สู้ต่อไม่ไหว ร้านข้าวแกงบุฟเฟต์ พระราม 5 ขอปิดกิจการ หลังขาดทุน 3 ล้าน
https://www.thairath.co.th/news/society/2640706
ลูกค้าประจำเศร้า ร้านข้าวแกงบุฟเฟต์ 99 บาท ประกาศปิดกิจการ บอกสู้ต้นทุนไม่ไหว เปิดมา 5เดือน แต่ขาดทุนไป 3 ล้าน ด้านโซเชียลแห่ให้กำลังใจ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงใน
กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) ระบุว่า เศร้าครับ ข้าวแกง 99 บาท พระราม 5 ปิดถาวรแล้ว ร้านดีๆ คุณภาพแบบนี้เสียดาย
ต่อมา ทางร้าน
Jumbo Rạtna ได้ตอบกลับโพสต์ ระบุว่า
ขอตอบทุกคำถามนะคะ ทางเราพยายามแล้ว ทำยังไงก็ไม่ได้กำไรเลย ตั้งแต่เปิดมา 5 เดือน 22 วัน ขาดทุนไปสามล้านกว่า แบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว จะให้ลดคุณภาพ ก็ทำใจไม่ได้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้นะคะ ตอนนี้กลับมาขายแบบเดิม คือ "ร้านข้าวต้มเพื่อสุขภาพ 3 บาท แอนด์ซีฟู้ดทะเลเผา" ค่ะ ลองมาทานดูได้นะคะ อาหารราคาย่อมเยา กุ้งเผาเป็น ราคา โลละ 399 บาท (14-15 ตัว/โล) เปิดบริการ 16.00-24.00น. (หยุดทุกวันพุธ)
ทั้งยังกล่าวอีกว่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ สักวันนึงจะกลับมาทำบุฟเฟต์อีกครั้ง อย่างที่ตั้งใจจะทำให้มันสำเร็จ ขอหยุดไปตั้งหลักก่อนนะคะ ขอกลับมาขายข้าวต้ม 3 บ.อย่างที่เคยทำมา 20 กว่าปี จนมีทุนอีกครั้ง แล้วจะกลับมาเปิดข้าวแกงบุฟเฟต์อีก ดีใจที่ลูกค้าเมตตาและเข้าใจในความเต็มที่ของเรา อ่านทุกคอมเมนต์ทำให้หัวใจพองโต รู้สึกถึงความเป็นห่วงที่ทุกคนมีให้ ขอบคุณจากใจนะคะ
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก อาทิ
เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมไปกินตลอด, เสียดายมากๆ แต่เข้าใจครับ สู้ๆครับ, เสียดายจัง ไปกินมา 3 ครั้ง แต่ก็เข้าใจแบกรับรายจ่ายไม่ไหว ฯลฯ
ขอบคุณข้อมูล เฟซบุ๊กกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers), Jumbo Rạtna
โรงเรียนเอกชนหลายแห่งวิกฤติ ส่อปิดกิจการ พยุงธุรกิจไม่ไหว
https://www.bangkokbiznews.com/health/education/1055206?aoj=
นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน ยอมรับ "โรงเรียนเอกชน" หลายแห่งส่อวิกฤติปิดกิจการ กำลังเร่งช่วยเหลือ วอนรัฐปฏิบัติต่อครูและนักเรียนโรงเรียนรัฐกับเอกชนอย่างเท่าเทียม และยื่นมือแก้ไขปัญหาช่วยเหลืออย่างจริงใจ
(27 ก.พ.2566) ผศ.ดร.
ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนออกมายื่นหนังสือร้องเรียน หลังโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งแจ้งปิดกิจการกะทันหัน โดยให้เวลาผู้ปกครองล่วงหน้า 14 วัน ทำให้เตรียมตัวกันไม่ทันและได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น
ผศ.ดร.
ศุภเสฏฐ์ ระบุว่า ตอนนี้ได้พูดคุยกับเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งทาง สช.ได้มอบหมายให้กองโรงเรียนสามัญประสานงานช่วยเหลือเรื่องการรับเด็กเข้าเรียน โดยมีโรงเรียนเอกชนอื่นๆเข้ามาช่วยด้วย แต่อาจจะมีผู้ปกครองบางรายที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ซึ่ง สช.กำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่ แต่ถ้าโรงเรียนดังกล่าวไม่ทำตามก็จะเป็นเรื่องยาว ทาง สช.ก็จะต้องเข้าไปควบคุมการดำเนินกิจการชั่วคราว ตามอำนาจที่ระบุในพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะนี้ มีโรงเรียนเอกชนหลายแห่งที่กำลังประสบปัญหาในลักษณะเดียวกัน พยายามพยุงตัวเอง แต่หลายแห่งก็พยุงไม่ไหว แม้ว่า สช.จะพยายามเข้าไปช่วยในเรื่องงบประมาณและเงินทุนหมุนเวียนแล้วก็ตาม เพราะส่วนใหญ่เงินช่วยเหลือจาก สช.จะไปลงที่เด็กและผู้ปกครองเกือบทั้งหมด เช่น เงินเรียนฟรี ค่าหนังสือ ลดค่าเทอม เป็นต้น
แต่ยังมีโรงเรียนเอกชนหลายแห่งในหลายจังหวัดที่ยังมีปัญหา ก็พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อเข้าไปช่วยเหลือดูแลอยู่ ซึ่งโรงเรียนเอกชนในต่างจังหวัดจะขึ้นอยู่กับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่วนภาคใต้ 5 จังหวัดจะขึ้นอยู่กับสำนักงานการศึกษาเอกชน และในกรุงเทพฯ จะขึ้นอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
และผลสำรวจที่ระบุว่า ผู้ปกครองค้างจ่ายค่าเทอม 3-4 พันล้านบาทนั้น เป็นผลพวงหลักมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผู้ปกครองขาดรายได้ ผลประกอบกิจการไม่ได้ ทำให้หลายรายค้างค่าเทอมจริง พอเข้าปี 2566 สถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น โรงเรียนสามารถเปิดได้ตามปกติ ทำให้สามารถเก็บค่าเทอมได้เต็มๆ แต่ในส่วนของผู้ปกครองที่ตกงาน ก็เพิ่งจะได้งานทำ ยังตั้งหลักไม่ได้ จึงยังจ่ายค่าเทอมได้ไม่เต็มจำนวน ในขณะเดียวกันโรงเรียนที่ไปต่อไม่ไหว จ่อจะปิดกิจการหลายแห่ง ซึ่งคาดว่าจะยื่นแจ้งก่อนจะปิดกิจการ 120 วัน ในกรณีมีเหตุจำเป็นจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ส.ปส.กช. พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ ที่จะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะเด็กไทยไม่ว่าจะอยู่โรงเรียนเอกชนหรืออโรงเรียนรัฐ ก็ควรได้รับสิทธิช่วยเหลือที่เท่าเทียมกัน เช่น เรื่องค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นรายหัว เรื่องช่วยค่าเทอม เป็นต้น
เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง ส่วนเรื่องเงินเดือนครู ความก้าวหน้าครู ก็ควรพิจารณาช่วยเหลือด้วย นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผู้ปกครองไม่มีเงินจ่าย แต่อยากจะนำลูกหลานมาเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน เพราะมองว่า โรงเรียนเอกชนมีครูที่ดูแลเด็กใกล้ชิดกว่า หรือจัดการเรียนการสอนดีกว่าโรงเรียนรัฐ จึงยืนยันที่จะนำลูกเข้าเรียนโรงเรียนเอกชน โดยขอผ่อนจ่ายค่าเทอมบุตรหลาน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการของโรงเรียนเอกชนด้วย
ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้ลงมาช่วยเหลือในเรื่องสิทธิเด็กและครูโรงเรียนเอกชน ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมกันกับโรงเรียนของรัฐ ขอให้มุ่งเป้าไปที่เด็กอนาคตของชาติเป็นสำคัญ ส่วนด้านอื่นๆ ที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเร่งด่วนสุด ก็คือ สช.และสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน รวมถึงโรงเรียนเอกชนด้วยกัน พยายามเข้าไปช่วยเหลือโรงเรียนที่กำลังเกิดวิกฤติเพื่อประคับประคองให้เดินหน้าต่อไปได้
