แตกประเด็นจาก
https://ppantip.com/topic/41880606
ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเลยครับ
เห็นหัวกระทู้ปั๊บ นึกถึงคำว่า "ระบบราชการ" นึกถึงคำว่า "เช้าชามเย็นชาม" ขึ้นมาทันที
ด้วยเหตุนี้แหละ คนส่วนใหญ่ถึงสายหน้า
.
รัฐราชการ หรือ ระบบราชการ นั้น
จัดอยู่ในประเภท รูปแบบหรูหรา เนื้อหารุ่งริ่ง ทุกเรื่อง ทุกงาน พิธีกรรมใหญ่โต แต่เนื้องานแทบไม่ได้อะไร
ดูอย่างล่าสุด เอาทหารมาตั้งหลายพัน รำมวยไทยไหว้ครู หรูหรายิ่งใหญ่ ระดับโลก แต่ทางเนื้อหา ได้อะไร จบไปแบบงง ๆ
งานราชการนั้น เก่งในเรื่องทำให้ดูมากมาย เหมือนเนื้องานมหาศาล
ขนาดบางคนที่แค่เซ็นหนังสือแต่ละวันเท่านั้น ยังกล้าเอามาอวดว่า ถ้าเป็นคอมพ์ แฮงค์ไปแล้ว
จนโน้ต เดี่ยว 13 ต้องสวนเอาซะว่า อย่างท่านน่ะแค่แป้นพิมพ์ดีด แป้นพิมพ์ดีดโบราณ ไม่มีจอด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพชัดเลย
ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำเอกสารเผยแพร่ผลงาน ทำกราฟฟิคการทำงานโชว์
รับรอง อลังการ์งานสร้าง มากมายมหาศาล เหมือนตำรวจไทยไม่ว่าง งานหนัก ประชาชนอยู่ดีมีสุข
แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นไหม ? ทุกคนรู้กันดี ไม่ต้องสาธยาย
8-9 ปีมานี่ ประเทศไทยก็แบบนี้ คือมีรูปแบบทำงานลักษณะรัฐราชการ
ผลงานมีมากมายผ่านเอกสาร ผ่านกราฟฟิคดีไซน์ อะไร ๆ ก็ดีไปหมด ก้าวหน้าไปทั้งนั้น
แต่ความจริงที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้สัมผัส ได้รับรู้ คือ การประชาสัมพันธ์ของภาครัฐกับความเป็นจริงนั้น สวนทางกัน
ก็อย่างที่เห็น ๆ กันมาหลายสิบปีนั่นแหละครับ
บ่อน ซ่อง ยา อยู่ไหน ตำรวจไม่รู้ แต่ชาวบ้านรู้ ล็อตเตอรี่เกินราคาเต็มเมืองแต่เจ้าหน้าที่กองสลากตรวจไม่เคยเจอ
.
ทำนั่นทำนี่เยอะ ผลงานแยะ แต่ก็แค่เอกสาร ที่เป็นรูปธรรมตอบโจทย์ประชาชนนั้น แทบไม่มี
อย่างอีอีซี 5 ปีผ่าน ใช้งบประมาณไปแล้ว 1.8 ล้านล้านบาท ยังไม่มีอะไรงอกเงยให้ประเทศและประชาชน
แต่บรรดาเครือข่ายเจ้าสัว ที่รับเหมาได้งาน รายกันสะดือปลิ้นไปแล้ว กว่าโครงการจะเสร็จ รวยสะดือปลิ้นกลับอีกรอบแหละ
ดังนั้น อ้างผลงานเรื่องอีอีซี อ้างยังไงมันก็ไม่ได้ผล เพราะประชาชนไม่ได้ประสบผลดีอะไรด้วยเลย
เรื่องสร้างรถไฟโน่นนี่นั่นเหมือนกัน ก็ประชาชนเขารับรู้ ว่าเป็นงานที่ทำตามแผนแม่บทตั้งแต่ปี 2547
ไม่ใช่เรื่องคิดใหม่ทำใหม่ แค่งานทำตามแผนแม่บทที่คนอื่นคิดไว้เท่านั้นเอง จะให้ใครเขาไม่ส่ายหน้าเวลาอวดอ้างได้ไง
เรื่องคลอง เรื่องแฟลตอะไรทำน้องนี้
ประชาชนได้เห็นข่าวอวดแล้ว ร้องยี้ไปตาม ๆ กัน ก็แหม เหมือนแค่ปั้นตุ๊กตาได้ตัวเดียว เอามาอวดคนทั้งประเทศ
ที่ประชาชนอยากเห็น คือผลงานใหม่ ๆ อย่างการปฏิรูปทั้งหลายแหล่
ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปการศึกษา ซึ่งล้วนแต่กลายเป็นปฏิเละไปทั้งนั้น ไม่มีอะไรปฏิรูปสักนิด
แถมเรื่องความขัดแย้ง ที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อกำจัดความขัดแย้ง ก็กลับลุกลามบานปลายหนักไปกว่าเดิม ฝังลึกกว่าเดิม
ไม่สายหน้าไงไหว
ที่คันใจสุด ๆ คือ สี่ปีงบประมาณที่ผ่านมา รัฐบาลตั้งงบกลางไว้ใช้ตั้ง 2.3 ล้านล้านบาท
แต่เหมือนเงินก้อนนี้ไม่มีตัวตน น้ำท่วม หนาว ฝนแล้ง ภัยพิบัติ และความเดือดร้อนอื่น ๆ กว่าเงินงบกลางจะไปช่วย
ผ่านไปหลายเดือน จากท่วมจนกลายเป็นหนาว จากหนาวกลายเป็นแล้ง จากแล้งกลายเป็นท่วมอีกรอบ เงินเพิ่งไปถึง
นี่แหละ งานแบบรัฐราชการ งบประมาณตั้งไว้เยอะ ไม่ค่อยถึงประชาชน แต่เงินหมด เหมือนหายไปกับสายลม
แต่ที่รวดเร็วสุด ๆ ก็เช่น อนุมัติงบกลางพันกว่าล้าน จ่ายเป็นค่าตอบแทนให้กองทัพ
จ่าย 141 ล้าน ให้ตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ปราบม็อบ
เมื่อประชาชนไม่อยู่ในสมการการทำงาน อวดผลงานยังไง ก็ดูฝืนความจริง
คนส่วนใหญ่ย่อมส่ายหน้าเป็นธรรมดา
ทำนู่นนี่เยอะ ผลงานแยะ แต่ทำไม คนส่วนใหญ่ยังส่ายหน้า
ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเลยครับ
เห็นหัวกระทู้ปั๊บ นึกถึงคำว่า "ระบบราชการ" นึกถึงคำว่า "เช้าชามเย็นชาม" ขึ้นมาทันที
ด้วยเหตุนี้แหละ คนส่วนใหญ่ถึงสายหน้า