ก็เข้าฉายรอบปกติในโรงภาพยนตร์ไปแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และนี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่ผมรอแบบคาดหวังประมาณนึงในฐานะแฟนบอยเรื่องนี้ ส่วนจะสมกับที่รอคอยไหมก็รับชมกันเลยครับ



พล็อตเรื่อง
“ราจา” ประเทศเล็กๆแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ประเทศนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์วิกฤตเนื่องจากน้ำในทะเลสาบที่เน่าเสียเพราะพิษจากเหมือง “ราชินีโทวะ” ได้ใช้เวทมนต์ของมงกุฏที่สืบทอดต่อกันมาในราชวงศ์ขจัดพิษในทะเลสาบและปกป้องประชาชน โดยแลกกับการที่เธอต้องโดนคำสาปไปทั่วทั้งร่างกายและชีวิตของเธอนั้นก็ได้ถูกกัดกินไปทีละนิด ในขณะเดียวกันโอเกอร์ผู้เหลือรอด “ฮิอิโระ” ผู้เป็นพี่ใหญ่ของเบนิมารุก็ได้ออกมาปรากฏตัวที่เทมเพสต์อย่างกะทันหัน และเพื่อที่จะปกป้องโทวะและประเทศราจา ฮิอิโระจึงได้มาขอความช่วยเหลือจากริมุรุ และเขาก็ได้พบกับเบนิมารุอีกครั้ง

ที่กล่าวมาคือพล็อตประมาณ 80-90% ของเรื่องแล้ว ซึ่งมันก็เป็นพล็อตจาก Official เลย เอาจริงๆพล็อตมันค่อนข้างตื้นไปหน่อยนึง ในส่วนที่เหลือถ้าเป็นคนที่อ่านนิยายมาแล้วก็น่าจะเดาได้จากบริบทในหนังเลย ถ้าเป็นคนที่ดูแค่อนิเมะหรืออ่านมังงะอย่างเดียวก็คิดว่าน่าจะเอนจอยกับพล็อตในส่วนที่เหลือได้อยู่ (เอาจริงๆก็น่าจะเซอร์ไพรส์ระดับนึงเลยล่ะ) เอาจริงๆก็แอบคิดว่าถ้ามันมีพล็อตทวิสต์สักหน่อยนึงมันจะสมบูรณ์กว่านี้




การดำเนินเรื่อง
มันคือสไลม์ที่เราๆคุ้นชินกัน โหมโรง ประชุม ต่อสู้ หลักๆก็ประมาณนี้ โดยจะเล่าไปแบบค่อยๆไต่ระดับไปเรื่อยๆ ในช่วงชั่วโมงแรกของหนังมันก็จะอืดๆเนือยๆหน่อย พอหลังจากนั้นก็จะเริ่มสนุกขึ้น แต่แอบเสียดายตอนท้ายเรื่องไปนิดนึง (ส่วนนึงก็เพราะคาดเดาได้แล้วด้วย) ในเรื่องจะมีการตบมุกมาประปรายพอให้คนดูไม่เบื่อ (โดยเฉพาะดิอาโบลนี่ยังคงคุณภาพความกาวคับถัง) แต่มันก็ไปไม่สุดในสักด้าน ในด้านการแบ่งแอร์ไทม์ตัวละครหลักก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เฉลี่ยๆบทให้กันพอเหมาะในความเป็นอนิเมะจอเงินที่เวลาฉายน้อย แต่ก็แอบไม่ชอบที่พยายามยัดตัวละครบางตัวเข้ามาซึ่งก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องสเกลพลังอันนี้ก็ตามสภาพเรื่องแหละคือริมุรุตอนนี้เป็นจอมมารแล้วทั้งบริบทและในนามเลยไม่ได้ลุ้นอะไรเท่าไหร่ ประกอบกับดิอาโบลที่ได้ทั้งชื่อและร่างกายไปก็กลายเป็น Demon Lord ก็ตบสบายแบบนุ่มๆ ถ้าใครหวังว่ามันจะฉะกันเดือดๆก็คงต้องผิดหวังสักหน่อยเพราะพี่แกโชว์เทพกันอยู่สองคน



งานภาพ
น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องแล้ว โดยรวมสมกับที่เป็นอนิเมะจอเงิน ฉากต่อสู้ก็ทำมาได้ดีเลย อัปเกรดขึ้นมาจากซีซั่น 2 ที่ฉายจบไปอย่างชัดเจน แต่ยังไม่ได้ถึงขั้นดีเลิศระดับดาบพิฆาตอสูร



ธีมเพลงประกอบ
ธีมประกอบในเรื่องถือว่าขับอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการได้รับดูในโรงภาพยนตร์ด้วยแล้วก็ถือว่าดีงามเลย ปิดท้ายด้วยเพลง Make Me Feel Better ของคุณ MindaRyn ด้วยแล้วก็ถือว่าฟีลกู๊ด



สรุปโดยภาพรวม ก็ถือว่าเป็นอนิเมะที่โอเคดูสนุก สำหรับแฟนๆริมุรุและผองเพื่อน (โดยเฉพาะดิอาโบล) ถ้าไม่ได้ติดขัดอะไรก็ถือว่าเหมาะกับการเข้ามารับชมในโรงภาพยนตร์ แต่โดยส่วนตัวความรู้สึกหลังดูจบคืออาจจะไม่ได้น่าเสียดายถ้าพลาดไม่ได้ดูเพราะถือเป็นเนื้อเรื่องที่แยกออกมาจากเส้นเรื่องหลัก แล้วก็อย่างที่กล่าวไปในขั้นต้นคือพล็อตมันค่อนข้างตื้นไปไม่สุดในสักทาง บวกกับการดำเนินเรื่องค่อนเนือยๆในช่วงแรก และอีกจุดนึงที่ค่อนข้างสงสัยเลยคือชื่อภาค "สายสัมพันธ์สีชาด" คือระหว่างฮิอิโระกับเบนิมารุก็เล่าแค่แตะๆพอเป็นพิธี ส่วนระหว่างฮิอิโระกับเจ้าหญิงโทวะก็โอเคแหละได้ในระดับนึงแต่มันก็ไปไม่สุด ตัวเรื่องเล่ามาถึงจุดๆนึงกำลังดีๆ แล้วก็หยุดไปดื้อๆ ไม่ขยี้ไม่อะไรต่อเลย ตัดจบไปเลยทำเสียอารมณ์ประมาณนึง แล้วตอนจบที่แอบคิดว่าเล่นง่ายไปนิดนึงเอาแบบนี้ก็ได้หรอ เอาเป็นว่าถ้าได้มีโอกาสรับชมก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เสพความเป็นอนิเมะจอเงิน เสพบรรยากาศในเรื่อง ดูไอต้าวริมุรุและถังกาวดิอาโบลออกมาโลดแล่น ผมคิดว่าก็น่าจะคุ้มค่าแล้วสำหรับแฟนบอย ส่วนเรื่องงานพากย์ผมดูแค่ในส่วนของซับไทย ไม่ได้รับชมในแบบพากย์ไทยเลยไม่สามารถบอกได้ในส่วนตรงนั้น



คะแนนโดยรวมของเรื่องนี้ 7.5/10 (ถ้าแบบอวยๆหน่อยให้ 8/10)