ขอระบายหน่อยนะคะ
พอดีที่บ้านเราเป็นครอบครัวมีทั้งหมด 4 คน มีพ่อ แม่ น้องชาย เเล้วก็ตัวเรา เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้แม่อยากให้เราซื้อรถมาใช้ในครอบคนัว พอดีตอนนี้ที่บ้านเรายืมรถคนอื่นใช้อยู่ค่ะ แต่พวกค่าน้ำมัน ประกันรถ เปลี่ยนเเบต น้ำมันเครื่อง ค่าใช้ทุกอย่างเราออกเองนะคะ ที่แม่เราอยากให้ออกรถก็เพราะว่าแม่เราเห็นรถที่ยืมมันเก่าเเล้ว บวกกับเห็นครอบครัวญาติฝั่งพ่อมีรถดีๆขับ เราเลยถามท่านไปว่าถ้าเราซื้อใครจะช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง คราวนี้แม่เราก็เข้าโหมดดราม่าเลยค่ะ บอกว่าไม่เห็นหรอน้องมันเพิ่งเรียนจบทำงาน ยังไม่ได้บรรจุ จะให้มันมาช่วยอะไร เราก๋เลยคิดในใจว่า อ้าวทีตอนเราเรียนจบ ค่าหอเราก็ต้องจ่าย ค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็ต้องจ่าย ค่าบัตรเครดิตเเม่ก็ต้องจ่าย ไม่เหฟ้นจะเป็นห่วง้ราเเบบที่เป็นห่วงน้องเลย แลวก็มายแกว่าเราเป็นลูกที่ไม่ดี หาว่าเราไม่เลี้ยงดูท่าน ไม่ให้เงินซื้อเสื้อผ้า พาไปกินข้าว ให้เงินเเบบลูกคนอื่นเขา เราก็ได้เเต่คิดในใจ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเราก็ออก ค่าน้ำไฟ ค่ารถ ค่าประกันสังคม ค่ากิน ค่าของใช้ต่างๆ เราก็ออกแต่มันไม่ดีพอสำหรับคนเป็นแม่เหรอคะ ถึงชอบพูดทำร้ายจิตเราเเบบนี้ แล้วก็ชอบมาบอกว่าเมื่อก่อน ก่อนที่เราจะทำงานเราบอกว่าเราจะดูเเลท่าน เราก็ได้เเต่สงสัยที่เราทำอยู่นี่มันไม่ดูเเลตรงไหน ทำไมถึงชอบบอกว่าเราทำบาปตลอดไม่ยอมเลี้ยงพ่อแม่ ยิ่งคิดก็ไม่เข้าใจ ปากท่านก็บอกว่าไม่เคยว่าที่เราจะเก็บเงิน แต่พอเราเก็บเขาก็บอกว่าเอาแต่เก็บเงินเมื่อก่อนแม่อะนะให้เงินอากงตลอดเท่าไรแม่ก็ให้ ถ้าหมดเเม่ก็หาใหม่ ไม่เคยทำตัวแย่เเบบเรา เราก็เลยงง ว่าการที่เราเก็บเพื่ออนาคตตัวเองมันผิดมากเหรอ ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ออก ต้องก่รอะไรจากชีวิตเราหนักหนา แล้วก็ชอบมาทวงบุญคุฯว่ากว่าจะเลี้ยงเรามาจนโต อะหมดเงินเยอะมาก เราเลยไม่เข้าใจว่าการมีลูกมันไม่ได้มาจากความรักงี้เหรอ คาดหวังว่าพอแก่ตัวลูกต้องเลี้ยงเหรอ ทั้งๆที่ตอนเราเรียนก็ไม่ได้เลี้ยงอะไรเราดีมากมาย เราต้องทำงาน part time ตลอดตั้งเเต่ปี3-4 ส่วนเรื้องรถ คือเราก็มี plan จะซื้อรถ แต่ถ้าซื้อรถตอนนี้ เราก็อยากให้น้องมาช่วย ค่า น้ำไฟ บ้าง คราวนี้แม่ก็ดราม่าว่าหัดเห็นใจน้องบ้างน้องยังไม่ๆด้บรรจุ เงินเดือน 15000 จะให้น้องมาช่วยไม่ได้นะ กลายเป็นว่าถ้าเกิดเราซื้อรถทุกอย่างเราก็ต้องจ่าย เเถมเงินเก็บเเต่ละเดือนเเทนที่จะได้เก็บไปซื้อทอง หรือสลากออมสิน กลับกลายมาเป็นต้องเอามาผ่อนรถ รู้สึกเหมือนค่าใช้จ่ายมันเยอะขึ้น เราก็กลัวอนาคตเราจะไม่ไหว เเล้วก็ชอบมาบอกว่าโบนัสออกแทนที่จะซื้อตู้เย็น ให้พ่อ แม่ ซื้อนู่นนี่ให้พ่อแม่ คือเราอาจเป็นคนเห็นแก่ตัวก็ได้นะ แต่เราทำงานมาทั้งปีก็อยากเอาเงินมาซื้อทอง ซื้อของที่ตัวเองอยากได้บ้าง ทำไมเราต้องให้ด้วยอะ ในเมื่อเเต่ละเดือนก็ไม่เห็นจะมีใครเห็นใจค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายในบ้านเลย พ่อ แม่ เจอหน้าเราที่ไรก็ขอแต่เงิน ไม่เคยถามว่าเราเหนื่อยไหม ขอโทษที่ต้องทำให้ลูกเหนื่อยเเบบนี้
บางทีก็อยากถามคนเป็นพ่อแม่ คนอื่นนะคะ ว่าเรามันเเย่มากเหรอ ถ้าเราซื้อรถเเล้วเราตัดค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต้องให้พ่อแม่จากเดือนละ 10000 เหลือ 6000 มันดูบาปมากเหรอ แล้วการที่ให้น้องชายมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านนี่เรากลายเป็นพี่สาวที่เเย่ไปเลยหรือป่าวไม่รู้เหมือนกันว่าเรารู้สึกไปเองไหมใาพ่อ แม่รักลูกไม่เท่ากัน ปากบอกว่ามีอะไรให้ยอก แต่พอเราพูดปุปก็หาเรื้องมาลบล้าง ไม่ว่าจะบุญคุณ น้องยังไม่ได้บรรจุ นู่นนี่นั่น แต่ทีตอนเราจบใหม่ๆไม่เห็นมีใครเเคร์เราเเบบนี้บ้าง ทำไมคนเป็นแม่ชอบเอาคำว่าบาปกรรมมาพูด ถ้าเราเป็นเเม่คนเเค่ลูกทำให้เเค่นี้เราก็คงดีใจเเล้ว ลูกจะได้บุญ ไม่ใช่เอาเเต่จะได้ เรียกร้องอยู่นั่นเเหละ เเต่เอาจริงๆ ตั้งเเต่เราทำงานเเล้วได้รู้จักด้านนี้ของพ่อ แม่เราก็ไม่อยากมีลูกเลยค่ะ ไม่อยากเอาความคาดหวังของเราไปไหวที่เขา ไม่อยากให้เขาเศร้าใจเหมือนเรา หรือรู้สึกว่าไม่น่าเกิดมามีพ่อ แม่ เเบบนี้ ไม่อยากให้เขาคิดว่าการที่มีลูกเเล้วเป็นบุญคุณกันต้องมาเลี้ยงเราตอนเเก่ เราอยากให้เขารู้สึกว่าเกิดจากความรักของเราจริงๆ
ขอบคุณนะคะที่อ่าน เเต่บางทีเราก็เกินทนจริงๆ
