อัพเดทราคาหุ้น TFEX และ ทองคำ 16/02/2023

สวัสดีครับเพื่อนๆผู้สนใจการลงทุน TFEX CLUB ทุกๆท่าน วันนี้เรามีข่าวอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยครับ ! 

น้ำมันคงที่-ทองคำลง หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแคบจากข้อมูลค้าปลีก



ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพุธ (15 ก.พ.) แม้พบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกในกรอบแคบๆ ท่ามกลางตัวเลขค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ทองคำขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 78.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 85.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) ที่เผยแพร่ในวันพุธ (15 ก.พ.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 16.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 471. ล้านบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันขยับลงไม่มากนัก จากความคาดหมายอุปสงค์พลังงานโลกเติบโตขึ้น ขณะเดียวกัน ในด้านอุปทานก็ส่อตึงตัว หลัง อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเผยเมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) ว่าประเทศของเขามีแผนลดกำลังผลิตลง 500,000 บาร์เรลในเดือนมีนาคม
โนวัค บอกว่าเป้าหมายของการลดกำลังผลิตคือพลิกฟื้นสถานการณ์ตลาด และเน้นย้ำรัสเซียจะไม่ทำตามใดๆ ต่อมาตรการกำหนดเพดานราคาของตะวันตก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพุธ (15 ก.พ.) หลังข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด มอบหลักฐานว่าเศรษฐกิจอเมริกามีความยืดหยุ่น แต่ขณะเดียวกัน มันโหมกระพือการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 38.78 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,128.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.47 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,147.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 110.45 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,070.59 จุด

รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3% ในเดือนมกราคม ได้แรงหนุนจากการซื้อยานยนต์และสินค้าอื่นๆ มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าตัวเลขค้าปลีกน่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8%
ตัวเลขนี้มีขึ้นตามหลังข้อมูลเมื่อวันอังคาร (14 ก.พ.) ที่พบว่าราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นในเดือนมีนาคม เพิ่มความคาดหมายว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้สู่ระดับ 5-5.25%
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (15 ก.พ.) ปิดลบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 20.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,845.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Credit : น้ำมันคงที่-ทองคำลง หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแคบจากข้อมูลค้าปลีก (mgronline.com)




Walkme กำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q4 !!


Investing.com - บริษัท Walkme (NASDAQ: WKME) รายงานผลกำไรประจำไตรมาสที่ 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีรายได้สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ Walkme อยู่ที่ $-0.10 จากรายได้ $64.9M ทั้งนี้ ความเห็นของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย Investing.com ก่อนหน้านี้ มองว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ $-0.14 ต่อหุ้น บนพื้นฐานรายได้ $64.01M
 
หุ้นของ Walkme ลดลง 1.80% มาอยู่ที่ $10.90 ในการซื้อขายก่อนตลาดเปิด หลังจากข่าวรายงานผลประกอบการ
นอกจาก Walkme ยังมีบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีของตลาดหุ้นแนสแด็ก ที่รายงานผลประกอบการในช่วงเดือนนี้
ก่อนหน้านี้ Apple ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 โดยมีกำไรอยู่ที่ $1.88 ต่อหุ้น จากรายได้ $117.2B เทียบกับคาดการณ์ที่ $1.94 และรายได้ $121.88B

ขณะที่ผลการดำเนินงานของ Microsoft จากรายงานล่าสุดนั้นสูงกว่าการพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีผลกำไรประจำไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ $2.32 ต่อหุ้น และมีรายรับ $52.7B เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์โดยนักวิเคราะห์ของ Investing.com ซึ่งมองว่าตัวเลขกำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ราว $2.3 บนพื้นฐานรายรับ $53.12B
ติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทผ่าน ปฏิทินผลประกอบการ ของ Investing.com

Credit : Walkme กำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q4 โดย Investing.com




เอกชนขอ"รัฐบาลใหม่"ไม่บิดเบือนราคาข้าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการแข่งขันของข้าวไทยในปีนี้ ส่วนหนึ่งคือนโยบายจากการเมือง หากมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ สิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็น คือการ มีนโยบายที่ไม่บิดเบือนกลไกตลาด ไม่กำหนดราคาข้าวอย่างไม่
สมเหตุสมผล โดยไม่ติดหากรัฐบาลจะใช้นโยบายประชานิยมดูแลเกษตรกรแต่จะต้อง พิจารณาให้รอบคอบ หากต้องมีการใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากและไม่เกิดประโยชน์
 
นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่อย่างจริงจัง เพื่อให้อนาคตประเทศไทยยังสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากเวลานี้ประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวไปไกลมากแล้ว ในขณะที่ประเทศไทยยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ และไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
 
เอกชนขอ"รัฐบาลใหม่"ไม่บิดเบือนราคาข้าว© สนับสนุนโดย Thansettakij
ด้านนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การเมืองมีผลต่อการส่งออกเพราะรัฐบาลที่เข้ามาถ้าไปทำเรื่องที่บิดเบือนราคากลไกลตลาดจะเกิดปัญหาแน่นอน ดังนั้นถ้ารัฐบาลใหม่เข้ามาควรไปทำมาตรการส่งเสริมเกษตรกรอย่างอื่นดีกว่า เช่นประกันรายได้ข้าว สินเชื่อเกษตรกร โครงการที่ไม่เกี่ยวกับการบิดเบือนราคาตลาด
 
“จำนำข้าว 15,000-20,000บาทต่อตันคือรัฐบาลไปบิดเบือนราคาทำให้ราคาถูกลงทั้งระบบ รัฐบาลกวาดซื้อข้าวในราคาที่สูงแต่จะมาขายในราคาที่ต่ำก็ไม่ก็ต้องขายในราคาที่สูงขึ้นแล้วใครจะซื้อส่งออกก็ไปแข่งขันไม่ได้เพราะซื้อมาในราคาที่สูง จะทำประชานิยมก็ต้องคิด นักการเมืองทำอะไรทำโครงการถ้าควักเงินในกระเป๋าตัวเองทำแล้วมีกำไรก็ทำต่อไปแต่ถ้าทำแล้วไม่มีกำไรขาดทุนก็อย่าทำเพราะไม่ใช่เงินเขา แต่มันคือเงินภาษีประชาชน”

Credit : เอกชนขอ"รัฐบาลใหม่"ไม่บิดเบือนราคาข้าว (msn.com)






เงินดอลล์แข็งค่า กดดันทองคำนิวยอร์กปิดร่วง 20.1 ดอลล์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20.1 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ 1,845.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2566 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 30.1 เซนต์ หรือ 1.38% ปิดที่ 21.572 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 21.4 ดอลลาร์ หรือ 2.28% ปิดที่ 917.8 ดอลลาร์/ออนซ์ 
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 21.70 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,444.50 ดอลลาร์/ออนซ์

           สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.65% แตะที่ระดับ 103.9080 เมื่อคืนนี้
การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าคาดจะทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค., พ.ค.และ มิ.ย. สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.
  ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.2%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.6% 
ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5%

Credit : เงินดอลล์แข็งค่า กดดันทองคำนิวยอร์กปิดร่วง 20.1 ดอลล์ (msn.com)







แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่