วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี แม้จะไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่ก็เป็นวันสำคัญที่มีความหมายต่อผู้หญิงหลายคน นั่นคือ "วันสตรีสากล"
จะว่าไปแล้ว "ผู้หญิง" หรือ "สตรี" ก็มีความสามารถหรือบทบาทที่ไต่ระดับได้ไม่แพ้สุภาพบุรุษ อาจรวมไปถึงสาวสองบางคน
อาชีพ "ศิลปิน" ถือเป็นอาชีพที่ผู้คนรอบข้างละเลยไม่ได้เด็ดขาด จะเห็นได้ว่าคนที่เป็นนักดนตรีส่วนมากจะเป็นผู้ชาย
แต่สำหรับคนที่เป็น "นักร้อง" ก็มีทั้งชายและหญิงสูสีกัน นั่นย่อมพบกับ "ความสำเร็จ" ถ้าเขาและเธอมีความตั้งใจอย่างสูงส่ง
ในโอกาสอันเหมาะเจาะเช่นนี้ เราจะพาทุกท่านย้อนไปดู "นักร้องหญิง" ที่ประสบความสำเร็จด้วยปริมาณและคุณภาพ
จากการสำรวจข้อมูลของตัว จขกท เอง โดยคัดเอาเฉพาะนักร้องหญิงที่เริ่มมีผลงานเพลงชุดแรกจนกลายเป็น "ดาวรุ่ง"...
หรือเป็น "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" ของปีนั้น ๆ
เริ่มจากปี 2528 ไปถึงปี 2539 อันเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเพลงไทยเกิดการแข่งขันอย่างหนัก พาให้แฟน ๆ เป็นต้องกรี๊ดเมื่อนั้น...
รักใคร ชอบใคร? ไปดูเลย
2528 : อัญชลี จงคดีกิจ
"ปุ๊" ทายาทอดีตเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษสัญชาติไทย
จากนักเรียนนอกระดับเกียรตินิยมจึงเข้ามาหากินกับเสียงเพลง
จากนักร้องตามไนท์คลับก็กลายมาเป็นศิลปินเดี่ยวในสไตล์ร็อกแอนด์โรล
จากบทเพลง "หนึ่งเดียวคนนี้" ทำให้บรรดาหนุ่มสาวพากันคลั่งไคล้ถึงขีดสุด
หลังจากนั้นเธอก็มีทั้งผลงานเพลง งานแสดง และเดินแบบไปด้วย
ปัจจุบันในวัยใกล้เลขเจ็ด ยังคงทำธุรกิจส่วนตัวและเดินสายร้องเพลงประปราย
2529 : รวิวรรณ จินดา
"อุ้ย" นักร้องยอดเยี่ยมปี 2527 จากสยามกลการ
ออกเทปชุดแรกด้วยชื่อแปลก "รุ้งอ้วน"
ภายใต้การดันสุดตัวจากค่ายเพลงครีเอเทียฯ
ทำให้บทเพลง "พี่ชายที่แสนดี"
กลายเป็นเพลงรักหวานซึ้งที่ยังคงเผยแพร่อยู่เสมอ
ปัจจุบันผันตัวมาจับงานเป็น ดี.เจ. ของสไมล์เรดิโอ
2530 : พรพิมล ธรรมสาร
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าผู้หญิงคนนี้เคยผ่านเวทีประกวดร้องเพลงอย่างไร
แต่อย่างน้อย "ก้อย" เริ่มเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักร้องนำวงโอเวชั่น
เจ้าของเสียงร้องในเพลง "สายเกินไป" และ "แหวนแลกใจ"
พอแยกตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยวก็ขายดิบขายดีไม่แพ้กัน
จากงานเพลงในกรุ๊ป "ซูเปอร์ฮิต" และ "เมกกะแดนซ์"
แล้วห่างหายจากวงการเสียนาน จึงหันเหไปรับหน้าที่ทางการเมืองท้องถิ่น
2531 : ไม่มีใครโดดเด่นพอ
2532 : ใหม่ เจริญปุระ
จากนักแสดงเลือดข้นมาเป็นศิลปินเดี่ยวชนิดที่คนทั่วไปไม่คาดคิด
ด้วยน้ำเสียงผนวกภาพลักษณ์ที่เข้ากันดี ไม่น่าเชื่อว่า "ใหม่ ไม้ม้วน"
จะกลายเป็นผลงานแจ้งเกิดและเป็นที่จับตามองอย่างกว้างขวาง
อัลบั้มต่อ ๆ มาจึงเป็นสิ่งพิสูจน์การพัฒนาทางการร้องอย่างทรงพลัง
ควบคู่กับการกลับมารับงานเล่นหนังและละครก็ยังทำหน้าที่ได้ไม่มีตก
เรียกว่าเป็นศิลปินที่จับงานชิ้นใดก็ยังรักษาเกรดได้ดีจนถึงทุกวันนี้
2533 : ภัสสร บุณยเกียรติ
จากเวทีประกวดนางสาวไทยรุ่นมิสปุ๋ยด้วยตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ
"ฮันนี่" จึงก้าวเข้าสู่แวดวงมายาทันที ทั้งงานถ่ายแบบและงานแสดง
ไม่นึกว่าเมื่อมาเป็นนักร้องเต็มตัวจะได้รับความสนใจเป็นที่สุดของปีโดยปริยาย
แม่เสือสาวหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวผู้นี้มาทีไรก็สามารถทะลวงใจพวกเสือป่าได้ทุกครั้ง
หลังจากเธอหันหลังให้วงการเพลงก็กลายเป็นคุณแม่สุดหวงของชายหนุ่มเคราเข้ม
ก็น้อง "อินดี้-อินทัช" นั่นไง
2534 : คริสติน่า อากีล่าร์-สุนิสา สุขบุญสังข์
"ติ๊นา" เคยเป็นนางแบบโฆษณาและเข้าประกวดเวทีความงามแล้วไปร่ำเรียนที่เมืองนอก
เมื่อกลับสู่แผ่นดินไทยก็มาลุยงานบันเทิงสืบเชื้อสายคุณพ่อซึ่งเป็นนักดนตรีเปี่ยมฝีมือ
เธอจึงเลือกงานเพลงควบงานเต้น ยิ่งทำให้แดนซ์มิวสิกอัลบั้มแรกของเธอในชื่อว่า "นินจา"
กลายเป็นอัลบั้มที่ขายแรงที่สุดของปีอย่างไม่น่าเชื่อ และเธอยังคงฝังใจกับสิ่งนี้มาตลอด
เพราะแทบจะยังไม่มีผลงานความสามารถทางด้านอื่น ๆ ให้เราได้ปลื้มกันยกใหญ่
ส่วน "อ้อม" เคยผ่านงานถ่ายแบบโฆษณาและเป็นนางเอกหนังครั้งแรกด้วยวัยเพียง 14 ปี
เมื่อกลายมาเป็นนักร้องผู้มีน้ำเสียงยียวนแต่น่าฟังยิ่งเป็นที่ชอบอกชอบใจของมวลวัยรุ่น
ทำให้ "เราคือลูกแก้ว" ขายแรงตามติดนักร้องรุ่นพี่ และยังมีผลงานตามมาหลายหลาก
ปัจจุบันเป็น ดี.เจ. พิธีกร และทำงานรับใช้ศาสนาเป็นประจำ
2535 : ศิริพร อยู่ยอด
"ตั๊ก" สาวน้อยเสียงเสน่ห์ชาวจังหวัดนครสวรรค์ผู้นี้
เคยมีดีกรีนักร้องดีเด่นของสยามกลการเมื่อปี 2532
กระทั่งในปี 2535 ชื่อของเธอติดอันดับดาวรุ่งที่ไม่ธรรมดา
