อัพเดทราคาหุ้น TFEX และ ทองคำ 14/02/2023

สวัสดีครับเพื่อนๆผู้สนใจการลงทุน TFEX CLUB ทุกๆท่าน ขอให้สมหวัง พบรักกับการลงทุนที่ตั้งใจไว้ !
วันนี้เรามีข่าวอะไรบ้างที่น่าสนใจ ไปดูกันเลยครับ ! 

ครัวเรือนค่าไฟพุ่ง ดอกเบี้ยแพง เลือกลดรายจ่าย งดซื้อของฟุ่มเฟือย

อ่านต่อได้ที่ : ครัวเรือนกังวลค่าไฟพุ่ง-ดอกเบี้ยแพง เลือกลดรายจ่าย งดซื้อของฟุ่มเฟือย | เดลินิวส์ | LINE TODAY




กุหลาบแพงขึ้น สองเท่ารับวาเลนไทน์ เพราะภาคเหนือหนาวมาก ทำดอกไม้ไม่ออกดอก



อ่านต่อได้ที่ : กุหลาบแพง 2 เท่า รับวาเลนไทน์ เพราะภาคเหนือหนาวมาก ทำดอกไม้ไม่ออกดอก | Amarin TV | LINE TODAY





ราคาน้ำมันร่วง ตลาดต่างมองผ่านการตัดอุปทานจากรัสเซีย

Investing.com -- ราคาน้ำมันร่วงลงในวันจันทร์ ท่ามกลางการคาดการณ์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจากข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยตลาดส่วนใหญ่มองข้ามการปรับลดอุปทานของรัสเซีย เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการฟื้นตัวของจีนที่ซบเซา

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันศุกร์ หลังจากรัสเซียกล่าวว่าจะลดอุปทานลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อตอบโต้การควบคุมราคาของตะวันตกที่บังคับใช้กับการส่งออก
แต่นักวิเคราะห์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ตัวเลขดังกล่าวถูกกำหนดราคาโดยตลาดเป็นส่วนใหญ่ และรัสเซียมีแนวโน้มว่าจะลำบากในการหาผู้ซื้อน้ำมัน และยังต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรทางตะวันตกที่เข้มงวดต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย
“การปรับลดเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อตลาด เนื่องจากเราคาดเดาไว้แล้วว่ารัสเซียจะต้องลดอุปทานอันเป็นผลมาจากการห้ามนำเข้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์กลั่นของสหภาพยุโรป ราคาที่อ่อนแอในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้น่าจะสะท้อนให้เห็นว่าตลาดคาดการณ์สิ่งนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว” นักวิเคราะห์ของ ING เขียนไว้ในหมายเหตุ

น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.8% เป็น 85.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.7% เป็น 79.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเวลา 21:16 ET (02:16 GMT) สัญญาทั้งสองเพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ในสัปดาห์ที่แล้ว
แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อราคาในสัปดาห์นี้ โดยเทรดเดอร์กำลังรอสัญญาณเพิ่มเติมจากข้อมูลเงินเฟ้อดัชนีราคาผู้บริโภค ของสหรัฐฯ ซึ่งจะกำหนดในวันอังคาร ในขณะที่การอ่านคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลงอีกในเดือนมกราคมจากเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยังคาดว่าจะยังคงค่อนข้างสูง
แนวโน้มนี้อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในปลายปีนี้
ค่าเงิน ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นตามการคาดการณ์ของอัตราเงินเฟ้อ และยังกดดันตลาดน้ำมันดิบ
ด้วยการทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ

ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีอยู่ หลังจากข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงล่าช้า ในประเทศ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดต่อต้านโควิดเมื่อไม่นานมานี้แล้วก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการผลิตของประเทศที่ยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากการหยุดชะงักที่เกี่ยวข้องกับ โควิดและจำนวนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นยังทำให้กิจกรรมหยุดชะงักเพิ่มเติมอีกดด้วย
ถึงกระนั้น การฟื้นตัวในจีนคาดว่าจะขับเคลื่อนอุปสงค์น้ำมันดิบให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ แต่ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนในช่วงเวลาของการฟื้นตัวดังกล่าว เนื่องจากการอ่านทางเศรษฐกิจที่หลากหลายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

Credit : ราคาน้ำมันร่วง ตลาดต่างมองผ่านการตัดอุปทานจากรัสเซีย โดย Investing.com







สงครามยูเครนตึงเครียดหนัก สหรัฐเตือนพลเมืองรีบออกจากรัสเซีย


สามสัญญาณเตือนภัย การยกระดับความรุนแรงของ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ในช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่