เพราะแม้ว่า สช.จะเป็นแหล่งเงินกู้ แต่ก็มีบางแห่งที่ไม่สามารถกู้ได้เพราะผิดหลักเกณฑ์ จึงไม่มีเงินมาหมุนเวียนกิจการ จึงต้องขอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในกรณีนี้ด้วย เพราะการจะสร้างคนให้มีคุณภาพทางการศึกษา ภาครัฐจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุนอย่างจริงใจ ประเทศชาติจึงจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ด้าน นาย
สมเกียรติ ชินโคตร รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ นครราชสีมา (MBAC) วิทยาลัยอาชีวะเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ของทางวิทยาลัยฯ ตอนนี้ปริมาณจำนวนนักเรียนลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน มีนักเรียนทั้ง ปวช.และ ปวส. รวม 823 คน ซึ่งต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่มีนักเรียนอยู่ประมาณพันกว่าคน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเด็กส่วนใหญ่สนใจที่จะเรียนสายสามัญมากกว่าสายอาชีพ อีกทั้งยังมีวิทยาลัยอาชีวะทั้งภาคเอกชนและภาครัฐภายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เปิดมากกว่า 20 แห่ง ยิ่งทำให้เด็กมีทางเลือกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เด็กจะเน้นไปเข้าเรียนวิทยาลัยอาชีวะของภาครัฐ
ทางวิทยาลัยเองก็พยายามที่จะพัฒนาในส่วนของการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับนักเรียน ทั้งทางเทคโนโลยี สื่อการเรียนการสอนต่างๆ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้ปกครองในการที่จะนำลูกหลานเข้ามาเรียน แต่อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่า งบประมาณในการพัฒนาโรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่มาจากเงินค่าเทอม ซึ่งถ้าจำนวนนักเรียนในแต่ละปีมีน้อยลงไปเรื่อยๆ ก็อาจทำให้ผู้บริหารโรงเรียนจำเป็นต้องปิดสถานศึกษาลง
และถึงแม้ว่าโรงเรียนเอกชนต่างๆ จะได้เงินอุดหนุนจากทางรัฐบาล แต่อยากฝากไปยังรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐให้ช่วยสนับสนุนเรื่องของการพัฒนาบุคลากรครูผู้สอน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและทักษะในการสอนให้เพิ่มมากขึ้น
รวมไปถึงการสนับสนุนอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนการสอนให้กับนักเรียน รวมทั้ง เรื่องการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากจน เพราะนักเรียนส่วนหนึ่งที่มาเรียนที่นี่ ไม่ใช่ว่าจะมีเงินกันทุกคน และสุดท้ายคือ อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องของการบริหารวิทยาลัยอาชีวะในภาคเอกชน ทั้งในเรื่องของโปรแกรมการบริหาร การสนับสนุนบุคลากรในการให้ความรู้ รวมไปถึงเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ ในการพัฒนาวิทยาลัย เพื่อให้วิทยาลัยอาชีวะเอกชนและโรงเรียนเอกชนที่ประสบปัญหาอยู่ให้มีทางรอดมากยิ่งขึ้น
มะนาวสุดแพง จ่อทะลุ 10 บาท/ลูก เหตุต้นทุนปุ๋ย-ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/191387
มะนาวกำลังอยู่ในช่วงราคาแพง ล่าสุดทีมข่าว PPTV ลงพื้นไปสำรวจที่ตลาดยิ่งเจริญ พบราคาจ่อทะลุ 10 บาท/ลูก แม่ค้าเผยปีนี้แพงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนค่าปุ๋ยและค่าขนส่งเพิ่มขึ้น
