แผนการเล่นแบบ 4-3-3 มันเป็นยังไง มาดูกัน
1. ตำแหน่ง 3 ตัวหน้า เป็นการเล่นที่ ใช้กองหน้า 3 คน เป็นตัวเป้า1ตัวและหน้ากึ่งปีกอีก 2 ตัว ซึ่งในฟุตบอลสมัยใหม่ ทั้ง 3 ตัว จะต้องเล่นเป็นหน้าเป้าได้ มีการยิงที่ดีการลากเลื้อย และการเออลี่ครอสที่แม่นยำด้วยในบางจังหวะ แต่...สำหรับเจแล้ว เจไม่ได้มีจุดเด่นในการทำประตู จุดเด่นของเจคือ การลากเลื้อย การจ่ายบอลคิลเลอร์พาสทะลุช่อง และ การสวิฟบอลซ้ายขวาแม่นๆ มันทำให้เห็นว่า เจเล่นเป็น 3 ตัวหน้าลำบาก เพราะ จุดเด่นเจ ไม่เหมาะกับการเล่นหน้า ตัวเล็ก เก็บบอลไม่ได้ อยู่สูงไป ช่องจ่ายคิลเลอร์พาสให้เพื่อน ไม่ได้ เพราะพื้นที่หลังแบ็คฝ่ายตรงข้ามมีไม่พอ ด้วยเหตุนี้ โค้ชจึงจับเจมาเล่นกลาง
2. ตำแหน่งกองกลาง 3 ตัว แต่...พอมาเล่นกลาง ปัญหาหนักกว่าการเล่นหน้า 3 ตัวอีก เพราะกองกลาง 3 ตัว จะต้องเล่นเกมรับได้ ทั้ง 3คน ขึ้นสุด ลงสุด สามารถเปลี่ยนเป็นรุกและรับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะเห็นในหลายๆครั้ง เวลาเจเติมเกมบุกไป เจจะลงไม่ทัน และการวิ่งขึ้นวิ่งลงตลอดเวลา ทำให้เสียพลังงานหนักมาก ต้องยอมรับตรงๆว่า ถ้าเจตัวใหญ่กว่านี้ สูงกว่านี้ การเล่นกลาง 3 ตัว เจคงจะโหดกว่านี้ เพราะต้องเล่นเกมรับ ต้องปะทะ ต้องจ่ายบอลทะลุช่องเพื่อทำเกมบุก แต่...พอตัวเล็ก มันจึงเป็นงานยากที่จะชนะแรงปะทะในเกมแดนกลาง
เคยมีเคสตัวอย่าง ตอนที่เล่นให้ซัปโปโรในนัดนึง นัดนั้น ครึ่งแรกบุกไม่ได้เลย มิชาเลยดึงเจลงมาต่ำ ในตำแหน่งกองกลาง (แต่เป็นแผน 3-4-2-1) เจได้เป็นคนคอนโทรลบอล ออกบอล คุมจังหวะทั้งหมด และนัดนั้นเจก็เล่นได้โคตรดี แต่...มันมีข้อแตกต่างคือ คนที่เล่นขนาบข้างอยู่ใกล้ๆเจคือ อาราโนะ คอยเก็บกวาด คอยชนให้เจตลอด เจจึงไม่ค่อยได้ปะทะกับใคร เจจึงเล่นในตำแหน่งนี้ได้ แต่มาอยู่ฟรอนตาเล่ กลาง3ตัวต้องทำงานสอดประสานกัน ทั้งรับและรุก ปะทะเอง ตัดเกมเอง เจจึงไม่มีอิสระในการคอนโทรลบอล เพราะจะโดนปะทะเร็ว
การแก้ปัญหาจึงมีอยู่ 3 วิธีคือ
1. เจต้องพัฒนาตัวเอง ให้สามารถขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าในแผนหน้า3ให้ได้ (เพราะถ้าให้มาเล่นกลางจริงๆ แรงปะทะไม่ไหวแน่ๆ) ต้องฝึกการยิง การตัดสินใจในการยิง เห็นแก่ตัวให้มากกว่านี้
2. เปลี่ยนแผนการเล่น(หรือเปลี่ยนโค้ช) เป็นแผนที่มีตัวหน้าต่ำ (หรือคนญี่ปุ่นเรียกตำแหน่งชาโดว์) ไม่ว่าจะเป็น 4-3-1-2 4-3-2-1 3-4-2-1 3-4-1-2 คือได้หมด โดยให้เจไปเล่นอยู่หลังกองหน้า นี่คือตำแหน่งที่เจ จะถนัดที่สุด และโชว์ศักยภาพได้มากที่สุด
3. ย้ายทีม ไปเล่นในทีมที่เข้ากับลักษณะการเล่นของเจ หรือทีมที่ใช้แผนตามข้อ2
** นี่แหละครับ แค่แผนการเล่น ที่เปลี่ยนไป การใช้คน การใช้นักเตะก็เปลี่ยนไปได้ ซึ่งแผนนี้ มันเป็นปัญหากับชนาธิปมากๆ (เล่นมาทั้งฤดูกาล ไม่มีนัดไหนเล่นได้ดีเลย ได้แค่วิ่งไล่บอลและช่วยเกมรับ แค่นั้นเอง) ด้วยวิธีการเล่นและรูปร่างทางกายภาพของเจ้าตัว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่เจเองแล้ว ว่าจะพัฒนาตัวเองให้เล่นหน้าให้ได้ หรือ จะรอโค้ชคนใหม่ หรือจะเปลี่ยนทีม ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเจครับ **
ทำไมแผน 4 - 3 - 3 ถึงมีปัญหากับ ชนาธิป เรามาดูกัน