ทำไมแม่ชอบหาว่าเราไม่เลี้ยงท่าน รักลูกก็ไม่เท่ากัน ชอบทวงบุญคุณ
พอดีที่บ้านเราเป็นครอบครัวมีทั้งหมด 4 คน มีพ่อ แม่ น้องชาย เเล้วก็ตัวเรา เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้แม่อยากให้เราซื้อรถมาใช้ในครอบคนัว พอดีตอนนี้ที่บ้านเรายืมรถคนอื่นใช้อยู่ค่ะ แต่พวกค่าน้ำมัน ประกันรถ เปลี่ยนเเบต น้ำมันเครื่อง ค่าใช้ทุกอย่างเราออกเองนะคะ ที่แม่เราอยากให้ออกรถก็เพราะว่าแม่เราเห็นรถที่ยืมมันเก่าเเล้ว บวกกับเห็นครอบครัวญาติฝั่งพ่อมีรถดีๆขับ เราเลยถามท่านไปว่าถ้าเราซื้อใครจะช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง คราวนี้แม่เราก็เข้าโหมดดราม่าเลยค่ะ บอกว่าไม่เห็นหรอน้องมันเพิ่งเรียนจบทำงาน ยังไม่ได้บรรจุ จะให้มันมาช่วยอะไร เราก๋เลยคิดในใจว่า อ้าวทีตอนเราเรียนจบ ค่าหอเราก็ต้องจ่าย ค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็ต้องจ่าย ค่าบัตรเครดิตเเม่ก็ต้องจ่าย ไม่เหฟ้นจะเป็นห่วง้ราเเบบที่เป็นห่วงน้องเลย แลวก็มายแกว่าเราเป็นลูกที่ไม่ดี หาว่าเราไม่เลี้ยงดูท่าน ไม่ให้เงินซื้อเสื้อผ้า พาไปกินข้าว ให้เงินเเบบลูกคนอื่นเขา เราก็ได้เเต่คิดในใจ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเราก็ออก ค่าน้ำไฟ ค่ารถ ค่าประกันสังคม ค่ากิน ค่าของใช้ต่างๆ เราก็ออกแต่มันไม่ดีพอสำหรับคนเป็นแม่เหรอคะ ถึงชอบพูดทำร้ายจิตเราเเบบนี้ แล้วก็ชอบมาบอกว่าเมื่อก่อน ก่อนที่เราจะทำงานเราบอกว่าเราจะดูเเลท่าน เราก็ได้เเต่สงสัยที่เราทำอยู่นี่มันไม่ดูเเลตรงไหน ทำไมถึงชอบบอกว่าเราทำบาปตลอดไม่ยอมเลี้ยงพ่อแม่ ยิ่งคิดก็ไม่เข้าใจ ปากท่านก็บอกว่าไม่เคยว่าที่เราจะเก็บเงิน แต่พอเราเก็บเขาก็บอกว่าเอาแต่เก็บเงินเมื่อก่อนแม่อะนะให้เงินอากงตลอดเท่าไรแม่ก็ให้ ถ้าหมดเเม่ก็หาใหม่ ไม่เคยทำตัวแย่เเบบเรา เราก็เลยงง ว่าการที่เราเก็บเพื่ออนาคตตัวเองมันผิดมากเหรอ ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ออก ต้องก่รอะไรจากชีวิตเราหนักหนา แล้วก็ชอบมาทวงบุญคุฯว่ากว่าจะเลี้ยงเรามาจนโต อะหมดเงินเยอะมาก เราเลยไม่เข้าใจว่าการมีลูกมันไม่ได้มาจากความรักงี้เหรอ คาดหวังว่าพอแก่ตัวลูกต้องเลี้ยงเหรอ ทั้งๆที่ตอนเราเรียนก็ไม่ได้เลี้ยงอะไรเราดีมากมาย เราต้องทำงาน