"ฉันไม่ใช่นางเอก" และ "หมดห่วง"
คือเพลงสร้างชื่อที่มีการเอาไปร้องต่ออย่างสนุกปาก
ปัจจุบันเธอยังเอาดีทางด้านการแสดง งานพิธีกร
และเป็นกรรมการฝีปากจัดจ้านที่หาตัวจับยาก
ตามการแข่งขันร้องเพลงทางโทรทัศน์หลายรายการ
2536 : เสาวลักษณ์ ลีละบุตร-เจิน เจิน บุญสูงเนิน
"แอม" มีอดีตที่ยิ่งใหญ่ในฐานะหนึ่งใน สาว สาว สาว
ภายหลังแยกวงก็มีงานเดี่ยวมาให้คอเพลงได้เลือก
แต่ก็ไม่มีใครโด่งดังยิ่งใหญ่ไปกว่าแอมแน่นอน
ด้วยการดันอย่างสุดฤทธิ์ของต้นสังกัดแกรมมี่
กับความสามารถทั้งการร้องและการเขียนเพลงของเธอ
เพลง "กดดัน" และอัลบั้ม "บันทึกของดอกไม้เหล็ก"
จึงกลายเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดในปีนั้นไป
ส่วน "เจิน เจิน" มีสายเลือดศิลปินอย่างเข้มข้น
เคยผ่านเข้าเวทีประกวดร้องเพลงของสยามกลการ
หลังจากนั้นก็ไปเป็นนักร้องตามห้องอาหาร
แล้วมาออกเทปครั้งแรกด้วยบทเพลงที่บ่งรูปลักษณ์เด่นชัด
"ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง" และ "ต้องสู้จึงจะชนะ"
ก็สามารถเอาชนะใจผู้คนทุกเพศทุกวัยได้สำเร็จ
และถือเป็นเพลงที่ยังคงลือลั่นเป็นอมตะตราบปัจจุบัน
2537 : ไม่มีใครโดดเด่นพอ
2538 : อมิตา ทาทา ยัง
จากเจ้าของตำแหน่งนักร้องยุวชนยอดเยี่ยมแห่งปี 2535
สามปีถัดมากลายเป็นศิลปินเดี่ยวผู้มีฉายา "สาวน้อยมหัศจรรย์"
ทำให้ต้นสังกัดแกรมมี่ได้เศรษฐีใหม่วัยใกล้เต็มสาวเพิ่มอีกราย
ด้วยลีลา ภาพลักษณ์ และน้ำเสียงเล็ก ๆ แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
เมื่อเธอออกผลงานชุดต่อมาก็แสดงบทบาทและพลังทางการร้องมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งแยกตัวออกไปเพื่อมุ่งหน้าหาความฝันแบบโกอินเตอร์
ปัจจุบันมีความสุขกับการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
2539 : สุนิตา ลีติกุล
ก่อนที่ "โบ" จะมาเป็นศิลปินเดี่ยวเจ้าของตำนานล้านตลับตามรอยนักร้องรุ่นพี่และรุ่นน้อง
เธอเคยฝากเสียงร้องในฐานะคอรัสตามผลงานของศิลปินต่าง ๆ ภายในค่ายเดียวกัน
บทเพลงในยุคแรกอย่าง "ฉันรู้" และ "ขอเป็นคนของเธอ" คือเพลงฮิตติดทุกชาร์ตทุกสำนัก
เทปก็พลอยขายทะลุเป้าได้สมเนื้อสมตัวกับความเป็นสาวใสแก้มป่องผู้มีน้ำเสียงทรงพลัง
แต่ปัจจุบันมีความสุขกับสามีร่วมวงการและลูกวัยใกล้เต็มสาวที่เจริญตามรอยคุณแม่โบไปแล้ว!!!
สวัสดี.
เปิดตำนาน "นักร้องหญิงดาวรุ่งแห่งปี" จาก 2528 ถึง 2539 (12 ปี 12 คน)