1. ตำแหน่ง 3 ตัวหน้า เป็นการเล่นที่ ใช้กองหน้า 3 คน เป็นตัวเป้า1ตัวและหน้ากึ่งปีกอีก 2 ตัว ซึ่งในฟุตบอลสมัยใหม่ ทั้ง 3 ตัว จะต้องเล่นเป็นหน้าเป้าได้ มีการยิงที่ดีการลากเลื้อย และการเออลี่ครอสที่แม่นยำด้วยในบางจังหวะ แต่...สำหรับเจแล้ว เจไม่ได้มีจุดเด่นในการทำประตู จุดเด่นของเจคือ การลากเลื้อย การจ่ายบอลคิลเลอร์พาสทะลุช่อง และ การสวิฟบอลซ้ายขวาแม่นๆ มันทำให้เห็นว่า เจเล่นเป็น 3 ตัวหน้าลำบาก เพราะ จุดเด่นเจ ไม่เหมาะกับการเล่นหน้า ตัวเล็ก เก็บบอลไม่ได้ อยู่สูงไป ช่องจ่ายคิลเลอร์พาสให้เพื่อน ไม่ได้ เพราะพื้นที่หลังแบ็คฝ่ายตรงข้ามมีไม่พอ ด้วยเหตุนี้ โค้ชจึงจับเจมาเล่นกลาง
2. ตำแหน่งกองกลาง 3 ตัว แต่...พอมาเล่นกลาง ปัญหาหนักกว่าการเล่นหน้า 3 ตัวอีก เพราะกองกลาง 3 ตัว จะต้องเล่นเกมรับได้ ทั้ง 3คน ขึ้นสุด ลงสุด สามารถเปลี่ยนเป็นรุกและรับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะเห็นในหลายๆครั้ง เวลาเจเติมเกมบุกไป เจจะลงไม่ทัน และการวิ่งขึ้นวิ่งลงตลอดเวลา ทำให้เสียพลังงานหนักมาก ต้องยอมรับตรงๆว่า ถ้าเจตัวใหญ่กว่านี้ สูงกว่านี้ การเล่นกลาง 3 ตัว เจคงจะโหดกว่านี้ เพราะต้องเล่นเกมรับ ต้องปะทะ ต้องจ่ายบอลทะลุช่องเพื่อทำเกมบุก แต่...พอตัวเล็ก มันจึงเป็นงานยากที่จะชนะแรงปะทะในเกมแดนกลาง
เคยมีเคสตัวอย่าง ตอนที่เล่นให้ซัปโปโรในนัดนึง นัดนั้น ครึ่งแรกบุกไม่ได้เลย มิชาเลยดึงเจลงมาต่ำ ในตำแหน่งกองกลาง (แต่เป็นแผน 3-4-2-1) เจได้เป็นคนคอนโทรลบอล ออกบอล คุมจังหวะทั้งหมด และนัดนั้นเจก็เล่นได้โคตรดี แต่...มันมีข้อแตกต่างคือ คนที่เล่นขนาบข้างอยู่ใกล้ๆเจคือ อาราโนะ คอยเก็บกวาด คอยชนให้เจตลอด เจจึงไม่ค่อยได้ปะทะกับใคร เจจึงเล่นในตำแหน่งนี้ได้ แต่มาอยู่ฟรอนตาเล่ กลาง3ตัวต้องทำงานสอดประสานกัน ทั้งรับและรุก ปะทะเอง ตัดเกมเอง เจจึงไม่มีอิสระในการคอนโทรลบอล เพราะจะโดนปะทะเร็ว
การแก้ปัญหาจึงมีอยู่ 3 วิธีคือ
1. เจต้องพัฒนาตัวเอง ให้สามารถขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าในแผนหน้า3ให้ได้ (เพราะถ้าให้มาเล่นกลางจริงๆ แรงปะทะไม่ไหวแน่ๆ) ต้องฝึกการยิง การตัดสินใจในการยิง เห็นแก่ตัวให้มากกว่านี้
2. เปลี่ยนแผนการเล่น(หรือเปลี่ยนโค้ช) เป็นแผนที่มีตัวหน้าต่ำ (หรือคนญี่ปุ่นเรียกตำแหน่งชาโดว์) ไม่ว่าจะเป็น 4-3-1-2 4-3-2-1 3-4-2-1 3-4-1-2 คือได้หมด โดยให้เจไปเล่นอยู่หลังกองหน้า นี่คือตำแหน่งที่เจ จะถนัดที่สุด และโชว์ศักยภาพได้มากที่สุด
3. ย้ายทีม ไปเล่นในทีมที่เข้ากับลักษณะการเล่นของเจ หรือทีมที่ใช้แผนตามข้อ2
** นี่แหละครับ แค่แผนการเล่น ที่เปลี่ยนไป การใช้คน การใช้นักเตะก็เปลี่ยนไปได้ ซึ่งแผนนี้ มันเป็นปัญหากับชนาธิปมากๆ (เล่นมาทั้งฤดูกาล ไม่มีนัดไหนเล่นได้ดีเลย ได้แค่วิ่งไล่บอลและช่วยเกมรับ แค่นั้นเอง) ด้วยวิธีการเล่นและรูปร่างทางกายภาพของเจ้าตัว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่เจเองแล้ว ว่าจะพัฒนาตัวเองให้เล่นหน้าให้ได้ หรือ จะรอโค้ชคนใหม่ หรือจะเปลี่ยนทีม ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของเจครับ **