสู่สถานีรถไฟ"ใต้ดิน" แสดงถึงการที่เจโฮปเริ่มมีชื่อเสียงในวงการเต้น"ใต้ดิน"ของเกาหลี (จริงๆ เจโฮปเคยได้รางวัลเต้นระดับชาติของเกาหลีตอนปี2008ด้วย)
ในขณะเดียวกันเจโคลก็ยืนอยู่บนดาดฟ้า ซึ่งเป็นที่สูงสุด ส่วนเจโฮปก็เต้นอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินพร้อมกับท่อนแรปของคุณโคล แสดงถึงช่วงเวลาตอนเจโฮปยังอยู่ใต้ดิน ซ้อมเต้นกับเพลงของคุณโคล คุณโคลเป็นศิลปินฮิปฮอประดับตำนานที่เป็นตัว top ของโลก
เขียนให้เห็นภาพง่ายๆคือ
เจโคลบนดาดฟ้าซึ่งเป็นจุดสูงสุดของตึก = จุดสูงสุดของวงการ เป็นศิลปินระดับตำนาน
เจโฮปเต้นอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน = ขณะนั้นเจโฮปยังเป็นนักเต้นสตรีทแดนซ์ใต้ดิน
เจโฮปเต้นกับท่อนแรปของเจโคล = เจโฮปโตมากับการเต้นกับเพลงคุณโคล มีคุณโคลเป็นแรงบันดาลใจ
หลังจากนั้นเจโฮปก็ขึ้นรถไฟใต้ดิน ซึ่งเดาว่า หมายถึงจากบ้านที่กวางจูมาโซล เพื่อมาตามความฝันใน
ฐานะเด็กฝึก
จากนั้นเจโฮปก็ขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน มาเดินอยู่บนถนน เทียบได้กับการเปลี่ยนผ่านจากวงการใต้ดินมาสู่วงการไอดอลในฐานะเมมเบอร์วง BTS
ตามท่อนแรปที่เจโฮปเคยแรปใน cypher pt.1 ว่าเขาอยู่เหนือ minorsแล้ว (เล่นคำได้ว่า minors = เล็ก ต่ำต้อยกว่า (ใช้ในนิยามของนักดนตรีได้ด้วย minor/major), miners = คน
ทำเหมืองอยู่ใต้ดิน) พวกเขาเป็น major (คนที่ใหญ่กว่า อยู่สูงกว่า)
และท่อนแรปที่ยุนกิเคยแรปไว้ในcypher pt.2 ว่า BTS ไม่เล่นอยู่กับพวกใต้ดินแล้ว พวกเขาอยู่เหนือพวกใต้ดิน = บนดิน
หลังจากที่วง BTS ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ค่อยๆเติบโตจนมีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ในที่สุดเจโฮปก็มีชื่อเสียงขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุด ในระดับเดียวกันและได้ร่วมงานกับเจโคลที่เขายกย่องให้เป็นไอดอลในดวงใจมาโดยตลอด
ข้อสังเกตจาก MV นี้คือ ตั้งแต่ต้นจนฉากสุดท้าย เจโฮปเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดิน เต้น นั่งอยู่บนรถไฟที่เคลื่อนที่ จนกระทั่งมาเจอเจโคลบนดาดฟ้าถึงได้หยุดเคลื่อนที่ เหมือนกับเส้นทางชีวิตของเจโฮปตลอดมา
ตั้งแต่เด็กๆ ที่เขาต้องคอยผลักดันตัวเองให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ต้องพัฒนาตัวเอง ฝึกเต้น ฝึกแรป ทำงาน
อย่างหนักมากว่า 10 ปีตั้งแต่ก่อนเดบิวต์พอมาจนถึงจุดนี้เขาก็กำลังจะหยุดเคลื่อนที่ไปพักหนึ่งที่จุดสูงสุด
แห่งนี้จุดที่เขาได้มาพบกับแรงบันดาลใจ ไอดอลในดวงใจของเขา และจะหยุดพักไปช่วงหนึ่งจากการเข้ากรม
สรุปแล้ว MV นี้คือการสรุปเส้นทางของเจโฮปจากเด็กวัย 10 ขวบที่เลือกเรียนเต้น มาเป็นสมาชิกทีมเต้นนิวรอน มีคุณโคลเป็นไอดอล จากบ้านเกิดที่กวางจูมาโซลเพื่อมาเป็นเด็กฝึกเดบิวต์เป็น BTS วงไอดอลที่ไม่รู้จะไปรอดหรือไม่จนตอนนี้เป็นวงศิลปิน 7 คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน
เจโฮปได้แรงบันดาลใจจากคุณโคลมากมาย
-ตั้งสเตจเนมจากไอดอลของตัวเอง J.cole -> J-hope
-มิกซ์เทปแรก "Hope World" ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่ออัลบั้มเดบิ้วต์ของ J.cole "Cole World"
- ทำ Cover เพลง "Born Sinner" และเขียนยกย่องโคลในเพลงอย่าง "Hiphop Phile" จนพอมีอัลบั้มแรก ได้ไปเดบิวต์สเตจที่เทศกาลดนตรีใหญ่ก็ได้เจอไอดอลในดวงใจ จนมาถึงวันนี้ ได้ร่วมงานกับเขา
และเจโฮปก็กำลังจะพักงานไปช่วงหนึ่งเพราะกำลังจะเข้ากรม แต่เนื้อเพลงก็ยังให้ความหวังว่าที่เขาทำมาทั้งหมด เขาทำด้วยความรักและความหวังเสมอมา และจะทำเพลงด้วยความรักในเสียงเพลงและความหวังแบบนี้ต่อไป
บทวิเคราะห์ MV "On The Street" เส้นทางสายดนตรีของ เจโฮป
เริ่มต้นเปิดเอ็มวีมาเจโฮปอยู่กับเด็กคนหนึ่ง จากการวิเคราะห์
1. ถ้าเป็นแบบเดียวกับเอ็มวีของจิน เด็กคนนี้คือตัวแทนของอาร์มี่ (อาร์มี่อายุประมาณ 10 ขวบ เด็กผู้ชายคนนี้และเด็กผู้หญิงใน mv the astronaut ก็อายุประมาณนี้เช่นกัน)
เจโฮปกำลังบอกลาเด็กคนนี้พร้อมให้ความหวังและการยืนยันว่าเขาจะกลับมา จากที่บอกลาไปแล้วแต่เด็กก็ยังเหลียวหลังหันมาอีกรอบ เจโฮปก็ยิ้มและส่งเด็กคนนี้ให้ไปเติบโตด้วยตนเองในขณะที่เขาไม่อยู่
2. แต่ถ้าตีความตามเนื้อเพลง Future ในอัลบั้ม Jack in The Box เด็กคนนั้นอาจหมายถึงความตั้งใจของเจโฮปที่อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อไปก็เป็นได้ (จากการแสดงเพลง Future เป็นเพลงปิดที่
เทศกาลดนตรี lollapalooza และที่งานมอบรางวัล MAMA) สังเกตได้จากการที่เด็กคนนี้ใส่หูฟังฟัง
เพลง เขาก็อาจจะเป็นคนที่มีpassion เกี่ยวกับดนตรีเหมือนเจโฮป
3. หรืออีกความเป็นไปได้คือเด็กคนนั้นคือตัวแทนของจองโฮซอกในวัย 10 ขวบที่เริ่มต้นเรียนเต้นจาก
การที่เด็กคนนี้แต่งตัวเหมือน J.cole ในเอ็มวีนี้เลย เสื้อพัฟเฟอร์แจ็กเก็ตสีเขียวมะกอก กางเกงขา
ยาวสีดำซึ่งก็คือเด็กชายจองโฮซอกที่มี J.cole เป็นแรงบันดาลใจให้มีpassion เกี่ยวกับดนตรีฮิปฮอปและเสียงเพลง และข้างๆกันที่ฟุตบาตอีกข้าง มีคู่รักคู่หนึ่งกำลังเดินอยู่ซึ่งอาจจะหมายถึงพ่อแม่ของเจโฮปก็เป็นได้ เจโฮปกำลังขอบคุณตัวเองในอดีตที่เลือกเส้นทางนี้ที่นำพาเขามาถึงทุกวันนี้และ
ขอบคุณพ่อแม่ที่สนับสนุนเขา (โดยเฉพาะคุณแม่อย่างที่เจโฮปเคยกล่าวขอบคุณไว้ในเพลง
เดี่ยว MAMA ในอัลบั้ม Wings และจากการดูแลพ่อแม่ของเจโฮปในสารคดีJack In the
Box) หรือถ้าไม่ใช่การขอบคุณ เขาก็กำลังบอกลาช่วงเวลาวัยเด็กและพ่อแม่ของเขาเพื่อที่จะมา
เดินทางในเส้นทางนี้
นอกเหนือจากนี้ตรอกถนนในฉากแรก เป็นสถานที่เดียวกันกับที่ J.cole เคยใชถ่าย MV เพลง Simba ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลในอัลบั้มเดบิ้วต์ของเขาในปี 2007