part time ตลอดตั้งเเต่ปี3-4 ส่วนเรื้องรถ คือเราก็มี plan จะซื้อรถ แต่ถ้าซื้อรถตอนนี้ เราก็อยากให้น้องมาช่วย ค่า น้ำไฟ บ้าง คราวนี้แม่ก็ดราม่าว่าหัดเห็นใจน้องบ้างน้องยังไม่ๆด้บรรจุ เงินเดือน 15000 จะให้น้องมาช่วยไม่ได้นะ กลายเป็นว่าถ้าเกิดเราซื้อรถทุกอย่างเราก็ต้องจ่าย เเถมเงินเก็บเเต่ละเดือนเเทนที่จะได้เก็บไปซื้อทอง หรือสลากออมสิน กลับกลายมาเป็นต้องเอามาผ่อนรถ รู้สึกเหมือนค่าใช้จ่ายมันเยอะขึ้น เราก็กลัวอนาคตเราจะไม่ไหว เเล้วก็ชอบมาบอกว่าโบนัสออกแทนที่จะซื้อตู้เย็น ให้พ่อ แม่ ซื้อนู่นนี่ให้พ่อแม่ คือเราอาจเป็นคนเห็นแก่ตัวก็ได้นะ แต่เราทำงานมาทั้งปีก็อยากเอาเงินมาซื้อทอง ซื้อของที่ตัวเองอยากได้บ้าง ทำไมเราต้องให้ด้วยอะ ในเมื่อเเต่ละเดือนก็ไม่เห็นจะมีใครเห็นใจค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายในบ้านเลย พ่อ แม่ เจอหน้าเราที่ไรก็ขอแต่เงิน ไม่เคยถามว่าเราเหนื่อยไหม ขอโทษที่ต้องทำให้ลูกเหนื่อยเเบบนี้
บางทีก็อยากถามคนเป็นพ่อแม่ คนอื่นนะคะ ว่าเรามันเเย่มากเหรอ ถ้าเราซื้อรถเเล้วเราตัดค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต้องให้พ่อแม่จากเดือนละ 10000 เหลือ 6000 มันดูบาปมากเหรอ แล้วการที่ให้น้องชายมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านนี่เรากลายเป็นพี่สาวที่เเย่ไปเลยหรือป่าวไม่รู้เหมือนกันว่าเรารู้สึกไปเองไหมใาพ่อ แม่รักลูกไม่เท่ากัน ปากบอกว่ามีอะไรให้ยอก แต่พอเราพูดปุปก็หาเรื้องมาลบล้าง ไม่ว่าจะบุญคุณ น้องยังไม่ได้บรรจุ นู่นนี่นั่น แต่ทีตอนเราจบใหม่ๆไม่เห็นมีใครเเคร์เราเเบบนี้บ้าง ทำไมคนเป็นแม่ชอบเอาคำว่าบาปกรรมมาพูด ถ้าเราเป็นเเม่คนเเค่ลูกทำให้เเค่นี้เราก็คงดีใจเเล้ว ลูกจะได้บุญ ไม่ใช่เอาเเต่จะได้ เรียกร้องอยู่นั่นเเหละ เเต่เอาจริงๆ ตั้งเเต่เราทำงานเเล้วได้รู้จักด้านนี้ของพ่อ แม่เราก็ไม่อยากมีลูกเลยค่ะ ไม่อยากเอาความคาดหวังของเราไปไหวที่เขา ไม่อยากให้เขาเศร้าใจเหมือนเรา หรือรู้สึกว่าไม่น่าเกิดมามีพ่อ แม่ เเบบนี้ ไม่อยากให้เขาคิดว่าการที่มีลูกเเล้วเป็นบุญคุณกันต้องมาเลี้ยงเราตอนเเก่ เราอยากให้เขารู้สึกว่าเกิดจากความรักของเราจริงๆ
ขอบคุณนะคะที่อ่าน เเต่บางทีเราก็เกินทนจริงๆ