เอาง่ายๆก็เรื่องระบบขนส่ง การจราจร ความปลอดภัยบนท้องถนน (ที่อาจจะยาก)
หรือไม่ก็เรื่องการทำงานของธุรกิจ ที่อาจจะจ้างคนลดลงมาก เหลือแต่มนุษย์หุ่นยนต์ เครื่องจักร 

ในเรื่องของการแพทย์ ก็อาจจะเป็นแบบหมอหุ่นยนต์ พยาบาลหุ่นยนต์ แค่คิดว่าในส่วนนี้อาจจะอีก 300-500 ปี กว่าจะถึงจุดนี้ได้ เพราะอารมณ์ของมนุษย์นั้นซับซ้อนและยากเกินกว่าโปรแกรมที่ป้อนให้ AI จะเข้าใจได้ แต่ไม่ยากเกินความสามารถของมนุษย์ 

เมื่อก่อนเราคิดว่าการบินบนท้องฟ้าเหมือนนกนั้นคือความเป็นไปไม่ได้ เรามีขาไว้เดิน
แต่เวลานี้ เราบินจากกรุงเทพลงกระบี่ บินจากเชียงใหม่มากรุงเทพแปบเดียวถึง
ล่าสุดก็มีข่าวว่า นาซ่าที่ส่งนักบินไปดวงจันทร์ จนมีข่าวว่า ตอนนี้จะสร้างเมืองจำลองบนพื้นผิวดวงจันทร์แล้ว

ระบบการชำระเงินก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นได้ชัดคือ สังคมไร้เงินสด เงินดิจิตอลกำลังมาทดแทนเงินสดมากขึ้นเรื่อยๆ
การชำระเงินผ่างทางออนไลน์ คนเข้าธนาคารน้อยลง จนมีการปิดสาขาไปแล้วเป็นพันๆแห่งทั่วประเทศไทย และอีกในหลายๆประเทศ 
แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการถูกหลอกจากมิชฉาชีพมากขึ้น หากไม่มีความรอบคอบและการรักษาความปลอดภัยของบัญชีตัวเองเบื้องต้น เรื่องนี้สามารถสอนและเตือนกันได้ คนยุคใหม่จะมีควาามเข้าใจในเทคโนโลยีมากกว่าคนยุคก่อน หรือตั้งแต่ อายุ 45-50 ขึ้นไปในปัจจุบัน 
แต่คิดว่าในอนาคต พวกเราก็ยังกำจัดพวกอาชญากรไซเบอร์ได้ยาก เพราะเมื่อไหร่ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตเป็นฐานหล่อเลี้ยง
มันก็จะมีโปรแกรมเมอร์หรือนักแฮกเกอร์ที่แอดวานซ์มาจากโปรแกรมเมอร์ ที่ดันใช้ความรู้ในทางที่ผิด เพียงเพราะอำนาจของเงินตรา

ถ้าพูดถึง การจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ในปัจจุบัน ก็อยากให้เป็นแบบเรียลไทม์ ที่เราสามารถเช็คว่าใช้ไฟใช้น้ำไปกี่หน่วยแล้ว ในแต่ละวัน เช็คได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งว่า ดูไฟกำลังเปลี่ยนหน่วยไปเรื่อยๆค่อยๆเพิ่มขึ้น เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตและมือถือ 

เวลามีใครเจ็บป่วย รถพยาบาลหุ่นยนต์จะเข้ารับตัวถึงห้องนอนทันที และทีมงานทุกคนส่วนใหญ่คือหุ่นยนต์ มีเพียง 2-3 คนเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ เพราะต้องมีมนุษย์ในการประสานงานและควบคุมหุ่นยนต์ และมีไว้ในทีมเพื่อสื่อสารอาการกับคนไข้ อะไรแบบนี้ เพราะหุ่นยนต์ ทำตามหน้าที่ ไม่สนใจความรู้สึกมนุษย์

หรือเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ มาแชร์ ความเป็นอยู่ของอารยธรรมมนุษย์ในโลกอนาคต อีก 500-1000 ปี ข้างหน้ากันเถอะ