และเด็กคนนี้ก็ใสรองเท้า Air Jordan’s (J’s) รุ่น 11s (ซึ่งตอนนี้เจโฮปก็มีใส่อยู่คู่หนึ่ง) ซึ่งเป็นรองเท้าที่เจ
โคลเคยพูดถึงในเนื้อเพลง Higher ซึ่งเป็นหนึ่งเพลงใน Friday Night Lights Mixtape ซึ่งเป็นเพลงและมิกซ์เทปโปรดของเจโฮป ซึ่งในเนื้อเพลงท่อนที่เจโฮปร้องมีท่อนที่ร้องว่า "J in the Air" ซึ่งเน้นย้ำ ดีเทลเล็กๆใส่มาในนี้ด้วยถือเป็นการ pay homage ให้ศิลปินที่เจโฮปเคารพและให้กับวงการฮิปฮอปดั้งเดิม (og hiphop) ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนคลับคุณโคลมักจะสังเกตเห็นในรายละเอียดนี้ได้และชื่นชมเจโฮปมากๆในเอ็มวีนี้ที่ให้ความเคารพกับคุณโคลและต้นกำเนิดฮิปฮอปเป็นอย่างดี
ต่อมาที่กล้องแพนไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวางดอกไม้ลงบนอนุสรณ์ดอกไม้ที่วางอยู่ที่พื้นถนน แม้จะเห็นเป็นลางๆ มีอาร์มี่อินเตอร์วิเคราะห์ว่าดอกไม้เหล่านี้อาจมีดอก chrysanthemum ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ใช้ในการไว้อาลัยและมีดอก daisy และ tulip ซึ่งเป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความบริสุทธิ์และความหวัง
ซึ่งสะท้อนไอเดียโดยรวมของเพลงนี้อย่างที่เจโฮปได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "สำหรับผม ถนนคือสถานที่ที่เราสามารถพบเจอและรู้สึกได้ถึงชีวิตจริง ๆ ของมนุษย์กล่าวคือ ความบริสุทธิ์ของจิตใจเด็ก การพบเจอใครเป็นครั้งแรกแล้วตกหลุมรัก คนที่กำลังอยู่ในภาวะเร่งรีบ การทะเลาะกัน การบอกเลิกกัน ฯลฯ เส้นทางถนนเปรียบเทียบได้กับชีวิต ผมพยายามจะถ่ายทอดสารทั้งหมดเหล่านี้ลงในเพลงและแบ่งปันความหวังและกำลังใจให้ผู้คนที่กำลังก้าวเดินไปบนเส้นทางชีวิตของตนเอง"
ต่อมาเจโฮปก็เริ่มต้นการเป็นนักเต้น street dance ในเอ็มวีก็ตรงไปตรงมาเลยว่าหลังจากบอกลาเด็กชายคนนั้น เจโฮปก็เริ่มเต้นไปตามท้องถนน = street dance
ในเอ็มวีเจโฮปเดินลงบันไดมาสู่สถานีรถไฟ"ใต้ดิน" แสดงถึงการที่เจโฮปเริ่มมีชื่อเสียงในวงการเต้น"ใต้ดิน"ของเกาหลี (จริงๆ เจโฮปเคยได้รางวัลเต้นระดับชาติของเกาหลีตอนปี2008ด้วย)
ในขณะเดียวกันเจโคลก็ยืนอยู่บนดาดฟ้า ซึ่งเป็นที่สูงสุด ส่วนเจโฮปก็เต้นอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินพร้อมกับท่อนแรปของคุณโคล แสดงถึงช่วงเวลาตอนเจโฮปยังอยู่ใต้ดิน ซ้อมเต้นกับเพลงของคุณโคล คุณโคลเป็นศิลปินฮิปฮอประดับตำนานที่เป็นตัว top ของโลก
เขียนให้เห็นภาพง่ายๆคือ
เจโคลบนดาดฟ้าซึ่งเป็นจุดสูงสุดของตึก = จุดสูงสุดของวงการ เป็นศิลปินระดับตำนาน
เจโฮปเต้นอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน = ขณะนั้นเจโฮปยังเป็นนักเต้นสตรีทแดนซ์ใต้ดิน
เจโฮปเต้นกับท่อนแรปของเจโคล = เจโฮปโตมากับการเต้นกับเพลงคุณโคล มีคุณโคลเป็นแรงบันดาลใจ