ประการแรก สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.) เตือนว่า พลเมืองชาวอเมริกันควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังรัสเซียในขณะนี้ ส่วนชาวอเมริกันที่กำลังพำนัก หรือเดินทางอยู่ในรัสเซียควรเดินทางออกจากประเทศดังกล่าวโดยทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงจากสงครามในยูเครน และความเสี่ยงที่ว่าพลเรือนอเมริกันอาจถูกทางการรัสเซียจับกุมตัวโดยพลการ
"เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัสเซียได้จับกุมชาวอเมริกันโดยตั้งข้อหาที่ไม่มีมูล และพุ่งเป้าควบคุมตัวชาวอเมริกัน โดยไม่มีการพิจารณาคดีอย่างเหมาะสมและโปร่งใส แต่กลับใช้การพิจารณาคดีอย่างลับๆ และไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ" แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐระบุ
ประการที่สอง ทางด้านองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต จะมีการหารือกันในวันนี้ (14 ก.พ.) เกี่ยวกับข้อเรียกร้องของผู้นำยูเครนที่ต้องการให้ยุโรปส่งมอบเครื่องบินรบให้ยูเครนใช้ต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย

นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวว่า รัฐมนตรีของชาติสมาชิกนาโตจะจัดการประชุมในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อหารือกันเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของยูเครนที่ต้องการให้นาโตจัดส่งเครื่องบินรบเพื่อเพิ่มความสามารถของยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย
 
 เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต© สนับสนุนโดย Thansettakij
อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า การที่นาโตส่งเครื่องบินรบให้แก่ยูเครนจะไม่ทำให้นาโตเข้าเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
นายสโตลเทนเบิร์ก ยังกล่าวถึงภาพรวมของสถานการณ์ว่า ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆ ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กำลังเตรียมตัวที่จะเจรจาสันติภาพ แต่ในทางตรงข้าม

อ่านต่อได้ที่ : สงครามยูเครนตึงเครียดหนัก สหรัฐเตือนพลเมืองรีบออกจากรัสเซีย (msn.com)



จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ โบรกฯ มองสูงกว่าคาดหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ
โบรกฯ คาดเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ม.ค.66 สูงกว่าที่ตลาดคาด บล.ยูโอบี เคย์เฮียน มองเป็นความเสี่ยงทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อคุ้มเงินเฟ้อ  ฟากบล.กสิกรไทย ประเมินสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยคาดแกว่งตัว 1630-1691 จุด   หากเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ประเมินครึ่งสัปดาห์หลังอาจจะแกว่งตัวลงต่อ
 ภาพประกอบข่าว© Matichon
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย กล่าวว่า  สหรัฐจะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อรอบเดือนม.ค.66 ในวันที่ 14 ก.พ.นี้  โดยทางบล.ยูโอบี คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อสหรัฐรอบนี้จะออกมาเกินกว่าที่ตลาดคาด 0.5% เทียบเดือนก่อนหน้า (MoM) ซึ่งกลายเป็นความเสี่ยงที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุ้มเงินเฟ้อต่อไป
  
ขณะที่หากเงินเฟ้อรายงานออกมาต่ำกว่าคาด 0.5% จะเป็นปัจจัยบวก เพราะส่วนใหญ่มองว่าเงินเฟ้อสหรัฐใกล้ถึงจุดพีกหรือใกล้จบวัฏจักรแล้ว ดังนั้นการเงินเฟ้อปรับตัวลงลดเพราะเชื่อว่าเฟดน่าจะไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อและจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดการลงทุน
“ก่อนหน้าตลาดคาดว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ระดับ 5-5.25% แต่หากเงินเฟ้อยังคงสูงอาจทำให้ดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นไปที่ระดับ 6% ได้ ดังนั้นคงต้องรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ รวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่จะทยอยรายงานออกมา”  นายกิจพณ
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย คาดว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ม.ค. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 0.4% เทียบเดือนก่อนหน้า (MoM) และเพิ่มขึ้น 6.2% เทียบช่วงเดียวกันแก่อน (YoY) โดยประเมินสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยคาดแกว่งตัว 1630-1691 จุด  ซึ่งหากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด ประเมินครึ่งสัปดาห์หลังอาจจะแกว่งตัวลงต่อ และคาดไม่ได้มีปัจจัยจัยบวกที่จะหนุนตลาดหุ้นขึ้น
ขณะที่ปัจจัยลบมีมาจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาการทยอยประกาศงบไตรมาส 4/2566 ของกลุ่มหลักๆ อาทิ พลังงาน, ICT ฯลฯ โดยส่วนใหญ่ออกมาต่ำคาด ทำให้จะเห็นโมเมนตัมการปรับลดประมาณการณ์ลง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นพักฐานลงมาเรายังมองเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้น

Credit : จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ โบรกฯ มองสูงกว่าคาดหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ (msn.com)











แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่