ไม่ทิ้งนักรบด่านหน้า! ‘ภท.’ยันดันนโยบายดูแล‘อสม.-อสส.’ เพิ่มค่าเสี่ยงภัยเป็น 2 พันบาทต่อเดือน
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.เรวดี รัศมีทัต สมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวผ่านรายการ "พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ" เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบายการดูแลอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ของพรรคภูมิใจไทยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 เราจะเห็นว่า อสม.เป็นด่านแรกของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคัดกรอง หรือออกด่านชุมชน แม้กระทั่งใครติดโควิด-19 ก็ต้องนึกถึง อสม.ที่จะเป็นผู้ประสานงานกับอนามัย ก่อนที่อนามัยจะเข้ามาจัดการ ส่งตัวพี่น้องประชาชนเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือส่งยา ส่งข้าว ส่งน้ำ ในช่วงที่มีการกักตัว ทำให้ อสม.เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนในชุมชน และที่สำคัญที่สุดเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก ทำให้ชื่อเสียง อสม.โด่งดังไปทั่วโลก
น.ส.เรวดี กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข มองเห็นความสำคัญของพี่น้อง อสม. 1 ล้าน 5 หมื่นคนทั่วประเทศ ว่าเป็นกำลังสำคัญที่สุด เป็นด่านแรกของกระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถช่วยเหลือแบ่งเบางานของบุคลากรทางการแพทย์ จึงเสนอเพิ่มค่าเสี่ยงภัยให้พี่น้อง อสม.อีกเดือนละ 500 บาท จากปกติ อสม.ได้เงินค่าป่วยการ 1,000 บาท พอเสร็จแล้ว นายอนุทินจึงเสนอเล็งเห็นความสำคัญต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เพิ่มเงินค่าเสี่ยงภัย อสม.อีก 500 บาทเป็น 1,500 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้พี่น้อง อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ได้มาแล้วทั้งหมด 30 เดือน
น.ส.เรวดี กล่าวต่อว่า หลังจากเดือน 2565 ที่เราประกาศให้เป็นโรคประจำท้องถิ่น เงินค่าเสี่ยงภัยที่เพิ่มมา 500 บาท พี่น้อง อสม.และ อสส.ก็ไม่ได้แล้ว กลับมารับที่ 1,000 บาท เช่นเดิม แต่ภารกิจเรื่องโควิด-19 ยังไม่หมดไป และงานหน้าที่ของ อสม.ยังจะต้องดำเนินต่อไป และต้องไปทำหน้าที่อย่างนี้อยู่เสมอ เพราะงานสาธารณสุขมีทุกวัน เนื่องจากเป็นเรื่องของจิตอาสา เพราะว่าอย่างที่เราพูดไปตั้งแต่ต้นว่า อสม.คือด่านแรกที่พี่น้องประชาชนสามารถที่จะเข้าถึงมากที่สุด
"ความสำคัญในการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนยังมีความสำคัญ ท่านรองนายกฯ อนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จึงเสนอว่า จะต้องเพิ่มค่าป่วยการให้พี่น้อง อสม.และ อสส.อีก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า อสม.และ อสส.ยังต้องดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป" น.ส.เรวดี ระบุ
ข่าว.
https://www.naewna.com/politic/714092
พรรคภูมิใจไทย ไม่ทิ้งนักรบด่านหน้า อสม. 1 ล้าน 5 หมื่นคนทั่วประเทศ ว่าเป็นกำลังสำคัญที่สุด
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.เรวดี รัศมีทัต สมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวผ่านรายการ "พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ" เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบายการดูแลอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ของพรรคภูมิใจไทยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 เราจะเห็นว่า อสม.เป็นด่านแรกของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคัดกรอง หรือออกด่านชุมชน แม้กระทั่งใครติดโควิด-19 ก็ต้องนึกถึง อสม.ที่จะเป็นผู้ประสานงานกับอนามัย ก่อนที่อนามัยจะเข้ามาจัดการ ส่งตัวพี่น้องประชาชนเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือส่งยา ส่งข้าว ส่งน้ำ ในช่วงที่มีการกักตัว ทำให้ อสม.เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนในชุมชน และที่สำคัญที่สุดเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก ทำให้ชื่อเสียง อสม.โด่งดังไปทั่วโลก
น.ส.เรวดี กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข มองเห็นความสำคัญของพี่น้อง อสม. 1 ล้าน 5 หมื่นคนทั่วประเทศ ว่าเป็นกำลังสำคัญที่สุด เป็นด่านแรกของกระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถช่วยเหลือแบ่งเบางานของบุคลากรทางการแพทย์ จึงเสนอเพิ่มค่าเสี่ยงภัยให้พี่น้อง อสม.อีกเดือนละ 500 บาท จากปกติ อสม.ได้เงินค่าป่วยการ 1,000 บาท พอเสร็จแล้ว นายอนุทินจึงเสนอเล็งเห็นความสำคัญต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เพิ่มเงินค่าเสี่ยงภัย อสม.อีก 500 บาทเป็น 1,500 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้พี่น้อง อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ได้มาแล้วทั้งหมด 30 เดือน
น.ส.เรวดี กล่าวต่อว่า หลังจากเดือน 2565 ที่เราประกาศให้เป็นโรคประจำท้องถิ่น เงินค่าเสี่ยงภัยที่เพิ่มมา 500 บาท พี่น้อง อสม.และ อสส.ก็ไม่ได้แล้ว กลับมารับที่ 1,000 บาท เช่นเดิม แต่ภารกิจเรื่องโควิด-19 ยังไม่หมดไป และงานหน้าที่ของ อสม.ยังจะต้องดำเนินต่อไป และต้องไปทำหน้าที่อย่างนี้อยู่เสมอ เพราะงานสาธารณสุขมีทุกวัน เนื่องจากเป็นเรื่องของจิตอาสา เพราะว่าอย่างที่เราพูดไปตั้งแต่ต้นว่า อสม.คือด่านแรกที่พี่น้องประชาชนสามารถที่จะเข้าถึงมากที่สุด
"ความสำคัญในการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนยังมีความสำคัญ ท่านรองนายกฯ อนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จึงเสนอว่า จะต้องเพิ่มค่าป่วยการให้พี่น้อง อสม.และ อสส.อีก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า อสม.และ อสส.ยังต้องดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป" น.ส.เรวดี ระบุ
ข่าว. https://www.naewna.com/politic/714092