เมื่อวันอังคารที่ 7 กพ 66 ที่ผ่านมา ไปเข้าห้องน้ำที่ทำงานค่ะ ซึ่งห้องน้ำที่ทำงานก็เปิดให้บุคคลคนภายนอก/ผู้มาติดต่อ เข้าร่วมด้วย
เราเข้าตอนประมาณ ทุ่มกว่าๆเกือบ สองทุ่ม ค่ะ
ก่อนทำธุระเราจะฉีดแอลกอฮอ (ที่ไว้ฉีดมือ) ฉีดก่อนรอบๆ ที่นั่งชักโครก แล้วรองนั่งด้วยทิชชู่ อีกที ทำธุระเสร็จ เราก็ปิดฝาชักโครกเวลากดน้ำ
ทีนี้ พอจะเปิดฝาชักโครก เราเพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีคราบเลือดเหมือนจะแห้งแล้ว (เดาว่าเป็นคราบประจำเดือน) ของใครก็ไม่รู้ติดอยู่ตรงด้านหน้าของชักโครก แล้วมันเหมือนมีรอยถูกถูออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เรากลัวมากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่าเราไปโดนมันรึเปล่า กางเกงในเราไปโดนมันรึเปล่า
พอวันพุธที่ 8 กพ 66 หลังเลิกงาน เราไปที่คลินิกนิรนาม เพื่อปรึกษาเขาและจะขอรับยาPEP เขาบอกเคสเราเสี่ยงน้อยมากๆ ไม่จำเป็นต้องกินยาก็ได้ แต่หากกังวลใจมากจะรับยาไปกินก็ได้ เราเลือกขอรับยา แต่พอได้มาเรากลับไม่กล้ากินยาเพราะกลัวผลข้างเคียงต่อตับต่อไตต่ออะไรในร่างกายบวกกับเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องกิน แถมเราโทรไปปรึกษา 1663 เจ้าหน้าก็พูดเหมือนกับที่คลินิกนิรนาม เราเลยอ่ะไม่กินล่ะกัน
แต่ทีนี้ผ่านมา 2-3 วันเราเพิ่งคิดได้ว่า เฮ้ย ตอนไปที่คลินิกนิรนามเขาให้เจาะเลือดก่อนรับยา เราไม่เห็นเจ้าหน้าที่ที่เจาะเลือดเขาเปลี่ยนถุงมือจากที่เจาะคนก่อนหน้าค่ะ เขาใส่เข็มใส่กระบอก เขาคีบสำลีเช็ดแอลกอฮอที่ข้อพับแขนเรา โดยที่ไม่เปลี่ยนถุงมือเลย แล้วเอานิ้วที่สมถุงมือนั้น ดีดๆ ที่เส้นเลือดเราแล้วฉีดเลย ฉีดเสร้จก็หยิบสำลีมาแปะปิดพลาสเตอร์ มันทำให้เราเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาอีกว่า แบบนี้มีความเสี่ยงที่เราจะได้รับเชื้อมั้ยคะ จะกินยาก็ไม่ทันแล้วด้วยเพราะมันเกิน 72 ชม.แล้ว
ตอนนี้นั่งร้องไห้ทุกวันเลย ชีวิตไม่มีความสุขเลย ทำไรไม่ถูกแล้ว
เราต้องรออีกกี่วันเราถึงไปเจาะตรวจหาเชื้อใหม่ได้คะ แล้วต้องตรวจวิธีไหนถึงจะชัวร์ งงไปหมดแล้ว ยอมรับว่าสติแตกมากทำไมเราต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
แบบนี้มีความเสี่ยงติด Hiv มั้ยคะ
เราเข้าตอนประมาณ ทุ่มกว่าๆเกือบ สองทุ่ม ค่ะ
ก่อนทำธุระเราจะฉีดแอลกอฮอ (ที่ไว้ฉีดมือ) ฉีดก่อนรอบๆ ที่นั่งชักโครก แล้วรองนั่งด้วยทิชชู่ อีกที ทำธุระเสร็จ เราก็ปิดฝาชักโครกเวลากดน้ำ
ทีนี้ พอจะเปิดฝาชักโครก เราเพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีคราบเลือดเหมือนจะแห้งแล้ว (เดาว่าเป็นคราบประจำเดือน) ของใครก็ไม่รู้ติดอยู่ตรงด้านหน้าของชักโครก แล้วมันเหมือนมีรอยถูกถูออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เรากลัวมากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่าเราไปโดนมันรึเปล่า กางเกงในเราไปโดนมันรึเปล่า
พอวันพุธที่ 8 กพ 66 หลังเลิกงาน เราไปที่คลินิกนิรนาม เพื่อปรึกษาเขาและจะขอรับยาPEP เขาบอกเคสเราเสี่ยงน้อยมากๆ ไม่จำเป็นต้องกินยาก็ได้ แต่หากกังวลใจมากจะรับยาไปกินก็ได้ เราเลือกขอรับยา แต่พอได้มาเรากลับไม่กล้ากินยาเพราะกลัวผลข้างเคียงต่อตับต่อไตต่ออะไรในร่างกายบวกกับเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องกิน แถมเราโทรไปปรึกษา 1663 เจ้าหน้าก็พูดเหมือนกับที่คลินิกนิรนาม เราเลยอ่ะไม่กินล่ะกัน
แต่ทีนี้ผ่านมา 2-3 วันเราเพิ่งคิดได้ว่า เฮ้ย ตอนไปที่คลินิกนิรนามเขาให้เจาะเลือดก่อนรับยา เราไม่เห็นเจ้าหน้าที่ที่เจาะเลือดเขาเปลี่ยนถุงมือจากที่เจาะคนก่อนหน้าค่ะ เขาใส่เข็มใส่กระบอก เขาคีบสำลีเช็ดแอลกอฮอที่ข้อพับแขนเรา โดยที่ไม่เปลี่ยนถุงมือเลย แล้วเอานิ้วที่สมถุงมือนั้น ดีดๆ ที่เส้นเลือดเราแล้วฉีดเลย ฉีดเสร้จก็หยิบสำลีมาแปะปิดพลาสเตอร์ มันทำให้เราเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาอีกว่า แบบนี้มีความเสี่ยงที่เราจะได้รับเชื้อมั้ยคะ จะกินยาก็ไม่ทันแล้วด้วยเพราะมันเกิน 72 ชม.แล้ว
ตอนนี้นั่งร้องไห้ทุกวันเลย ชีวิตไม่มีความสุขเลย ทำไรไม่ถูกแล้ว
เราต้องรออีกกี่วันเราถึงไปเจาะตรวจหาเชื้อใหม่ได้คะ แล้วต้องตรวจวิธีไหนถึงจะชัวร์ งงไปหมดแล้ว ยอมรับว่าสติแตกมากทำไมเราต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