คุณพ่อ ป่วยจากอุบัติเหตุมีเลือดออกในสมองเมื่อปลายปี 64 ค่ะ
-เมื่อพ่อได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านสภาพร่างกายแกดูแข็งแรงกว่าตอนนี้ค่ะ เมื่อต้องมีคนอยู่ดูแล ภาระการดูแลพ่อตกเป็นของน้องชายคนเล็กด้วยเรื่องที่เขาไม่มีภาระหนี้สินใดๆ และเขาไม่สามารถหารายได้เพื่อนซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายถ้าหากพี่น้องคนอื่นไปคนอยู่ดูแลค่ะ
-เราเป็นผู้หญิงคนเดียวแต่เป็นคนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านค่ะ พี่ชายแค่ช่วยออกค่ากับข้าวรายวันซึ่งสลับกันจ่ายกับเราค่ะ เขาค่อนข้างเห็นแก่ตัวไม่ค่อยมีความเป็นพี่คนโต
-ช่วงครึ่งปีแรกที่พ่อป่วย แกฟื้นตัวได้ดี จนเดินไปเที่ยวบ้านเพื่อนบ้านโดยใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองได้ค่ะ น้องชายคนดูแลพอกลับไปอยู่บ้านก็กินเหล้าแทบทุกวันและอาจมียาบ้าด้วยค่ะเพราะมีคนมาบอก แรกๆน้องไปรับจ้างบ้างเพราะพ่อดูแลตัวเองได้หมด จนมาวันนึงครั้งแรกที่น้องไปตลาดตอนเช้า พ่อเดินไปหลังบ้านเองแล้วแกล้มค่ะ ตั้งแต่วันนั้นน้องก็เหมือนคนสติหลุดโมโหพ่อ ด่าว่าพ่อไม่เชื่อฟังบอกว่าเพิ่งลุกทำไมไม่เชื่อ เพราะพอการล้มครั้งนั้น ทำให้พ่ออาการทรงๆทรุดๆและล้มซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้งค่ะ หลังๆน้องชายเหมือนคนเป็นโรคประสาทไปแล้ว อาจจะเพราะเครียด เหนื่อยที่ต้องดูแลผผู้ป่วย แต่น้องไม่ต้องทำงานรับจ้างอะไรนะคะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราเป็นคนหามาซัพพอร์ตทั้งหมดค่ะ แต่เราคิดว่าเป็นเพราะน้องกินเหล้าและเล่นยาหนักขึ้น บางครั้งโทรมาก็ชวนทะเลาะ เราพยายามใจเย็นทุกแย่างเราไม่เคยด้าน้องเลยค่ะ เราคุยกับเขาด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจทุกอย่าง แต่บางครั้งชอบข่มขู่ว่าตะฆ่าพ่อให้ตายไปเสียแล้วเขาก็จะฆ่าตัวตายตาม ครั้งแรกที่ได้ยินเราเป็นทุกข์มากค่ะ ร้องไห้เป็นห่วงกลัวน้องจะทำจริงต้องโทรไปรบกวนเพื่อนบ้านให้ช่วยแวะไปดู ตกลงเมานอนหลับไปแล้ว และก็มีพฤติกรรมแบบนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง จะเป็นหนักตอนโทรมาขอเงินเพิ่มนอกเหนื่อจากค่ากับข้าวที่ส่งให้ทุกเช้า พอตอนเที่ยงบอกให้เราสั่งข้าว ขนมที่ 7-11ให้ ถ้าเงินเราพอดราสั่งให้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็ขอทุกวันจนเคยต้ว นอกจากนี้บางวันตอนเย็นก็โทรมาขอค่าเบียร์ ค่าเหล้า พอไม่ได้ก็จะเริ่มมีปัญหาอีกแล้ว เราสงสารพ่อมากค่ะ อยากพาไปอยู่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยแต่เราก็หาเงินไม่ได้มากพอที่จะส่งแกไป พี่คนโตก็บอกมาเลยว่าไม่มีปัญญาช่วยนะ ค่าใช้จ่ายเดือน 30,000 เขาบอกช่วยได้เดือน2-3พะนซึ่งถเาให่เรารับภาระเองหมดเราหาเงินไม่ไหวค่ะ เพราะเราก็มีภาระส่วนตัว พอย้อนกลับมาที่น้องชายเวลามีปัญหา ชอบบอกว่าชีวิตเขาเป็นแบบนี้เพราะพ่อ เวลาโมโหด่าพ่อแรงๆ และพาลมาทะเลาะกับเราหาเรื่องทุกข์ใจให้ตลอดค่ะ เราเครียดจนนอนไม่หลับ เวลาน้องส่งไลน์มาเราไม่อยากเปิดอ่านเลยค่ะเรากลัวเราเครียดมาก จะให้เรากลับไปดูแลเราบอกเราไปได้นะ แต่คนอื่นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างแบบที่เราทำตอนนี้ก็ไม่มีใครทำได้ กับน้องชายเราบอกหลายครั้งว่าถ้าไม่ไหวให้เขากลับไปทำงานเสีย เราออกค่าเดินทางค่าใช้จ่ายให้ ส่วนพ่อไม่เราก็คงจะให้พี่ชายไปดู ภาระพี่ชายเราจะรับผิดชอบให้หมดถ้าไปดูพ่อ น้องชายก็มาว่าอีก ที่เขาดูแลพ่อมาเป็นปีตกลงเขาไม่มีอะไรดีใช่ไหม ชีวิตเขา
