[BR] ใช้เบอร์มงคลอย่างไรให้ปัง เปิดประสบการณ์จริง ชีวิตพลิกจริง!

กระทู้ผู้สนับสนุน


เมื่อกระแสมูมาแรง สติปัญญาก็ต้องไม่หายไป มูอย่างไรให้ปังจึงไม่ใช่การเข้าพิธีกรรม เอาแต่ร้องขอ และการพกเครื่องราง เต็มกระเป๋าแต่ในใจนั้นว่างเปล่ามาก การมูด้วยปัญญา และใช้สตินำทาง ส่วนความเชื่อและความศรัทธาก็พาเราพบคำตอบได้แท้จริงในสิ่งที่ทำ การมูในรูปแบบนี้ ส่วนตัวทำแล้วดีกับชีวิตมาโดยตลอด นอกจากเพจพี่คะหนูโสดที่แชร์กันเรื่อยๆ แล้ว วันนี้ก็ขอสรุปอีกครั้ง เผื่อจะเป็นไกด์ตั้งแต่ต้นปีไปด้วยกัน บอกก่อนว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลและตัดสินใจกันนะคะ


1. กำหนดเป้าหมายปีนี้ ขอพรให้ตรงกับเป้าหมาย
                
ข้อแรกที่อยากให้ทุกคนมาจูนให้ตรงกันก่อน และต้องทำความเข้าใจพร้อมกันว่า ความปังใดๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจาก สติ ปัญญา การเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่ทำ ซึ่งถ้าเราเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยแล้ว องค์ท่านไม่ว่าจะองค์ไหนก็ตามที่เรานับถือ ท่านก็จะเป็นกำลังใจให้เรา เป็นที่ยึดเหนี่ยว และไม่ทำให้เราหลงทาง แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องเป็นคนที่มีเป้าหมาย ซึ่งไม่สำคัญว่าเป้าหมายนั้นจะเล็กหรือใหญ่ แต่อยู่ที่ว่าเราเอาแต่ขอพร เอาแต่พูดขอต่างๆ นานา แต่ชีวิตจริงเราไม่ได้ทำให้สมกับสิ่งที่เราขอพร แบบนั้นก็จะไม่เกิดผลอะไรได้ แต่ถ้าเราตั้งใจแบบแท้จริง ส่วนตัวเชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรา เคารพนั้นเมตตาแบบทันใจเลย (และต้องไม่เป็นเรื่องผิดศีลธรรมนะ)



และในความเชื่อที่ว่านี้ เป็นสิ่งที่เชื่อมานาน เพราะเป็นพวกมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำใจ ไปไหนก็กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่นั้นๆ เสมอ อย่างความเคารพ ส่วนใครจะว่างมงายนั้น ก็ต้องบอกว่า “นี่คือสิ่งที่เรารัก ศรัทธา ทำให้เรามีกำลังใจ และนำพาเราไปเจอสิ่งที่ ดีเสมอมา” ซึ่งสิ่งที่เราทำคู่กันด้วยนั้น คือการตั้งเป้าหมายในทุกๆ ปีและทุกๆ เรื่อง และเมื่อชีวิตเรามีเป้าหมาย การขอพรที่ไม่ว่าจะขอจากองค์ใดก็ตาม ก็จะไม่เป๋ ไม่หลงทาง และไม่ใหญ่เกินตัว

สรุป ขอพรอย่างไรให้ปัง = มีเป้าหมาย + ขอพรให้สัมพันธ์กับเป้าหมาย + มีความศรัทธาในสิ่งที่ทำและในสิ่งที่เรานับถือ + มี ความเชื่อ + ลงมือทำจริง