หลังจากนั้นเจโฮปก็ขึ้นรถไฟใต้ดิน ซึ่งเดาว่า หมายถึงจากบ้านที่กวางจูมาโซล เพื่อมาตามความฝันใน
ฐานะเด็กฝึก
จากนั้นเจโฮปก็ขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน มาเดินอยู่บนถนน เทียบได้กับการเปลี่ยนผ่านจากวงการใต้ดินมาสู่วงการไอดอลในฐานะเมมเบอร์วง BTS
ตามท่อนแรปที่เจโฮปเคยแรปใน cypher pt.1 ว่าเขาอยู่เหนือ minorsแล้ว (เล่นคำได้ว่า minors = เล็ก ต่ำต้อยกว่า (ใช้ในนิยามของนักดนตรีได้ด้วย minor/major), miners = คน
ทำเหมืองอยู่ใต้ดิน) พวกเขาเป็น major (คนที่ใหญ่กว่า อยู่สูงกว่า)
และท่อนแรปที่ยุนกิเคยแรปไว้ในcypher pt.2 ว่า BTS ไม่เล่นอยู่กับพวกใต้ดินแล้ว พวกเขาอยู่เหนือพวกใต้ดิน = บนดิน
หลังจากที่วง BTS ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ค่อยๆเติบโตจนมีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ในที่สุดเจโฮปก็มีชื่อเสียงขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุด ในระดับเดียวกันและได้ร่วมงานกับเจโคลที่เขายกย่องให้เป็นไอดอลในดวงใจมาโดยตลอด
ข้อสังเกตจาก MV นี้คือ ตั้งแต่ต้นจนฉากสุดท้าย เจโฮปเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดิน เต้น นั่งอยู่บนรถไฟที่เคลื่อนที่ จนกระทั่งมาเจอเจโคลบนดาดฟ้าถึงได้หยุดเคลื่อนที่ เหมือนกับเส้นทางชีวิตของเจโฮปตลอดมา
ตั้งแต่เด็กๆ ที่เขาต้องคอยผลักดันตัวเองให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ต้องพัฒนาตัวเอง ฝึกเต้น ฝึกแรป ทำงาน
อย่างหนักมากว่า 10 ปีตั้งแต่ก่อนเดบิวต์พอมาจนถึงจุดนี้เขาก็กำลังจะหยุดเคลื่อนที่ไปพักหนึ่งที่จุดสูงสุด
แห่งนี้จุดที่เขาได้มาพบกับแรงบันดาลใจ ไอดอลในดวงใจของเขา และจะหยุดพักไปช่วงหนึ่งจากการเข้ากรม
สรุปแล้ว MV นี้คือการสรุปเส้นทางของเจโฮปจากเด็กวัย 10 ขวบที่เลือกเรียนเต้น มาเป็นสมาชิกทีมเต้นนิวรอน มีคุณโคลเป็นไอดอล จากบ้านเกิดที่กวางจูมาโซลเพื่อมาเป็นเด็กฝึกเดบิวต์เป็น BTS วงไอดอลที่ไม่รู้จะไปรอดหรือไม่จนตอนนี้เป็นวงศิลปิน 7 คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน
เจโฮปได้แรงบันดาลใจจากคุณโคลมากมาย
-ตั้งสเตจเนมจากไอดอลของตัวเอง J.cole -> J-hope
-มิกซ์เทปแรก "Hope World" ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่ออัลบั้มเดบิ้วต์ของ J.cole "Cole World"
- ทำ Cover เพลง "Born Sinner" และเขียนยกย่องโคลในเพลงอย่าง "Hiphop Phile" จนพอมีอัลบั้มแรก ได้ไปเดบิวต์สเตจที่เทศกาลดนตรีใหญ่ก็ได้เจอไอดอลในดวงใจ จนมาถึงวันนี้ ได้ร่วมงานกับเขา
และเจโฮปก็กำลังจะพักงานไปช่วงหนึ่งเพราะกำลังจะเข้ากรม แต่เนื้อเพลงก็ยังให้ความหวังว่าที่เขาทำมาทั้งหมด เขาทำด้วยความรักและความหวังเสมอมา และจะทำเพลงด้วยความรักในเสียงเพลงและความหวังแบบนี้ต่อไป