แบบนี้เพราะใคร เขาไม่สามารถไปเริ่มงาน เริ่มชีวิตใหม่ได้อีกแล้ว พูดไปพูดมา บอกเขาจะสู้สีกตั้งจะดูแลพ่อต่อ และเหตุการณ์มันวนๆซ้ำๆแบบนี้ตลอดเวลาที่พ่อป่วยเลยค่ะ เราไม่รู้จะหาทางออกยังไง เราทุกข์เพราะเราคิดว่าเราทำให้ชีวิตน้องเป็นแบนี้หรือเปล่า ทำไมเราไม่ไปช่วยน้องดูแลพ่อนะ ทำไมเราไม่พาพ่อไปฝากศูนย์นะ ทำไมเราไม่มีตังให้เยอะกว่านี้ เราเหนื่อยใจมากๆค่ะ ปล่อยวางไม่ได้สักที ตอนนี้พยายามนัดพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาแล้วค่ะ เราไม่อยากป่วยไปอีกคน เพราะตอนนี้ตัวเราเองก็เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจใส่ลิ้นหัวใจเทียมอยู่ค่ะ เราไม่รู้จะหาทางออกที่ให้ทุกคนในครอบครัวสบายและมีความสุขยังไงดี
**ปล.ที่น้องชายด้าพ่อว่าทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ เพราะก่อนหน้าพ่อกินเหล้าหนักทุกวันลูกทึกคนเตือนตลอดว่าให้เพลาๆลงบ้าง ส่งเงินให้แต่ละอาทิตย์ก็เอาไปกินเหล้าหมดค่ะ บ่นก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว ด่าว่าก็แล้วแกไม่เคยฟังจนมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นค่ะ
ขอระบายการดูแลผู้ป่วยค่ะ
-เมื่อพ่อได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านสภาพร่างกายแกดูแข็งแรงกว่าตอนนี้ค่ะ เมื่อต้องมีคนอยู่ดูแล ภาระการดูแลพ่อตกเป็นของน้องชายคนเล็กด้วยเรื่องที่เขาไม่มีภาระหนี้สินใดๆ และเขาไม่สามารถหารายได้เพื่อนซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายถ้าหากพี่น้องคนอื่นไปคนอยู่ดูแลค่ะ
-เราเป็นผู้หญิงคนเดียวแต่เป็นคนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านค่ะ พี่ชายแค่ช่วยออกค่ากับข้าวรายวันซึ่งสลับกันจ่ายกับเราค่ะ เขาค่อนข้างเห็นแก่ตัวไม่ค่อยมีความเป็นพี่คนโต
-ช่วงครึ่งปีแรกที่พ่อป่วย แกฟื้นตัวได้ดี จนเดินไปเที่ยวบ้านเพื่อนบ้านโดยใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองได้ค่ะ น้องชายคนดูแลพอกลับไปอยู่บ้านก็กินเหล้าแทบทุกวันและอาจมียาบ้าด้วยค่ะเพราะมีคนมาบอก แรกๆน้องไปรับจ้างบ้างเพราะพ่อดูแลตัวเองได้หมด จนมาวันนึงครั้งแรกที่น้องไปตลาดตอนเช้า พ่อเดินไปหลังบ้านเองแล้วแกล้มค่ะ ตั้งแต่วันนั้นน้องก็เหมือนคนสติหลุดโมโหพ่อ ด่าว่าพ่อไม่เชื่อฟังบอกว่าเพิ่งลุกทำไมไม่เชื่อ เพราะพอการล้มครั้งนั้น ทำให้พ่ออาการทรงๆทรุดๆและล้มซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้งค่ะ หลังๆน้องชายเหมือนคนเป็นโรคประสาทไปแล้ว อาจจะเพราะเครียด เหนื่อยที่ต้องดูแลผผู้ป่วย แต่น้องไม่ต้องทำงานรับจ้างอะไรนะคะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราเป็นคนหามาซัพพอร์ตทั้งหมดค่ะ แต่เราคิดว่าเป็นเพราะน้องกินเหล้าและเล่นยาหนักขึ้น บางครั้งโทรมาก็ชวนทะเลาะ เราพยายามใจเย็นทุกแย่างเราไม่เคยด้าน้องเลยค่ะ เราคุยกับเขาด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจทุกอย่าง แต่บางครั้งชอบข่มขู่ว่าตะฆ่าพ่อให้ตายไปเสียแล้วเขาก็จะฆ่าตัวตายตาม ครั้งแรกที่ได้ยินเราเป็นทุกข์มากค่ะ ร้องไห้เป็นห่วงกลัวน้องจะทำจริงต้องโทรไปรบกวนเพื่อนบ้านให้ช่วยแวะไปดู ตกลงเมานอนหลับไปแล้ว และก็มีพฤติกรรมแบบนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง จะเป็นหนักตอนโทรมาขอเงินเพิ่มนอกเหนื่อจากค่ากับข้าวที่ส่งให้ทุกเช้า พอตอนเที่ยงบอกให้เราสั่งข้าว ขนมที่ 7-11ให้ ถ้าเงินเราพอดราสั่งให้ตลอดนะคะ แต่บางทีก็ขอทุกวันจนเคยต้ว นอกจากนี้บางวันตอนเย็นก็โทรมาขอค่าเบียร์ ค่าเหล้า พอไม่ได้ก็จะเริ่มมีปัญหาอีกแล้ว เราสงสารพ่อมากค่ะ อยากพาไปอยู่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยแต่เราก็หาเงินไม่ได้มากพอที่จะส่งแกไป พี่คนโตก็บอกมาเลยว่าไม่มีปัญญาช่วยนะ ค่าใช้จ่ายเดือน 30,000 เขาบอกช่วยได้เดือน2-3พะนซึ่งถเาให่เรารับภาระเองหมดเราหาเงินไม่ไหวค่ะ เพราะเราก็มีภาระส่วนตัว พอย้อนกลับมาที่น้องชายเวลามีปัญหา ชอบบอกว่าชีวิตเขาเป็นแบบนี้เพราะพ่อ เวลาโมโหด่าพ่อแรงๆ และพาลมาทะเลาะกับเราหาเรื่องทุกข์ใจให้ตลอดค่ะ เราเครียดจนนอนไม่หลับ เวลาน้องส่งไลน์มาเราไม่อยากเปิดอ่านเลยค่ะเรากลัวเราเครียดมาก จะให้เรากลับไปดูแลเราบอกเราไปได้นะ แต่คนอื่นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างแบบที่เราทำตอนนี้ก็ไม่มีใครทำได้ กับน้องชายเราบอกหลายครั้งว่าถ้าไม่ไหวให้เขากลับไปทำงานเสีย เราออกค่าเดินทางค่าใช้จ่ายให้ ส่วนพ่อไม่เราก็คงจะให้พี่ชายไปดู ภาระพี่ชายเราจะรับผิดชอบให้หมดถ้าไปดูพ่อ น้องชายก็มาว่าอีก ที่เขาดูแลพ่อมาเป็นปีตกลงเขาไม่มีอะไรดีใช่ไหม ชีวิตเขาแบบนี้เพราะใคร เขาไม่สามารถไปเริ่มงาน เริ่มชีวิตใหม่ได้อีกแล้ว พูดไปพูดมา บอกเขาจะสู้สีกตั้งจะดูแลพ่อต่อ และเหตุการณ์มันวนๆซ้ำๆแบบนี้ตลอดเวลาที่พ่อป่วยเลยค่ะ เราไม่รู้จะหาทางออกยังไง เราทุกข์เพราะเราคิดว่าเราทำให้ชีวิตน้องเป็นแบนี้หรือเปล่า ทำไมเราไม่ไปช่วยน้องดูแลพ่อนะ ทำไมเราไม่พาพ่อไปฝากศูนย์นะ ทำไมเราไม่มีตังให้เยอะกว่านี้ เราเหนื่อยใจมากๆค่ะ ปล่อยวางไม่ได้สักที ตอนนี้พยายามนัดพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาแล้วค่ะ เราไม่อยากป่วยไปอีกคน เพราะตอนนี้ตัวเราเองก็เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจใส่ลิ้นหัวใจเทียมอยู่ค่ะ เราไม่รู้จะหาทางออกที่ให้ทุกคนในครอบครัวสบายและมีความสุขยังไงดี
**ปล.ที่น้องชายด้าพ่อว่าทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ เพราะก่อนหน้าพ่อกินเหล้าหนักทุกวันลูกทึกคนเตือนตลอดว่าให้เพลาๆลงบ้าง ส่งเงินให้แต่ละอาทิตย์ก็เอาไปกินเหล้าหมดค่ะ บ่นก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว ด่าว่าก็แล้วแกไม่เคยฟังจนมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นค่ะ