คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ใช้กับบอลระดับอาชีพ ไม่น่าจะเหมาะครับ ผมเป็นเจ้าของสโมสรผมก็คงไม่อยากเอาเงินผมไปเสี่ยงกับกติกาแบบนี้แน่นอน
แต่ถ้าเอาไปประยุกต์ใช้กับฟุตบอลเด็กระดับอคาเดมี่ หรือ ฟุตบอลนักเรียน อันนี้น่าจะเวิร์คหน่อย เช่น ทุกๆ 3 ประตูที่ทำได้จะได้คะแนนพิเศษ 1 แต้ม
ในกรณีต้องการจะฝึกเด็กให้ฝึกวิธีการล่าประตู ฝึกจังหวะการจบสกอร์ ฝึกจังหวะการเข้าทำแบบเน้นเฉพาะ
เหมือนที่มีให้ยิงจุดโทษหลังจบเกมแล้วเอาผลมารวมกับสกอร์จริงในเกม เพื่อฝึกเด็กให้ยิงจุดโทษนั่นแหละ
แต่ถ้าเอาไปประยุกต์ใช้กับฟุตบอลเด็กระดับอคาเดมี่ หรือ ฟุตบอลนักเรียน อันนี้น่าจะเวิร์คหน่อย เช่น ทุกๆ 3 ประตูที่ทำได้จะได้คะแนนพิเศษ 1 แต้ม
ในกรณีต้องการจะฝึกเด็กให้ฝึกวิธีการล่าประตู ฝึกจังหวะการจบสกอร์ ฝึกจังหวะการเข้าทำแบบเน้นเฉพาะ
เหมือนที่มีให้ยิงจุดโทษหลังจบเกมแล้วเอาผลมารวมกับสกอร์จริงในเกม เพื่อฝึกเด็กให้ยิงจุดโทษนั่นแหละ
แสดงความคิดเห็น
ฟุตบอลลีก ถ้าเปลี่ยนระบบไปใช้ GD ในการคิดแต้ม, น่าจะยุติธรรมกว่า ดีกว่าระบบคิดแต้มแบบเดิม ??
ชนะ 7-0 ก็ได้ 3 แต้ม เท่ากัน
จะชนะเท่าไหร่ๆ ก็ได้แค่ 3 แต้มเนี่แหละ
มันจะยุติธรรมหรือ ??
แต่หากเปลี่ยนมาใช้ GD แทนวิธีการให้แต้มแบบเดิม จะเกิดผลคือ....
ทั้ง 2 ฝ่ายจะเกิดความตื่นตัวในการเล่นกันมากขึ้น อยากจะทำประตูให้ได้มากขึ้น เพราะตระหนักว่า ทุกลูกที่ยิงได้ จะหมายถึงทีมได้ 1 แต้มทันที
ทีนี้ คนดูแหละที่จะได้กำไร เพราะบอลจะเล่นกันจริงจังขึ้น ดูสนุกขึ้น จนตลอดทั้ง 90 นาที
ต่อไป ไอ้แบบประเภทนำอยู่ 2 ลูก....พอนาทีที่ 70 กว่าๆหน่อยก็ดึงเกม ผ่อนเกม แล้วหันมาตั้งรับแทน, เพราะพอใจว่าแค่นี้ก็ได้ 3 แต้มแล้ว...จะได้หมดไป
พูดง่ายๆ ทุกลูกที่ทีมยิงได้ ทีมจะได้ 1 คะแนน ทันที, ลองถ้าเป็นแบบนี้ คิดว่าทีมไหนมันจะไม่อยากได้ประตูบ้างล่ะครับ จริงไหม?
ในทางตรงข้าม ทุกทีมก็ต้องตระหนักว่า จะเสียประตูไม่ได้เลย, เพราะหากเสีย คะแนนที่มีอยู่จะถูกลบไป 1 คะแนนทันทีเช่นกัน
และเมื่อตลอดเกม ทั้งสองฝ่ายต่างก็อยากจะยิงประตูกันตลอด, และต่างก็ไม่ยอมเสียประตูแบบง่ายๆด้วยกันทั้งคู่, งานนี้ คนดู จะได้กำไร
ยังไม่พอ...เพราะยังจะเป็นการเพิ่มความยุติธรรมในเกมการแข่งขัน ให้แก่กีฬาชนิดนี้ด้วย