2. อย่าหยุดสร้างบุญ ทำให้สม่ำเสมอ
        
เมื่อไหร่ที่เราสุขใจเมื่อเป็นผู้รับ เมื่อนั้นเราต้องเตือนตัวเองว่า อย่าลืมเป็นผู้ให้เพื่อรักษาสมดุลในใจเรา เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ส่วนตัวเชื่อและทำเสมอมา ถ้าการให้เรียกว่า บุญ เราเองก็ชอบทำบุญ และถ้าบุญ เรียกว่า ความเมตตา หลายครั้งเราก็ให้ด้วยความเมตตา เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เคยทำ ฝึกได้ แต่ถ้าทำอยู่แล้วให้รักษาความสม่ำเสมอไว้ ตามความเชื่อส่วนตัวนะทุกคน การสร้างบุญกุศล ไม่ว่าจะจากทางใดก็ตาม ทั้งการใส่บาตร บริจาคทาน บริจาคเงิน บริจาคอาหาร ถวายดอกไม้ สวดมนต์ หรือใช้ปัญญา ในการแก้ไขปัญหาให้ผู้อื่น หรือแม้แต่การหยอดตู้ตามที่ต่างๆ



สิ่งเหล่านี้ เรียกว่า การฝึกจิตแห่งความเมตตา ยิ่งเราทำเราจะเห็นชีวิตอีกหลายๆ ด้าน ซึ่งบางอย่างก็แย่กว่าสิ่งที่เราเจอ การทำบุญในแบบของเรา จึงเป็นการแบ่งปันส่งต่อ และเติมเต็มให้ชีวิต หรือสถานที่นั้นๆ ให้อยู่อย่างมีความสุข  เกิดเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราสุขใจได้ และบุญนั้น ก็ยังช่วยเบาในเรื่องกรรมที่เราจะก่ออีกในชาตินี้ คือใจเรามันเบาลงได้     



บุญยังดึงดูดบุญที่เสมอกันเข้ามา เรียกว่า ศีลเสมอกัน ทั้งคนทั้งเหตุการณ์ บุญทำให้กรรมเราในอดีตเบาลงได้ เพราะเราจะเข้าใจมันเอง เลิกแค้น บุญจะเป็นยันต์ที่ปกป้อง คุ้มครองเราและครอบครัว เรื่องนี้จริงมาก ในเมื่อชีวิตทำทุกอย่างแล้ว ต้องไม่ลืมทำบุญให้สม่ำเสมอ อย่าทำบุญเมื่อจิตตกเท่านั้น เพราะในกระปุกบุญของเรามันจะว่างเปล่า เมื่อต้องการใช้แต้มบุญ มันจะไม่ทันใช้ ให้สะสมไว้ แล้วชีวิตจะดีเอง บุญจะหล่อหลอมทั้งความคิด สติ ปัญญา คนสร้างบุญกับคนสร้างบาป เลยต่างกันชัด     


3. ศรัทธาพระแม่ลักษมี ต้องศรัทธาด้วยความเข้าใจ
        
ส่วนตัวแล้วนับถือพระแม่ลักษมีมานานร่วมสิบๆ ปี ตั้งแต่สายมูหรือเทพฮินดูยังไม่แพร่หลายขนาดนี้ แล้วในช่วงหลังก็ได้เปิดเพจให้คำปรึกษากับ หลายๆ คน ฮีลลิ่งหัวใจคนโสดมามากมาย จะแปลกอะไรถ้าเราขออัญเชิญพระแม่ลักษมี มาเมตตาความสุขให้เราทุกคนในวันนี้ ซึ่งก็เห็นชัดว่า "ศรัทธาด้วยใจจริง ไม่เอาแต่ร้องขอ ไม่เอาแต่ต่อรองว่าได้แล้วจะให้ ยังไงท่านก็เมตตาพรนั้นกับเราแน่นอน”



สิ่งที่อยากแนะนำให้กับมือใหม่ที่เพิ่งนับถือท่าน คือ หากเลือกที่จะนับถือแล้ว อย่าทำเพียงเพราะกระแส พอไม่ได้รับในสิ่งที่ขอพรก็ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ใช่มาแค่อยากพ้นความทุกข์ แล้วพอมีสุขก็เลิกบูชา



