ยาวหน่อยนะครับ คือผมคุยกับน้องคนนึงมา 2 เดือนครึ่งละ ตอนแรกที่คุยกันมันโอเคมากเลยครับ ไลฟ์สไตล์และความชอบตรงกันมาก คิดว่าต้องได้เป็นแฟนกันแน่นอน แต่อยู่ ๆ หลังจากเจอกันครั้งล่าสุด เธอก็หายไปแบบงง ๆ ครับ ทำเอาผมตั้งตัวไม่ทัน เพราะมันไม่มีสัญญาณอะไรบอกเลยว่าเธอไม่โอเค จนผมเกือบจะตัดใจแล้ว หลังจากวันนั้นก็ลองทักไปหาดู เพราะใจผมรู้สึกว่าน้องคนนี้มันใช่มาก ไม่อยากเสียเธอไป เธอตอบกลับมาประมาณว่ายังไม่พร้อมผูกมัดใครครับ ลองเปิดใจแล้วแต่มันฝืน ๆ ผมก็โอเค รอได้ เลยพยายามเว้นระยะห่างไว้บ้าง
หลังจากนั้น ผมเองก็รู้สึกได้ว่า เธอไม่ได้แคร์หรือสนใจที่อยากจะคุยกับผมเลย เป็นผมเองที่พยายามเข้าหาตลอด จนเริ่มรู้สึกเหนื่อย ผมอยากเจอเธอมาก แต่เธอก็ปฏิเสธ เห็นเธอลงสตอรี่ไปเที่ยวกับเพื่อน ตัดมาที่ผมทำได้แค่ส่องสตอรี่เธอแค่นั้นเองหรอ ทั้ง ๆ ที่ผมอยากเจอเธอมาก ๆ จนผมขอยอมแพ้ ทักไปหาเธอและบอกว่าขอถอยออกมาดีกว่า (จริง ๆ จะหายไปเลยก็ได้แหละ แต่ลึก ๆ ก็ยังตัดใจไม่ได้นั่นเอง จะว่าผมโง่ก็ได้นะครับ โดนเค้าทำร้ายขนาดนี้ยังไม่ยอมตัดใจอีก)
หลังจากบอกไปว่ายอมถอยแล้ว ผมก็พยายามจะตัดใจครับ ไม่ส่องโซเชียลเธออีกเลย (แต่ไม่ได้บล็อคหรืออันฟอล) แต่เธอก็ยังส่งคลิปน้องหมาน้องแมวมาให้ผมบ้างนะ ผมส่งกลับไปบ้างนิดหน่อย จนสุดท้ายไม่มีใครส่งหากันแล้ว จนกระทั่งได้รู้สาเหตุที่แท้จริงครับ
ผมเห็นเธอลงสตอรี่นึง พูดถึงเกี่ยวกับโรคกลัวความรัก (Philophobia) ซึ่งอาการมันตรงกับที่เธอทำกับผมเลย คร่าว ๆ คือกลัวการมีความรัก เวลามีใครเข้ามาจนเธอเริ่มรู้สึกดีด้วย เธอจะปฏิเสธ และทำตัวออกห่างทันทีพร้อมสร้างกำแพงไว้ พอผมได้รู้แบบนั้นแล้ว ผมกลับไม่โกรธเธอเลย (แต่ก็ยังเจ็บอยู่) พยายามจะเข้าใจเธอมากขึ้น หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันอีกครั้งครับ เธอก็ขอโทษผมที่เหมือนไปให้ความหวัง แล้วก็ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่ผมทำให้ แต่เธอยังไม่พร้อมจริง ๆ (เธอพึ่งเลิกกับคนเก่าได้ 2 เดือนก่อนคุยกับผมครับ) ผมเลยบอกไปว่าผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงหายไป ขอกลับมาคุยใหม่อีกครั้งนะ แต่เป็นพี่น้องกันก่อนก็ได้ ค่อย ๆ ให้เธอเปิดใจทีละนิด
สรุปตอนนี้เราก็กลับมาคุยกันอีกครั้งแล้วครับ โดยผมพยายามจะไม่รุกหนักจนเกินไป เป็น Safezone ให้เธอครับ ใช้ความตั้งใจและพยายามให้เธอเห็นว่าผมพร้อมจะเข้าใจและดูแลเธอจริง ๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมต้องพยายามขนาดนี้ เพื่อน ๆ ก็แนะนำให้ตัดใจแล้วไปเริ่มต้นใหม่ดีกว่า แต่ใจผมมันบอกว่าต้องคนนี้อะ เพราะช่วงแรกที่ได้รู้จักและคุยกัน ผมรู้สึกได้ว่าเธอก็ชอบผมเหมือนกัน แต่เป็นเพราะโรค Philophobia นี่แหละที่เป็นอุปสรรค ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าจะพยายามทำลายกำแพงของเธอไปจนถึงเมื่อไหร่ อาจจะ 6 เดือน 1 ปี หรือไม่ก็จนผมเหนื่อยกับการเป็นได้แค่พี่น้องจริง ๆ ทำเอาผมนึกถึงเพลง เสียงของหัวใจ ของแอน ธิติมาเลยครับ มันแว่บเข้ามาในหัวเลย เพลงเพราะมาก ๆ ครับ
"แค่เพราะหัวใจมันบอก
อาจไม่ค่อยพอ
แต่ฉันก็ยังมั่นใจ
ว่าต้องใช่เธอ
เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ
ให้รู้สึกดีที่มีเธอ
ขอเชื่อหัวใจตัวเอง
แค่สักครั้งนึง
ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง
ที่ตัดสินใจ
ขอเชื่อในความรักสักหน่อย
แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ"
มีใครเคยจีบคนที่เป็นโรคกลัวความรัก (Philophobia) แล้วสมหวังบ้างครับ
หลังจากนั้น ผมเองก็รู้สึกได้ว่า เธอไม่ได้แคร์หรือสนใจที่อยากจะคุยกับผมเลย เป็นผมเองที่พยายามเข้าหาตลอด จนเริ่มรู้สึกเหนื่อย ผมอยากเจอเธอมาก แต่เธอก็ปฏิเสธ เห็นเธอลงสตอรี่ไปเที่ยวกับเพื่อน ตัดมาที่ผมทำได้แค่ส่องสตอรี่เธอแค่นั้นเองหรอ ทั้ง ๆ ที่ผมอยากเจอเธอมาก ๆ จนผมขอยอมแพ้ ทักไปหาเธอและบอกว่าขอถอยออกมาดีกว่า (จริง ๆ จะหายไปเลยก็ได้แหละ แต่ลึก ๆ ก็ยังตัดใจไม่ได้นั่นเอง จะว่าผมโง่ก็ได้นะครับ โดนเค้าทำร้ายขนาดนี้ยังไม่ยอมตัดใจอีก)
หลังจากบอกไปว่ายอมถอยแล้ว ผมก็พยายามจะตัดใจครับ ไม่ส่องโซเชียลเธออีกเลย (แต่ไม่ได้บล็อคหรืออันฟอล) แต่เธอก็ยังส่งคลิปน้องหมาน้องแมวมาให้ผมบ้างนะ ผมส่งกลับไปบ้างนิดหน่อย จนสุดท้ายไม่มีใครส่งหากันแล้ว จนกระทั่งได้รู้สาเหตุที่แท้จริงครับ
ผมเห็นเธอลงสตอรี่นึง พูดถึงเกี่ยวกับโรคกลัวความรัก (Philophobia) ซึ่งอาการมันตรงกับที่เธอทำกับผมเลย คร่าว ๆ คือกลัวการมีความรัก เวลามีใครเข้ามาจนเธอเริ่มรู้สึกดีด้วย เธอจะปฏิเสธ และทำตัวออกห่างทันทีพร้อมสร้างกำแพงไว้ พอผมได้รู้แบบนั้นแล้ว ผมกลับไม่โกรธเธอเลย (แต่ก็ยังเจ็บอยู่) พยายามจะเข้าใจเธอมากขึ้น หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันอีกครั้งครับ เธอก็ขอโทษผมที่เหมือนไปให้ความหวัง แล้วก็ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่ผมทำให้ แต่เธอยังไม่พร้อมจริง ๆ (เธอพึ่งเลิกกับคนเก่าได้ 2 เดือนก่อนคุยกับผมครับ) ผมเลยบอกไปว่าผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงหายไป ขอกลับมาคุยใหม่อีกครั้งนะ แต่เป็นพี่น้องกันก่อนก็ได้ ค่อย ๆ ให้เธอเปิดใจทีละนิด
สรุปตอนนี้เราก็กลับมาคุยกันอีกครั้งแล้วครับ โดยผมพยายามจะไม่รุกหนักจนเกินไป เป็น Safezone ให้เธอครับ ใช้ความตั้งใจและพยายามให้เธอเห็นว่าผมพร้อมจะเข้าใจและดูแลเธอจริง ๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมต้องพยายามขนาดนี้ เพื่อน ๆ ก็แนะนำให้ตัดใจแล้วไปเริ่มต้นใหม่ดีกว่า แต่ใจผมมันบอกว่าต้องคนนี้อะ เพราะช่วงแรกที่ได้รู้จักและคุยกัน ผมรู้สึกได้ว่าเธอก็ชอบผมเหมือนกัน แต่เป็นเพราะโรค Philophobia นี่แหละที่เป็นอุปสรรค ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าจะพยายามทำลายกำแพงของเธอไปจนถึงเมื่อไหร่ อาจจะ 6 เดือน 1 ปี หรือไม่ก็จนผมเหนื่อยกับการเป็นได้แค่พี่น้องจริง ๆ ทำเอาผมนึกถึงเพลง เสียงของหัวใจ ของแอน ธิติมาเลยครับ มันแว่บเข้ามาในหัวเลย เพลงเพราะมาก ๆ ครับ
"แค่เพราะหัวใจมันบอก
อาจไม่ค่อยพอ
แต่ฉันก็ยังมั่นใจ
ว่าต้องใช่เธอ
เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ
ให้รู้สึกดีที่มีเธอ
ขอเชื่อหัวใจตัวเอง
แค่สักครั้งนึง
ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง
ที่ตัดสินใจ
ขอเชื่อในความรักสักหน่อย
แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ"