รู้หรือไม่?... อุดฟันไปแล้ว มีโอกาสที่ฟันผุซ้ำได้อีก
จริงอยู่ที่การอุดฟันมีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่การซ่อมแซมฟันซี่ที่มันผุอยู่ หรือซี่ที่ฟันเสียหาย ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน มีรูปร่างเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงฟันเดิม หรืออาจจะได้ฟันที่ดีกว่าเดิมก็ได้
แต่รู้อะไรไหม ว่าตรงจุดที่อุดฟันไปแล้ว ถ้าเราดูแลไม่ดี มันก็สามารถผุซ้ำซ้อนได้อีก เรียกว่าเป็นการผุแบบ Inception เลยก็ว่าได้
สาเหตุก็เกิดจาก ตอนที่เราอุดฟัน ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด หรือจะใช้วัสดุชนิดใดก็ตาม บริเวณที่อุดฟันจะมีรอยต่อระหว่างวัสดุกับผิวฟัน ซึ่งร่องเล็กๆตรงนี้แหละ จะเป็นจุดให้แบคทีเรียมูฟออนเข้าไปอาศัยอยู่กันเป็นชุมชนแออัดได้ และหากเราไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดีพอ สุดท้ายบริเวณที่อุดฟันไปก็อาจจะกลับมาผุซ้ำได้อีกครั้งนั่นเอง เพราะฉะนั้นหลังจากที่อุดฟันไปแล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีด้วยการ...
* แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อย่างน้อยครั้งละ 2 นาที และงดทานอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ใครที่กังวลมาก หลังทานอาหารเสร็จ ก็สามารถแปรงฟันหรือใช้น้ำบ้วนปากช่วยลดการสะสมคราบพลัคได้ด้วย
* ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน ที่ขนแปรงไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง
* ไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนหรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก รวมถึงคุณภาพของวัสดุอุดฟันในปาก อันนี้สำคัญมาก เพราะบางคนปล่อยทิ้งไว้หลายปีแล้วค่อยมาตรวจ บางครั้งถ้าเจอฟันผุแต่เนิ่นๆ แค่อุดฟันก็หายแล้ว แต่มาเจอตอนอาการหนักๆ ยิ่งถ้าเป็นฟันที่ผุลึกมากจนทะลุโพรงประสาทอาจต้องได้รับการรักษารากฟัน หรือทางสุดท้ายหากไม่สามารถรักษาต่อไปได้ จะต้องทำการถอนฟันออกไปเลยทีเดียว
ที่สำคัญหมั่นตรวจดูรอยอุดว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากมีรอยแตกบิ่น หรือวัสดุอุดฟันสีเริ่มเปลี่ยน หรือใช้ไหมขัดฟันบริเวณนั้นแล้วขาด หรือมีกลิ่นเหม็นบริเวณที่เคยอุดไป อันนี้ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที อย่าปล่อยไว้นานๆ นะครับ
รู้หรือไม่?... อุดฟันไปแล้ว มีโอกาสที่ฟันผุซ้ำได้อีก
รู้หรือไม่?... อุดฟันไปแล้ว มีโอกาสที่ฟันผุซ้ำได้อีก
จริงอยู่ที่การอุดฟันมีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่การซ่อมแซมฟันซี่ที่มันผุอยู่ หรือซี่ที่ฟันเสียหาย ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน มีรูปร่างเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงฟันเดิม หรืออาจจะได้ฟันที่ดีกว่าเดิมก็ได้
แต่รู้อะไรไหม ว่าตรงจุดที่อุดฟันไปแล้ว ถ้าเราดูแลไม่ดี มันก็สามารถผุซ้ำซ้อนได้อีก เรียกว่าเป็นการผุแบบ Inception เลยก็ว่าได้
สาเหตุก็เกิดจาก ตอนที่เราอุดฟัน ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด หรือจะใช้วัสดุชนิดใดก็ตาม บริเวณที่อุดฟันจะมีรอยต่อระหว่างวัสดุกับผิวฟัน ซึ่งร่องเล็กๆตรงนี้แหละ จะเป็นจุดให้แบคทีเรียมูฟออนเข้าไปอาศัยอยู่กันเป็นชุมชนแออัดได้ และหากเราไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดีพอ สุดท้ายบริเวณที่อุดฟันไปก็อาจจะกลับมาผุซ้ำได้อีกครั้งนั่นเอง เพราะฉะนั้นหลังจากที่อุดฟันไปแล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีด้วยการ...
* แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อย่างน้อยครั้งละ 2 นาที และงดทานอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ใครที่กังวลมาก หลังทานอาหารเสร็จ ก็สามารถแปรงฟันหรือใช้น้ำบ้วนปากช่วยลดการสะสมคราบพลัคได้ด้วย
* ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน ที่ขนแปรงไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง
* ไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนหรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก รวมถึงคุณภาพของวัสดุอุดฟันในปาก อันนี้สำคัญมาก เพราะบางคนปล่อยทิ้งไว้หลายปีแล้วค่อยมาตรวจ บางครั้งถ้าเจอฟันผุแต่เนิ่นๆ แค่อุดฟันก็หายแล้ว แต่มาเจอตอนอาการหนักๆ ยิ่งถ้าเป็นฟันที่ผุลึกมากจนทะลุโพรงประสาทอาจต้องได้รับการรักษารากฟัน หรือทางสุดท้ายหากไม่สามารถรักษาต่อไปได้ จะต้องทำการถอนฟันออกไปเลยทีเดียว
ที่สำคัญหมั่นตรวจดูรอยอุดว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากมีรอยแตกบิ่น หรือวัสดุอุดฟันสีเริ่มเปลี่ยน หรือใช้ไหมขัดฟันบริเวณนั้นแล้วขาด หรือมีกลิ่นเหม็นบริเวณที่เคยอุดไป อันนี้ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที อย่าปล่อยไว้นานๆ นะครับ