พระแม่ลักษมี ท่านเป็นเทวีที่ขึ้นชื่อว่า ร่ำรวยที่สุด สง่างามดุจเจ้าหญิง และมีความรักแท้และมั่นคงที่สุด ท่านเป็นคนรักของพระวิษณุที่เป็นผู้กำเนิดพระ แม่ลักษมีจากการเกษียรสมุทร ซึ่งในครั้งนั้นพระแม่ลักษมีได้เกิดจากฟองน้ำ ประทับบนดอกบัว และลืมตาขึ้นก็เจอพระวิษณุเป็นคนแรก แล้วก็กลาย เป็นรักเดียวของพระแม่ลักษมีตลอดกาล ซึ่งไม่ว่าพระวิษณุจะอวตารเป็นร่างใดนั้น ต่อให้เป็นพระกฤษณะที่เป็นนักรักตัวยง ท่านก็ขออวตารเป็นนาง ราธา และนางรุกมิณี หรือแม้แต่ตอนพระวิษณุอวตารเป็นพระราม ท่านก็อวตารเป็นนางสีดา พระแม่ลักษมีจึงเป็นเทพฮินดูที่มีความพร้อมในทุกด้าน สิ่งที่ท่านจะบรรดาลให้ผู้ที่นับถือนั้น คือความสุขในทุกด้านของผู้หญิง ทั้งความรัก การเงิน การงาน สุขในใจของเราขอเพียงไม่ผิดศีลธรรม ไม่ว่าจะเรื่อง ใดท่านก็จะปรารถนาให้เรา และในเรื่องความรัก หากไม่มั่นใจคนที่คบหรือคุยอยู่ให้บอกท่าน ไม่นานก็โป๊ะเอง (เรื่องจริงที่เจอกันเพียบ โปรดใช้วิจารณญาณ)



คำแนะนำสำหรับผู้ที่นับถือท่าน ก็ควรเริ่มจากการเริ่มเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน เช่น ผู้ที่นับถือพระแม่ลักษมีหลายๆ คน ก็มักมีนิสัยรักตัวเอง รักของสวยงาม พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ช่างเลือก มีความเก่งกาจ แต่ก็อ่อนหวาน มีความเป็นผู้หญิง มีเป้าหมาย และไม่ลดสเปค พูดง่ายๆ ว่า ความสง่างาม และการใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งและสมบูรณ์ดุจดั่งเจ้าหญิงขององค์ท่าน ก็มาเป็นอินสไปร์ให้เราได้เช่นกัน และแน่นอนว่าในการถวายของบูชาให้กับท่านนั้น ก็ต้องสมบารมีท่าน ให้ของกับใครก็ต้องเรียนรู้ว่า เขามีนิสัยอย่างไรและชอบอะไร ท่านเองก็ชอบความสวยงาม อลังการ ความตั้งใจจริง จัดให้ท่านอย่างสมบารมี แล้วแน่นอนว่า พรที่ปรารถนากันก็สำเร็จกันเร็วมาก! อ้อออ! ที่สำคัญคือ ขนมที่มีส่วนผสมของไข่ ทองหยิบ ทองหยอด ขนมปัง สีชมพูทั้งหลาย ใดๆ แล้วถ้าเป็นไข่ เป็นเนื้อสัตว์ เป็นของกลิ่นแรงคือห้าม เทพฮินดูท่านจะชื่นชอบของจากธรรมชาติเลย แต่เราก็ทำให้สวยงาม นี่คือเคล็ดลับ                    

แล้วที่สำคัญเครื่องราง ของบูชาที่พกติดตัวและเอาไว้ที่บ้านหรือร้านค้า ดูแลให้ดี ฝุ่นอย่าจับ พูดคุยกับองค์ท่านเสมอ ขอพรก็ขอในรูปแบบเล่าแบบละเอียดถึงที่มาที่ไป บอกท่านว่าต้องการให้ท่านช่วยอะไร เพราะอะไร ให้ท่านเป็นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เราเคารพ ถ่ายทอดความรู้สึกให้ชัดเจน จะน้ำตาไหลตอนขอพรก็ไม่ผิดอะไร การสื่อสารที่เพ่งจิตอย่างมีสมาธิเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของเทพฮินดู            

นี่คือสิ่งที่เชื่อและทำตลอดมา
ชื่อสินค้า:   Dtac Lucky Number
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่