คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เป็นปกติธรรมดาของเมืองเก่า-เมืองใหม่ ศูนย์กลางความเจริญมันเคลื่อนย้ายได้ พัทลุงอาจเคยรุ่งเรืองในอดีตเป็นอู่ข้าวอู่น้ำอุดมสมบูรณ์ของคนยุคโน้น แต่ต่อมาสงขลาเมืองท่าก็โตเร็วกว่าพัทลุงเนื่องจากการค้าขายทางทะเล แล้วต่อมาหาดใหญ่เมืองใหม่ทำเลศูนย์กลางคมนาคมทางบกและทางอากาศก็โตเร็วก้าวกระโดดกว่าสงขลา
เมื่อมีเมืองใหญ่อย่างสงขลา,หาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ พัทลุงจึงพัฒนาให้โตทัดเทียมเขาได้ยาก เมืองใหญ่มักดูดความเจริญไปจากเมืองเล็กครับ ... แต่ปัจจุบันพัทลุงก็เจอทางของตัวเองแล้วนะ ไม่ต้องเป็นแบบสงขลาหรือหาดใหญ่ แต่เป็นแบบพัทลุงเอง พัทลุงมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมายในแบบที่สงขลาและหาดใหญ่ไม่มี นี่แหล่ะจุดขาย ต้องขายอะไรที่มันแตกต่าง มีทางของตัวเองที่ชัดเจนถึงจะดึงดูดความสนใจคนได้
เมื่อมีเมืองใหญ่อย่างสงขลา,หาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ พัทลุงจึงพัฒนาให้โตทัดเทียมเขาได้ยาก เมืองใหญ่มักดูดความเจริญไปจากเมืองเล็กครับ ... แต่ปัจจุบันพัทลุงก็เจอทางของตัวเองแล้วนะ ไม่ต้องเป็นแบบสงขลาหรือหาดใหญ่ แต่เป็นแบบพัทลุงเอง พัทลุงมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมายในแบบที่สงขลาและหาดใหญ่ไม่มี นี่แหล่ะจุดขาย ต้องขายอะไรที่มันแตกต่าง มีทางของตัวเองที่ชัดเจนถึงจะดึงดูดความสนใจคนได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
จะเล่าให้ฟังว่าทำไม พัทลุง จึงไม่ค่อยเจริญ เพิ่งจะมาพัฒนาในช่วงหลัง แต่คุณต้องทำใจเป็นกลาง อ่านแล้วไม่เข้าใจลองถามคนดั้งเดิมที่อยู่มานาน
1 พัทลุงเป็นเมืองทางผ่านในอดีต ของถนนเพชรเกษม เมื่อก่อนยังพอมีคนผ่านทาง แต่เมื่อรัฐบาลสร้างทางเลียบชายทะเลฝั่งตะวันออก จากพุนพิน สุราษฏรธานี- นครศรีธรรมราช รถยนต์ที่ไปหาดใหญ่ จึงเลิกผ่านทาง เพราะต้องขับขึ้นเขาพับผ้าเสียเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง(ปัจจุบันถนนเขาพับผ้าตัดใหม่ ไม่มีโค้งร้อยศพแล้ว)
2 พัทลุงเป็นชุมโจร และฐานของขบวนการก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ บรรดาไอ้เสือปล้นทั้งหลาย ตัวอย่างหนึ่ง"จอมโจรไข่หมูก" เสือร้ายแห่งพัทลุง กลางคืนถ้าผ่านทางเขาพับผ้า เทือกเขาบรรทัด โอกาสเยอะจะโดนคอมมิวนิสต์ดักปล้น และฆ่าคนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ (เขาชัยสน) หรือหลุดมาได้ ก็จะเจอจอมโจรร้อยแปดพันเจ้า ดักปล้นอีกรอบ กลางคืนเกิน 2 ทุ่ม ไม่มีใครออกไปทำธุระโดยไม่จำเป็น กลางวันก็โดนเรียกค่าคุ้มครอง ไม่มีธุรกิจใหญ่ไปลงทุนกัน
3 พัทลุงไม่ติดทะเล มีแค่ทะเลน้อย ซึ่งเป็นทะเลสาบสงขลา เศรษฐกิจหลักจึงไปที่หาดใหญ่ และโรงงานอุตสาหกรรมสำคัญไปอยู่ที่กันตัง จังหวัดตรัง อาชีพจึงเป็นเกษตรกรรมเป็นหลัก อีกทั้งผู้บริหาร และภาคเอกชนไม่ค่อยมีการวางแผน ต่างกับจังหวัดข้างเคียง จ. ตรัง ที่หอการค้าตรังเข้ามาร่วมภาครัฐ จัดโปรโมทมาต่อเนื่องร่วม 30 ปี ถ้าจำได้ หม่อมถนัดศรี จับมือร่วม คุณสุรินทร์ ทำกิจกรรม ยกเป็นเมืองแห่งการกิน และท่องเที่ยว ชูสินค้าOTOP ก่อนจะมีโครงการOTOP เกิดในประเทศด้วยซ้ำ เช่นหมูย่างตรัง เค็กตรังมีรูตรงกลาง วิวาห์ใต้สมุทร์(ปีนี้มี 6 คู่หมดมนต์ขลัง) พัทลุงกิจกรรมแบบนี้แทบไม่เคยได้ยิน