ตอนนี้ราคามะนาวแพงขึ้นมากกว่าเท่าตัว อยู่ที่ลูกละเกือบ 10 บาทแล้ว โดยเช้านี้ 27 ก.พ.66 ทีมข่าว PPTV ลงพื้นไปสำรวจที่ตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพมหานคร พ่อค้าแม่ค้าตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อเข้าช่วงหน้าแล้ง ผลผลิตจึงน้อยลง ทำให้ราคามะนาวดีดตัวขึ้นแบบนี้เป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้แพงกว่าปีก่อน ๆ เพราะมีปัญหาในเรื่องของต้นทุนค่าปุ๋ย และค่าขนส่งที่แพงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ที่แผงผักที่ตลาดยิ่งเจริญ ยังพบว่ามีผักหลายชนิดขยับราคาขึ้นมา โดยเฉพาะมะนาว ที่ราคาแพงขึ้นมากว่าเท่าตัว
ซึ่งมะนาวแป้นลูกใหญ่ตอนนี้อยู่ที่ลูกละ 8-9 บาท ส่วนขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้กันก็ขยับขึ้นมาจากลูกละ 3 บาท เป็น 6 บาท
พ่อค้ารายหนึ่ง ระบุว่า ราคามะนาวขยับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงนี้ต้นทุนด้านขนส่งและค่าปุ๋ยก็แพงขึ้นด้วย ทำให้กังวลว่าราคามะนาวอาจขึ้นเกิน 10 บาท
นอกจากนี้ยังมีผักอีกหลายอย่างที่ขึ้นราคา เช่น ถั่วฝักยาว อยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท จากเดิท 30 บาท แตงกวา และมะละกอ อยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งเมื่อวัตถุดิบราคาแพงขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบไปถึงบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหารด้วยที่ต้องแบกรับต้นทุนที่แพงขึ้นตามไปด้วย
ด้านกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ไปยังสวนมะนาวที่ จ.ราชบุรี เพื่อตามติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณผลผลิต ซึ่งพบว่าต้นมะนาวบางส่วนเริ่มติดดอกใหม่ในปริมาณมากขึ้นแล้ว คาดว่าผลผลิตจะเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และกลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงพฤษภาคม โดยช่วงหน้าแล้งคาดว่าจะมีราคาอยู่ในช่วงลูกละ 7-8 บาท
ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายใน ได้ร่วมมือกับตลาดต่าง ๆ เพื่อนำผลผลิตมะนาวจากตลาดกลางออกจำหน่ายราคาถูกผ่านรถโมบายพาณิชย์ มีอยู่มากกว่า 100 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับกับประชาชนผู้บริโภค รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่จำเป็นต้องใช้มะนาวในราคาขายส่ง
JJNY : 7in1 สู้ต่อไม่ไหว│รร.เอกชนวิกฤติ│มะนาวสุดแพง│พท.หวั่น กกต.│‘โรม’ขยี้‘ตู่’│ชูวิทย์ฉุนขาด│โดรนถล่มบินรบรัสเซีย
https://www.thairath.co.th/news/society/2640706
ลูกค้าประจำเศร้า ร้านข้าวแกงบุฟเฟต์ 99 บาท ประกาศปิดกิจการ บอกสู้ต้นทุนไม่ไหว เปิดมา 5เดือน แต่ขาดทุนไป 3 ล้าน ด้านโซเชียลแห่ให้กำลังใจ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงใน กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers) ระบุว่า เศร้าครับ ข้าวแกง 99 บาท พระราม 5 ปิดถาวรแล้ว ร้านดีๆ คุณภาพแบบนี้เสียดาย
ต่อมา ทางร้าน Jumbo Rạtna ได้ตอบกลับโพสต์ ระบุว่า ขอตอบทุกคำถามนะคะ ทางเราพยายามแล้ว ทำยังไงก็ไม่ได้กำไรเลย ตั้งแต่เปิดมา 5 เดือน 22 วัน ขาดทุนไปสามล้านกว่า แบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว จะให้ลดคุณภาพ ก็ทำใจไม่ได้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้นะคะ ตอนนี้กลับมาขายแบบเดิม คือ "ร้านข้าวต้มเพื่อสุขภาพ 3 บาท แอนด์ซีฟู้ดทะเลเผา" ค่ะ ลองมาทานดูได้นะคะ อาหารราคาย่อมเยา กุ้งเผาเป็น ราคา โลละ 399 บาท (14-15 ตัว/โล) เปิดบริการ 16.00-24.00น. (หยุดทุกวันพุธ)
