ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเปิดฉาก คนส่วนใหญ่คิดว่า Knicks คงจบฤดูกาลด้วยอันดับ 9-11 เพราะมีปัญหาเรื่อง depth คือตัวสํารองไม่ค่อยดีทําให้มีลุ้นอย่างมากก็โซน play-in

หลังเเข่งเสร็จรวม 60 นัด พวกเขามีผลงานดีเกินคาดโดยชนะ 33-27 อยู่อันดับ 6 ทําให้ทุกฝ่ายรู้สึกพอใจเเละคิดว่าทีมจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังได้ Josh Hart มาช่วยอีกคนเมื่ออาทิตย์ก่อน

สาเหตุที่ Knicks มาได้ถึงจุดนี้ได้เป็นเพราะ:

1. มี point guard ดี

Jalen Brunson เป็น floor general หรือนายพลในสนามที่ทีมตามหามานานหลังการจากไปของ Jeremy Lin เมื่อ 10 ปีก่อน เขามีผลงานระดับ career-high 23.9 PPG, 6.2 RBs (สามเเต้มลง 41.1%) ทําให้ค่าเหนื่อย 4 ปี/$104 ล้านถือว่าคุ้มสุดๆ

Brunson มีฟอร์มร้อนมากใน 21 เกมส์ล่าสุดที่ 30 PPG (FG 51.8%) คนสุดท้ายที่ทําเเบบนั้นได้ที่ Knicks คือ Patrick Ewing ในยุค 90s เขาเป็นผู้นําที่ทีมมองหามานานเเละช่วยปลดล็อคฟอร์มของ Julius Randle ด้วย

2. สายตะวันออกอ่อนลง (Watered-down East)

Bulls, Raptors เเละ Hawks มีฟอร์มที่น่าผิดหวังถ้าเทียบกับความคามคาดหวัง Scottie Barnes เจ้าของรางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมปีก่อนมีพัฒนาการที่หยุดชะงักเเละ Raptors ไม่เคยชนะติดกันมากกว่า 3 เกมส์เลยสักครั้งในฤดูกาลนี้

Nets ก็วงเเตกไปเเล้วทําให้เป็นโอกาสทองของ Knicks ในการเข้า playoff

3. ไม่มีใครเจ็บออดเเอด

ถึงเเม้ Mitchell Robinson จะเคยพัก 22 นัดเเต่นอกเหนือจากนั้นเเล้วคนอื่นที่เหลือเเข็งเเรงดีโดย Randle กับตัวสํารองอย่าง Isaiah Hartenstein ลงได้ครบทุกเกมส์ 

Immanuel Quickley พักเเค่เกมส์เดียว Brunson พัก 4 เกมส์, RJ Barrett 7 เกมส์ 

ถือว่าเป็นข่าวดีที่ตัวหลักมีสุขภาพสมบูรณ์ถ้าเทียบกับ Heat ที่ Jimmy Butler กับ Tyler Herro พักราวๆ 15 นัด

4. โค้ช Thib ให้โอกาสดาวรุ่ง

เมื่อก่อนคนชอบนินทาโค้ช Thib ว่าครํ่าครึ ไม่ให้โอกาสดาวรุ่งเเต่มาฤดูกาลนี้เขากล้าจับ Derrick Rose, Evan Fournier นั่งยาวเเล้วใช้บริการของ Miles McBride กับ Quentin Grimes เเทน

Quickley ในวัย 23 ปีมีนาทีลงมากที่สุดในอาชีพที่ 27.7 MPG รวมถึง Jericho Sims ก็ได้เห็นเดือนตะวันกับเขาด้วยในช่วงที่ Robinson เจ็บ

Credit: NY Post