ต่อจากกระทู้ EP.2

ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามจังหวัดไกลขนาดนี้มาก่อนกับระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลา 6 ชั่วโมง กับ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน ถึง ดอยบ่อหลวง

จาก บ้านรักไทย มา อ.เมือง แม่ฮ่องสอน นั้นใช้เวลาแปบเดียว ด้วยระยะทางที่ไม่ได้ไกลกันมากสักเท่าไหร่ เลยทำให้เรามีเวลาที่จะแวะ บ่อโคลน เพื่อผ่อนคลาย แช่เท้าในบ่อน้ำร้อน ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง อากาศตอนกลางวันในช่วงหน้าหนาวของต้นเดือนธันวาคม 2022 นั่นไม่ได้มีความเย็นมาประทะเหมือนอย่างที่เคยคิดไว้เมื่อก่อนแพลนทริป 

โชคดีที่การมาแม่ฮ่องสอนในครั้งนี้ตรงกับงาน เปิดเมิงไต เป็นงานที่เกี่ยวกับการนำเสนอทั้งประเพณี อาหาร การแสดง และผลิตภัณฑ์ของเหล่าชนชาติพันธุ์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีอาหารมากมาย หลายอย่างที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็ได้ลองกินในงานนี้ อย่างเช่นเมนูที่ลงท้ายด้วยคำว่า อุ๊บ อยากจะบอกว่าอร่อยนะ 

นอกจากงานเปิดเมิงไตแล้ว วัดที่นี่เองก็ยังคงความมีเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดที่ผสมผสานความเป็นภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุดอยกองมู พระพุทธรูป หรือวัดมีศิลปะทางพม่าผสมเข้ามาด้วยอย่าง วัดภูสมณาราม หรือที่รู้จักกันในนาม สะพานซูตองเป้ นั่นเอง ซูตองเป้ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จสัมฤทธิผล ภายในวัดมีพระประธานองค์ใหญ่สวยงาม นามว่า องค์หลวงพ่อซูตองเป้ ซึ่งชื่อของสะพานก็ได้มาจากชื่อพระประธานนั่นเอง 

วัดพระธาตุดอยกองมู

วัดหัวเวียง

วัดจองคำ-วัดจองกลาง

ร้านกาแฟที่เราแวะเติมคาเฟอีนที่นี่คือร้าน Bann Yai Bon Coffee ร้านกาแฟครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเรือนแบบดั่งเดิม 

สำหรับใครที่มาถึง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน แล้วก็อย่าลืมแวะ หอการค้าแม่ฮ่องสอน เพื่อรับประกาศนียบัตร ผู้พิชิต 4088 โค้งกันด้วยน้าา

และหากใครมีเวลาเหลือเราแนะนำให้ลองไปเที่ยวที่ ชุมชนกะเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า / บ้านห้วยปูแกง ดูครับ

เรานอนที่แม่ฮ่องสอน 1 คืน แล้วตอนเช้าคือการเดินทางไปดอยบ่อหลวง  กับระยะทางที่ดูจาก Google Maps ก็ดูเหมือนจะไม่ไกลมากนัก ด้วยระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลา ประมาณ 4 ชั่วโมง แต่เมื่อได้เดินทางจริง ๆ กลายเป็นใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง รวมแวะพักรถด้วย

ถือว่าเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์ที่นานที่สุดของเราเลยก็ว่าได้ แต่วิวข้างทางบางจุดก็ทำให้พอลืมความเมื่อยล้าไปได้บ้าง

สำหรับที่ดอยบ่อหลวงนั่นอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เท่ากับว่าเราเริ่มที่จะครบรอบ Road Trip แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ แล้วนั่นเอง อีกหนึ่งความภูมิใจของเราในทริปนี้นั่นคือการที่เราสามารถจองที่พักที่ขึ้นชื่อว่าจองยากมาก ได้ติดกันในทริปอย่างพอดีลงตัว คือที่ลีไวน์ รักไทย และ ดอยบ่อหลวงนั่นเอง แม้ว่าจะไม่ได้บ้าน A Frame แต่ก็ได้บ้านปูนเปลือยก็ถือว่ายังดีที่จองได้

เมื่อตะวันลืมลับขอบฟ้า ความเย็นเริ่มเข้ามาแทนที่ความร้อนเมื่อตอนกลางวัน เรามาถึงดอยบ่อหลวงในตอน 4 - 5 โมง พอดี และถึงแม้ว่าที่พักจะถูกจองจนเต็มหมด แต่ผู้คนกลับไม่ได้เยอะอย่างที่คิด อาจด้วยเพราะความที่สวนมีขนาดใหญ่ เลยทำให้รู้สึกว่าคนไม่ได้เยอะ อะไรขนาดนั้น

เรานอนที่ดอยบ่อหลวงอีก 1 คืน สำหรับสถานที่เที่ยวรอบ ๆ นี้จะมีสวนสนอีก 1 ที่คือสวนสนบ่อแก้ว ชื่ออาจจะคล้าย ๆ กันตอนแพลนทริปการเดินทางก็ดูให้ดีดีด้วยนะ  และถ้าหากเลยไปหน่อยจะมีอุทยานแห่งชาติออบหลวง ที่เราจะไปวันพรุ่งนี้ก่อชนขึ้นอินทนนท์