ถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในการบุกที่แสดงแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่อย่างเต็มภาคภูมิ
เริ่มต้นบุกภาคพื้นดินวันที่ 24 กพ 1991 เวลา 04:00 น หลังจากยิงปืนใหญ่เข้าใส่เป้าหมายทางทหารติดต่อกันก่อนหน้าเป็นเวลา 5 อาทิตย์
มีการแจ้งเตือนและกำหนดเส้นตายไปยังอิรักแล้วว่าถ้าไม่ถอนทหารออกจากคูเวตวันที่ 23 กพ จะเปิดการโจมตีเต็มรูปแบบ
เครื่องบินทิ้งระเบิดเริ่มบินออกจากสหรัฐก่อนเวลา เฮลิคอปเตอร์บินเข้าทำลายระบบป้องกันภัยล่วงหน้า ทั้งหมดต้องประจวบกันตามเวลาที่ได้วางแผนไว้
แล้วกองกำลังรถถังก็บุกเข้าไปสามด้าน มีปีกซ้าย ปีกขวา และทัพกลาง ทะลวงข้ามพรมแดนพร้อมกันเวลา 04:00 น
มีการกำหนดเวลากันแล้วว่าจะไปปะทะกับกองกำลังไหนของอิรักเวลาเท่าไหร่ เผด็จศึกแล้วเดินหน้าต่อเวลาเท่าไหร่ ไปไหนต่อ
แต่ละก้าวที่ย่างเข้าไปต้องทำให้ได้ตามกำหนดการที่วางแผนไว้เพื่อให้สอดประสานกันหมดทุกด้าน ทุกหน่วย
คิดดูว่าเขาวางแผนกันระดับว่าสามารถกำหนดให้คนเกือบล้านทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรตรงไหน เวลาไหน ใช้เวลาเท่าไหร่
ในที่สุดก็ใช้เวลา 100 ชม บรรลุภารกิจ สามารถดันให้กองทัพอันดับสี่ของโลกตอนนั้นถอยออกจากคูเวตได้สำเร็จ
โดยมีการสูญเสียไม่ถึง 300 คน ในขณะที่ฝ่ายอิรักสูญเสีย 2 - 5 หมื่นนาย
การรุกนี้ไม่ง่ายและมีคนพยายามเลียนแบบเมื่อเร็วๆนี้ ย่อยยับไม่เป็นท่าอย่างที่รู้
เริ่มต้นวันที่ 24 กพ เหมือนๆกันเลย กองทัพอันดับสองของโลกจะไปตบเด็กยูเครนที่ถูกจัดไว้ที่อันดับ 20 กว่าๆ ห่างกันแบบเล่นคนละดิวิชั่น
กะว่าจะใช้เวลาไม่ถึง 100 ชม ลบสถิติให้โลกรับชมกันเป็นขวัญตา
ไม่มีการแจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าให้ยูเครนรู้ คือกะเอาทีเผลอนี่แหละ แถมโกหกด้วนนะว่าจะไม่บุก โกหกจนเป็นนิสัยถาวรจริงๆผู้นำคนนี้
กองกำลังรถถังวิ่งข้ามพรมแดนมุ่งหน้าสู่กรุงเคียฟ ไม่มีการทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศก่อน ไม่ต้องมีการวางยุทธการ
กองกำลังทุกหน่วยต่างคนต่างไป แล้วไปเจอกันที่เคียฟ ว่างั้น
คนแค่ระดับแสนต้นๆเอง แต่ละคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไร รอจนรถวิ่งข้ามพรมแดนเพิ่งบอกทหารตัวเองว่าจะไปยึดเคียฟนะ เอาง่ายๆแบบนี้แหละ
ในที่สุดจากจะยึดได้เวลาสั้นกว่า 100 ชม กลายเป็นวิ่งไปน้ำมันหมดกลางทางบ้าง ทหารวิ่งซื้ออาหารตามซุปเปอร์มาร์เก็ตระหว่างทางบ้าง
ออกปล้นบ้าง ขออาหารชาวบ้านบ้าง สุดแต่บรรพบุรุษแต่ละคนสั่งสอนกันมายังไง
มันเลยไปไม่ถึงเคียฟไง โดนถล่มเละเป็นอุจาระโดยกองกำลังอันดับห่างชั้นที่ไม่มีอะไรมากในมือ แต่กำลังใจเต็มร้อยต้องการป้องกันชาติและเผ่าพันธุ์
สุดท้ายรัสเซียเลยได้ทำสถิติวิ่งหนีหางจุกก้นกลับพรมแดนไปตั้งต้นใหม่ในเวลาไม่กี่อาทิตย์แทน
อายเขาไหมจะเลียนแบบการบุกของชาติยิ่งใหญ่ รู้ว่าติ่งรัสเซียไม่อายหรืออายไม่เป็น ติ่งยูเครนอายแล้วกัน
กากสุดๆ กากตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ครบหนึ่งปี