ทั้งยังกล่าวอีกว่า ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ สักวันนึงจะกลับมาทำบุฟเฟต์อีกครั้ง อย่างที่ตั้งใจจะทำให้มันสำเร็จ ขอหยุดไปตั้งหลักก่อนนะคะ ขอกลับมาขายข้าวต้ม 3 บ.อย่างที่เคยทำมา 20 กว่าปี จนมีทุนอีกครั้ง แล้วจะกลับมาเปิดข้าวแกงบุฟเฟต์อีก ดีใจที่ลูกค้าเมตตาและเข้าใจในความเต็มที่ของเรา อ่านทุกคอมเมนต์ทำให้หัวใจพองโต รู้สึกถึงความเป็นห่วงที่ทุกคนมีให้ ขอบคุณจากใจนะคะ
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก อาทิ เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมไปกินตลอด, เสียดายมากๆ แต่เข้าใจครับ สู้ๆครับ, เสียดายจัง ไปกินมา 3 ครั้ง แต่ก็เข้าใจแบกรับรายจ่ายไม่ไหว ฯลฯ
โรงเรียนเอกชนหลายแห่งวิกฤติ ส่อปิดกิจการ พยุงธุรกิจไม่ไหว
https://www.bangkokbiznews.com/health/education/1055206?aoj=
นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน ยอมรับ "โรงเรียนเอกชน" หลายแห่งส่อวิกฤติปิดกิจการ กำลังเร่งช่วยเหลือ วอนรัฐปฏิบัติต่อครูและนักเรียนโรงเรียนรัฐกับเอกชนอย่างเท่าเทียม และยื่นมือแก้ไขปัญหาช่วยเหลืออย่างจริงใจ
(27 ก.พ.2566) ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนออกมายื่นหนังสือร้องเรียน หลังโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งแจ้งปิดกิจการกะทันหัน โดยให้เวลาผู้ปกครองล่วงหน้า 14 วัน ทำให้เตรียมตัวกันไม่ทันและได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น
ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ ระบุว่า ตอนนี้ได้พูดคุยกับเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งทาง สช.ได้มอบหมายให้กองโรงเรียนสามัญประสานงานช่วยเหลือเรื่องการรับเด็กเข้าเรียน โดยมีโรงเรียนเอกชนอื่นๆเข้ามาช่วยด้วย แต่อาจจะมีผู้ปกครองบางรายที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ซึ่ง สช.กำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่ แต่ถ้าโรงเรียนดังกล่าวไม่ทำตามก็จะเป็นเรื่องยาว ทาง สช.ก็จะต้องเข้าไปควบคุมการดำเนินกิจการชั่วคราว ตามอำนาจที่ระบุในพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะนี้ มีโรงเรียนเอกชนหลายแห่งที่กำลังประสบปัญหาในลักษณะเดียวกัน พยายามพยุงตัวเอง แต่หลายแห่งก็พยุงไม่ไหว แม้ว่า สช.จะพยายามเข้าไปช่วยในเรื่องงบประมาณและเงินทุนหมุนเวียนแล้วก็ตาม เพราะส่วนใหญ่เงินช่วยเหลือจาก สช.จะไปลงที่เด็กและผู้ปกครองเกือบทั้งหมด เช่น เงินเรียนฟรี ค่าหนังสือ ลดค่าเทอม เป็นต้น
แต่ยังมีโรงเรียนเอกชนหลายแห่งในหลายจังหวัดที่ยังมีปัญหา ก็พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อเข้าไปช่วยเหลือดูแลอยู่ ซึ่งโรงเรียนเอกชนในต่างจังหวัดจะขึ้นอยู่กับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่วนภาคใต้ 5 จังหวัดจะขึ้นอยู่กับสำนักงานการศึกษาเอกชน และในกรุงเทพฯ จะขึ้นอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
และผลสำรวจที่ระบุว่า ผู้ปกครองค้างจ่ายค่าเทอม 3-4 พันล้านบาทนั้น เป็นผลพวงหลักมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผู้ปกครองขาดรายได้ ผลประกอบกิจการไม่ได้ ทำให้หลายรายค้างค่าเทอมจริง พอเข้าปี 2566 สถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น โรงเรียนสามารถเปิดได้ตามปกติ ทำให้สามารถเก็บค่าเทอมได้เต็มๆ แต่ในส่วนของผู้ปกครองที่ตกงาน ก็เพิ่งจะได้งานทำ ยังตั้งหลักไม่ได้ จึงยังจ่ายค่าเทอมได้ไม่เต็มจำนวน ในขณะเดียวกันโรงเรียนที่ไปต่อไม่ไหว จ่อจะปิดกิจการหลายแห่ง ซึ่งคาดว่าจะยื่นแจ้งก่อนจะปิดกิจการ 120 วัน ในกรณีมีเหตุจำเป็นจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ส.ปส.กช. พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ ที่จะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะเด็กไทยไม่ว่าจะอยู่โรงเรียนเอกชนหรืออโรงเรียนรัฐ ก็ควรได้รับสิทธิช่วยเหลือที่เท่าเทียมกัน เช่น เรื่องค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นรายหัว เรื่องช่วยค่าเทอม เป็นต้น
เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง ส่วนเรื่องเงินเดือนครู ความก้าวหน้าครู ก็ควรพิจารณาช่วยเหลือด้วย นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผู้ปกครองไม่มีเงินจ่าย แต่อยากจะนำลูกหลานมาเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน เพราะมองว่า โรงเรียนเอกชนมีครูที่ดูแลเด็กใกล้ชิดกว่า หรือจัดการเรียนการสอนดีกว่าโรงเรียนรัฐ จึงยืนยันที่จะนำลูกเข้าเรียนโรงเรียนเอกชน โดยขอผ่อนจ่ายค่าเทอมบุตรหลาน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการของโรงเรียนเอกชนด้วย
ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้ลงมาช่วยเหลือในเรื่องสิทธิเด็กและครูโรงเรียนเอกชน ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมกันกับโรงเรียนของรัฐ ขอให้มุ่งเป้าไปที่เด็กอนาคตของชาติเป็นสำคัญ ส่วนด้านอื่นๆ ที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเร่งด่วนสุด ก็คือ สช.และสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน รวมถึงโรงเรียนเอกชนด้วยกัน พยายามเข้าไปช่วยเหลือโรงเรียนที่กำลังเกิดวิกฤติเพื่อประคับประคองให้เดินหน้าต่อไปได้
เพราะแม้ว่า สช.จะเป็นแหล่งเงินกู้ แต่ก็มีบางแห่งที่ไม่สามารถกู้ได้เพราะผิดหลักเกณฑ์ จึงไม่มีเงินมาหมุนเวียนกิจการ จึงต้องขอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในกรณีนี้ด้วย เพราะการจะสร้างคนให้มีคุณภาพทางการศึกษา ภาครัฐจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุนอย่างจริงใจ ประเทศชาติจึงจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ด้าน นายสมเกียรติ ชินโคตร รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีมารีย์บริหารธุรกิจ นครราชสีมา (MBAC) วิทยาลัยอาชีวะเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ของทางวิทยาลัยฯ ตอนนี้ปริมาณจำนวนนักเรียนลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน มีนักเรียนทั้ง ปวช.และ ปวส. รวม 823 คน ซึ่งต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่มีนักเรียนอยู่ประมาณพันกว่าคน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเด็กส่วนใหญ่สนใจที่จะเรียนสายสามัญมากกว่าสายอาชีพ อีกทั้งยังมีวิทยาลัยอาชีวะทั้งภาคเอกชนและภาครัฐภายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เปิดมากกว่า 20 แห่ง ยิ่งทำให้เด็กมีทางเลือกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เด็กจะเน้นไปเข้าเรียนวิทยาลัยอาชีวะของภาครัฐ
ทางวิทยาลัยเองก็พยายามที่จะพัฒนาในส่วนของการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับนักเรียน ทั้งทางเทคโนโลยี สื่อการเรียนการสอนต่างๆ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้ปกครองในการที่จะนำลูกหลานเข้ามาเรียน แต่อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่า งบประมาณในการพัฒนาโรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่มาจากเงินค่าเทอม ซึ่งถ้าจำนวนนักเรียนในแต่ละปีมีน้อยลงไปเรื่อยๆ ก็อาจทำให้ผู้บริหารโรงเรียนจำเป็นต้องปิดสถานศึกษาลง
และถึงแม้ว่าโรงเรียนเอกชนต่างๆ จะได้เงินอุดหนุนจากทางรัฐบาล แต่อยากฝากไปยังรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐให้ช่วยสนับสนุนเรื่องของการพัฒนาบุคลากรครูผู้สอน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและทักษะในการสอนให้เพิ่มมากขึ้น
รวมไปถึงการสนับสนุนอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนการสอนให้กับนักเรียน รวมทั้ง เรื่องการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากจน เพราะนักเรียนส่วนหนึ่งที่มาเรียนที่นี่ ไม่ใช่ว่าจะมีเงินกันทุกคน และสุดท้ายคือ อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องของการบริหารวิทยาลัยอาชีวะในภาคเอกชน ทั้งในเรื่องของโปรแกรมการบริหาร การสนับสนุนบุคลากรในการให้ความรู้ รวมไปถึงเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ ในการพัฒนาวิทยาลัย เพื่อให้วิทยาลัยอาชีวะเอกชนและโรงเรียนเอกชนที่ประสบปัญหาอยู่ให้มีทางรอดมากยิ่งขึ้น
มะนาวสุดแพง จ่อทะลุ 10 บาท/ลูก เหตุต้นทุนปุ๋ย-ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/191387
มะนาวกำลังอยู่ในช่วงราคาแพง ล่าสุดทีมข่าว PPTV ลงพื้นไปสำรวจที่ตลาดยิ่งเจริญ พบราคาจ่อทะลุ 10 บาท/ลูก แม่ค้าเผยปีนี้แพงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนค่าปุ๋ยและค่าขนส่งเพิ่มขึ้น
ตอนนี้ราคามะนาวแพงขึ้นมากกว่าเท่าตัว อยู่ที่ลูกละเกือบ 10 บาทแล้ว โดยเช้านี้ 27 ก.พ.66 ทีมข่าว PPTV ลงพื้นไปสำรวจที่ตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพมหานคร พ่อค้าแม่ค้าตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อเข้าช่วงหน้าแล้ง ผลผลิตจึงน้อยลง ทำให้ราคามะนาวดีดตัวขึ้นแบบนี้เป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้แพงกว่าปีก่อน ๆ เพราะมีปัญหาในเรื่องของต้นทุนค่าปุ๋ย และค่าขนส่งที่แพงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ที่แผงผักที่ตลาดยิ่งเจริญ ยังพบว่ามีผักหลายชนิดขยับราคาขึ้นมา โดยเฉพาะมะนาว ที่ราคาแพงขึ้นมากว่าเท่าตัว
ซึ่งมะนาวแป้นลูกใหญ่ตอนนี้อยู่ที่ลูกละ 8-9 บาท ส่วนขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้กันก็ขยับขึ้นมาจากลูกละ 3 บาท เป็น 6 บาท
พ่อค้ารายหนึ่ง ระบุว่า ราคามะนาวขยับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงนี้ต้นทุนด้านขนส่งและค่าปุ๋ยก็แพงขึ้นด้วย ทำให้กังวลว่าราคามะนาวอาจขึ้นเกิน 10 บาท
นอกจากนี้ยังมีผักอีกหลายอย่างที่ขึ้นราคา เช่น ถั่วฝักยาว อยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท จากเดิท 30 บาท แตงกวา และมะละกอ อยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งเมื่อวัตถุดิบราคาแพงขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบไปถึงบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหารด้วยที่ต้องแบกรับต้นทุนที่แพงขึ้นตามไปด้วย
ด้านกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ไปยังสวนมะนาวที่ จ.ราชบุรี เพื่อตามติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณผลผลิต ซึ่งพบว่าต้นมะนาวบางส่วนเริ่มติดดอกใหม่ในปริมาณมากขึ้นแล้ว คาดว่าผลผลิตจะเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และกลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงพฤษภาคม โดยช่วงหน้าแล้งคาดว่าจะมีราคาอยู่ในช่วงลูกละ 7-8 บาท
ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายใน ได้ร่วมมือกับตลาดต่าง ๆ เพื่อนำผลผลิตมะนาวจากตลาดกลางออกจำหน่ายราคาถูกผ่านรถโมบายพาณิชย์ มีอยู่มากกว่า 100 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับกับประชาชนผู้บริโภค รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่จำเป็นต้องใช้มะนาวในราคาขายส่ง