4การปกครองท้องถิ่น อันนี้เป็นวิสัยทัศน์ของคนที่เราเลือกขึ้นมา เมืองจะเจริญ และยิ่งเจริญหากผู้ได้รับเลือกมีสมองที่มองไกล ง่ายๆ คือที่ จ.ตรัง เอาสายไฟลงดิน ก่อนใครในประเทศเป็น 20 ปีแล้ว มีงานศพแจ้งเทศบาลมีเต้นท์ มีโต๊ะ จัดอำนวยความสะดวก ให้ฟรี(เดี๋ยวนี้ไม่รู้นะ) เอกชนลงทุนจ้างโค๊ดจีนมาสอนแบดมินตันยกระดับการกิฬา รัฐหางบสร้างสนามกิฬา เพิ่มให้คนออกกำลังกาย ร่วมจัดอีเวนต์ใหญ่ๆ เช่นประเพณีกินเจ เรื่องเหล่านี้อยู่ที่คนที่เลือก เลือกคนเก่งเมืองก็เจริญ
พัทลุงเริ่มต้นการพัฒนาค่อนข้างช้ากว่าเมืองอื่น แต่ถ้ามุมมองผม สตูลน่าจะพอๆกัน แต่ก็ไปต่อได้ไม่ยากหากรัฐ และเอกชนร่วมกันพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ทำเองคนเดียว ไม่มีทางครับ
1 พัทลุงเป็นเมืองทางผ่านในอดีต ของถนนเพชรเกษม เมื่อก่อนยังพอมีคนผ่านทาง แต่เมื่อรัฐบาลสร้างทางเลียบชายทะเลฝั่งตะวันออก จากพุนพิน สุราษฏรธานี- นครศรีธรรมราช รถยนต์ที่ไปหาดใหญ่ จึงเลิกผ่านทาง เพราะต้องขับขึ้นเขาพับผ้าเสียเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง(ปัจจุบันถนนเขาพับผ้าตัดใหม่ ไม่มีโค้งร้อยศพแล้ว)
2 พัทลุงเป็นชุมโจร และฐานของขบวนการก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ บรรดาไอ้เสือปล้นทั้งหลาย ตัวอย่างหนึ่ง"จอมโจรไข่หมูก" เสือร้ายแห่งพัทลุง กลางคืนถ้าผ่านทางเขาพับผ้า เทือกเขาบรรทัด โอกาสเยอะจะโดนคอมมิวนิสต์ดักปล้น และฆ่าคนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ (เขาชัยสน) หรือหลุดมาได้ ก็จะเจอจอมโจรร้อยแปดพันเจ้า ดักปล้นอีกรอบ กลางคืนเกิน 2 ทุ่ม ไม่มีใครออกไปทำธุระโดยไม่จำเป็น กลางวันก็โดนเรียกค่าคุ้มครอง ไม่มีธุรกิจใหญ่ไปลงทุนกัน
3 พัทลุงไม่ติดทะเล มีแค่ทะเลน้อย ซึ่งเป็นทะเลสาบสงขลา เศรษฐกิจหลักจึงไปที่หาดใหญ่ และโรงงานอุตสาหกรรมสำคัญไปอยู่ที่กันตัง จังหวัดตรัง อาชีพจึงเป็นเกษตรกรรมเป็นหลัก อีกทั้งผู้บริหาร และภาคเอกชนไม่ค่อยมีการวางแผน ต่างกับจังหวัดข้างเคียง จ. ตรัง ที่หอการค้าตรังเข้ามาร่วมภาครัฐ จัดโปรโมทมาต่อเนื่องร่วม 30 ปี ถ้าจำได้ หม่อมถนัดศรี จับมือร่วม คุณสุรินทร์ ทำกิจกรรม ยกเป็นเมืองแห่งการกิน และท่องเที่ยว ชูสินค้าOTOP ก่อนจะมีโครงการOTOP เกิดในประเทศด้วยซ้ำ เช่นหมูย่างตรัง เค็กตรังมีรูตรงกลาง วิวาห์ใต้สมุทร์(ปีนี้มี 6 คู่หมดมนต์ขลัง) พัทลุงกิจกรรมแบบนี้แทบไม่เคยได้ยิน
4การปกครองท้องถิ่น อันนี้เป็นวิสัยทัศน์ของคนที่เราเลือกขึ้นมา เมืองจะเจริญ และยิ่งเจริญหากผู้ได้รับเลือกมีสมองที่มองไกล ง่ายๆ คือที่ จ.ตรัง เอาสายไฟลงดิน ก่อนใครในประเทศเป็น 20 ปีแล้ว มีงานศพแจ้งเทศบาลมีเต้นท์ มีโต๊ะ จัดอำนวยความสะดวก ให้ฟรี(เดี๋ยวนี้ไม่รู้นะ) เอกชนลงทุนจ้างโค๊ดจีนมาสอนแบดมินตันยกระดับการกิฬา รัฐหางบสร้างสนามกิฬา เพิ่มให้คนออกกำลังกาย ร่วมจัดอีเวนต์ใหญ่ๆ เช่นประเพณีกินเจ เรื่องเหล่านี้อยู่ที่คนที่เลือก เลือกคนเก่งเมืองก็เจริญ
พัทลุงเริ่มต้นการพัฒนาค่อนข้างช้ากว่าเมืองอื่น แต่ถ้ามุมมองผม สตูลน่าจะพอๆกัน แต่ก็ไปต่อได้ไม่ยากหากรัฐ และเอกชนร่วมกันพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ทำเองคนเดียว ไม่มีทางครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมพัทลุงไม่ค่อยเจริญ เมื่อเทียบกับจังหวัดข้างเคียง