รำลึงความหลังวันที่ 24 กุมภาพันธ์ การเปิดการรุกที่มีการวางยุทธการอย่างยอดเยี่ยมที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์สงคราม
เริ่มต้นบุกภาคพื้นดินวันที่ 24 กพ 1991 เวลา 04:00 น หลังจากยิงปืนใหญ่เข้าใส่เป้าหมายทางทหารติดต่อกันก่อนหน้าเป็นเวลา 5 อาทิตย์
มีการแจ้งเตือนและกำหนดเส้นตายไปยังอิรักแล้วว่าถ้าไม่ถอนทหารออกจากคูเวตวันที่ 23 กพ จะเปิดการโจมตีเต็มรูปแบบ
เครื่องบินทิ้งระเบิดเริ่มบินออกจากสหรัฐก่อนเวลา เฮลิคอปเตอร์บินเข้าทำลายระบบป้องกันภัยล่วงหน้า ทั้งหมดต้องประจวบกันตามเวลาที่ได้วางแผนไว้
แล้วกองกำลังรถถังก็บุกเข้าไปสามด้าน มีปีกซ้าย ปีกขวา และทัพกลาง ทะลวงข้ามพรมแดนพร้อมกันเวลา 04:00 น
มีการกำหนดเวลากันแล้วว่าจะไปปะทะกับกองกำลังไหนของอิรักเวลาเท่าไหร่ เผด็จศึกแล้วเดินหน้าต่อเวลาเท่าไหร่ ไปไหนต่อ
แต่ละก้าวที่ย่างเข้าไปต้องทำให้ได้ตามกำหนดการที่วางแผนไว้เพื่อให้สอดประสานกันหมดทุกด้าน ทุกหน่วย
คิดดูว่าเขาวางแผนกันระดับว่าสามารถกำหนดให้คนเกือบล้านทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรตรงไหน เวลาไหน ใช้เวลาเท่าไหร่
ในที่สุดก็ใช้เวลา 100 ชม บรรลุภารกิจ สามารถดันให้กองทัพอันดับสี่ของโลกตอนนั้นถอยออกจากคูเวตได้สำเร็จ
โดยมีการสูญเสียไม่ถึง 300 คน ในขณะที่ฝ่ายอิรักสูญเสีย 2 - 5 หมื่นนาย
การรุกนี้ไม่ง่ายและมีคนพยายามเลียนแบบเมื่อเร็วๆนี้ ย่อยยับไม่เป็นท่าอย่างที่รู้
เริ่มต้นวันที่ 24 กพ เหมือนๆกันเลย กองทัพอันดับสองของโลกจะไปตบเด็กยูเครนที่ถูกจัดไว้ที่อันดับ 20 กว่าๆ ห่างกันแบบเล่นคนละดิวิชั่น
กะว่าจะใช้เวลาไม่ถึง 100 ชม ลบสถิติให้โลกรับชมกันเป็นขวัญตา
ไม่มีการแจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าให้ยูเครนรู้ คือกะเอาทีเผลอนี่แหละ แถมโกหกด้วนนะว่าจะไม่บุก โกหกจนเป็นนิสัยถาวรจริงๆผู้นำคนนี้
กองกำลังรถถังวิ่งข้ามพรมแดนมุ่งหน้าสู่กรุงเคียฟ ไม่มีการทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศก่อน ไม่ต้องมีการวางยุทธการ
กองกำลังทุกหน่วยต่างคนต่างไป แล้วไปเจอกันที่เคียฟ ว่างั้น
คนแค่ระดับแสนต้นๆเอง แต่ละคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไร รอจนรถวิ่งข้ามพรมแดนเพิ่งบอกทหารตัวเองว่าจะไปยึดเคียฟนะ เอาง่ายๆแบบนี้แหละ
ในที่สุดจากจะยึดได้เวลาสั้นกว่า 100 ชม กลายเป็นวิ่งไปน้ำมันหมดกลางทางบ้าง ทหารวิ่งซื้ออาหารตามซุปเปอร์มาร์เก็ตระหว่างทางบ้าง
ออกปล้นบ้าง ขออาหารชาวบ้านบ้าง สุดแต่บรรพบุรุษแต่ละคนสั่งสอนกันมายังไง
มันเลยไปไม่ถึงเคียฟไง โดนถล่มเละเป็นอุจาระโดยกองกำลังอันดับห่างชั้นที่ไม่มีอะไรมากในมือ แต่กำลังใจเต็มร้อยต้องการป้องกันชาติและเผ่าพันธุ์
สุดท้ายรัสเซียเลยได้ทำสถิติวิ่งหนีหางจุกก้นกลับพรมแดนไปตั้งต้นใหม่ในเวลาไม่กี่อาทิตย์แทน
อายเขาไหมจะเลียนแบบการบุกของชาติยิ่งใหญ่ รู้ว่าติ่งรัสเซียไม่อายหรืออายไม่เป็น ติ่งยูเครนอายแล้วกัน
กากสุดๆ กากตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ครบหนึ่งปี