สวัสดีค่า เราเป็นพี่คนโตในบ้านนะคะ วันนั้นเป็นวันกดบัตรคอนเสิร์ตวงที่น้องเราชอบค่ะ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายก่อนที่จะยุบวงเรานั่งกดบัตรกันอยู่ค่ะ หลังจากจากบัตรปล่อยมาได้ 1 นาทีเราก็กดของเราได้ค่ะ แต่กลับกันน้องเรากดไม่ได้ก็เริ่มร้องไห้ เราก็พยายามช่วยกดค่ะ พลางคิดในใจว่าถ้ากดไม่ได้จะเอาใบนี้ให้น้อง เพราะว่าน้องเราชอบวงนี้กว่าเรามากๆ ทันใดนั้นแม่ก็พูดขึ้นมาว่า"ก็เอาใบนี้ให้น้องไปสิ" อ่าพอเราได้ยินอย่างนั้นก็ไม่อยากให้เลยค่ะ แต่สุดท้ายเราก็กดให้น้องจนได้นะคะ เราก็เริ่มสังเกตพฤติกรรมพ่อแม่ค่ะ ว่าส่วนใหญ่จะขานชื่อน้องก่อนเราเสมอ เวลาผ่านหน้าโรงเรียนจะชวนกลับบ้านก็มักจะโทรถามแต่น้องเรา เพราะคิดว่าจะไปอ่านหนังสือกับเพื่อน เวลาบอกว่าจะไปไหนก็ไม่เคยจำเลยค่ะ แล้วถ้ามันดันตรงกับวันที่เขาต้องการตัวเราก็จะมีปัญหาทันที ตอน ม.ต้น เริ่มอยากดูแลตัวเอง แม่ก็บอกว่าเริ่มแก่แดดเอาเวลาไปเรียนก่อนมั้ย ถึงคราวน้องเราซื้อคุชชั่นเป็นพันแม่บอกว่าแล้วแต่ความชอบน้องอยากดูแลตัวเองก็ดีแล้ว แต่เราก็ไม่ได้เกลียดก็หมั่นไส้น้องนะคะ จนถึงวันที่เรากดบัตรคอนเสิร์ตวงที่เราชอบบ้าง เราได้ที่นั่งที่ไม่ต้องการ เราซึมไปพักใหญ่ แต่น้องได้มุมดีๆพอดีค่ะ น้องเลยเสนอจะแลกบัตรกับเรา เราก็ดีใจมาก พอตกค่ำก็เดินมาบอกว่าไม่แลกแล้ว เราก็อารมณ์เสียที่น้องผิดคำพูด(บ้านเราค่อนข้างซีเรียสกับการพูดลอยๆหรือให้คำสัญญา) เลยจะไปปรึกษาแม่ ปรากฎว่าเราโดนด่าแล้วก็ขู่ว่าจะไม่ให้ไปคอนเสิร์ตอีกแล้ว เพราะอิจฉาน้อง สุดท้ายน้องก็เอามาแลกค่ะ แต่แลกด้วยน้ำตา เรารู้สึกผิดแต่ก็ต้องรับค่ะ เพราะอยากให้น้องรักษาคำพูด ตอนนี้แม่ยังคงเข้าใจผิดว่าเราอิฉาน้องอยู่เลยค่ะ คือมันก็อาจจะมีบ้างนะคะที่แม่อวยเราแต่มันก็น้อยมากๆจนคิดไม่ออกเลยค่ะ คิดว่ายังไงดีคะ เราอึดอัดที่จะสนทนากับแม่มากค่ะ เวลาจะปรึกษาอะไรก็ชอบติดตลกหรือไม่ก็เมินเปลี่ยนเรื่อง เราอาจะผิดเองที่ปกติร่าเริงเป็นคนตลก ทุกวันนี้เราไม่ชอบคำว่าเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้องเลยค่ะ เราก็เสียสละให้นะแม่ก็บอกว่าดีแล้ว แต่ถ้าน้องเสียสละให้เราแม่จะเทิดทูนน้องขึ้นมาทันที [ขอบคุณที่อ่านจบจนถึงตรงนี้นะคะ จะรอความคิดเห็นนะคะขอบคุณค่ะ]
แม่ลำเอียงหรือเราขี้อิจฉา