เอาจริงๆ นี่เป็น Content ที่เราไม่ชอบที่สุดด้วยความที่ตัวเองเป็นภูมิแพ้เป็นทุนเดิมพอต้องมาเจอ PM 2.5 นี่ไม่ต้องพูดถึงทั้งกายหยาบ กายละเอียด ก็คือพังตามกันไปหมดไม่เว้นแม้แต่สภาพผิวที่สรวนไม่หยุด แต่ในเมื่อ PM มาถึงแล้วเราก็ต้องปรับสกินแคร์ให้เข้ากับทั้งสภาพอากาศที่โคตรจะร้อนและปริมาณอภิมหาฝุ่นในช่วงนี้ เอาเป็นว่าจะมีไอเทมไหนบ้างไปชมกันฮะ
ไอเทมแรกที่หยิบเข้ามาใน Routine คือ
IPSA The Time Reset Aqua เป็นโลชั่น/โทนเนอร์ที่อาจดูเหมือนน้ำเปล่า แต่บอกเลยว่าช่วยปรับเรื่องความสมดุลของน้ำและน้ำมันในผิวได้ดีมากๆ สุขภาพผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้นจริงๆ (วัดจากเครื่องตรวจผิวที่ IPSA)
ด้านมลภาวะเราปล่อยจอยปล่อยใจให้
JYUNKA A3 Concentrate ที่มี Marrubium Vulgare Extract ช่วยปกป้องผิวและลดผลกระทบจากมลภาวะ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวและเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบจุกๆ
อีกไอเทมที่อยากป้ายยาคือ
Neuromide Ampoule จากบ้าน CURE CODE ที่ครบเครื่องเรื่องการปรับสมดุล microbiome บนผิวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยปลอบประโลมผิวให้ผิวระคายเคืองได้ยากขึ้น ผิวโดยรวมจึงมีความแข็งแรงมากขึ้น
เสริมความแข็งแรงของผิวไปแล้วก็มาเสริม Antioxidant ด้วย
mesoestetic aox ferulic ที่อัดแน่นไปด้วย L-Ascorbic Acid เข้มข้นถึง 15% ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับผิวให้กระจ่างใสและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แถมยังได้ Ferulic acid และ Vitamin E เข้ามาเสริมความเสถียรพร้อม Protech-Cell Complex ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
ในตอนกลางคืนเป็นเวลาซ่อมผิวเราหยิบ
tHermoCEUTICAL D Booster ที่มี Cell Culture Media มาช่วยเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการฟื้นฟูผิวให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังได้สารสกัดจากธรรมชาติอีกหลายตัวที่มาช่วยลดการอักเสบ ช่วยสมานแผลและเสริมความแข็งแรงของผิว
อายครีมเราไม่ได้ปรับอะไรมากเพราะเรากำลังลอง
CLINIQUE Smart Clinical Repair อยู่พอดีเป็นอายครีมที่เราว่าส่วนผสมค่อนข้างเด่นเรื่องการชะลอริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน แถมยังได้ Sigsbeckia Orientalis Ext. ที่ช่วยลดอาการระคายเคืองได้ในตัว
ด้านมอยส์เจอร์ไรเซอร์
COSMETICS 27 CREME 27 คือใช่มากทั้ง Texture ที่บางเบาไม่หนักผิว แถมได้ส่วนผสมหลายตัวที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น เสริมความแข็งแรงของชั้นผิวและส่วนตัวเราชอบ ECO-SHIELD ที่ช่วยปกป้องผิวจาก Oxidative Stress ช่วยปลอบประโลมผิวและลดการอักเสบจากมลภาวะซึ่งเหมาะช่วงนี้สุดๆ
กันแดดกันใจที่เราคิดว่าเหมาะสมกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ต้องยกให้
HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN แบบมี 100 ให้ 100 เลยจริงๆ แถมเรื่องประสิทธิภาพของสารกันแดดก็ไว้ใจได้กันได้ครบทั้ง UVA UVB และ Blue Light แถมยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำได้ในหลอดเดียว
ปิดท้ายด้วย Overnight Mask จาก
REFINE ที่อัด Growth Factor เข้าผิวชนิดที่สามารถเปิดโรงงานซ่อมผิวขนาดย่อมๆ ตลอดคืนได้เลย ยิ่งช่วงไหนที่ผิวระคายเคือง แห้ง แดงง่ายมาส์กกระปุกนี้ช่วยได้เยอะจริงๆ แถมยังช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ตื่นมาแล้วผิวนุ่ม-เด้งเลยหละ
และนี่ก็เป็น Skincare 9 ตัวที่ดุดันไม่เกรงใจ PM 2.5 ซึ่งเราไม่ได้ใช้ทั้งหมด 9 ไอเทมในครั้งเดียวแต่จะเลือกหยิบใช้ให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น AOX และ A3 ใช้กลางวันเพื่อหวังผล antioxidant และ anti-pollutant ส่วนงานซ่อมผิวเอยใดก็ยกให้ REFINE และ tHermoCELTICAL ดูแลไป เอาเป็นว่าใครที่เป็นสายผิวบอบบาง ระคายเคืองง่ายก็ต้องหยิบไอเทมที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของตัวเองไปปรับใช้กันดูนะ
[CR] Skincare ดุดันไม่เกรงใจ PM 2.5 ที่สายผิวบอบบาง ระคายเคืองง่ายต้องลอง!
ไอเทมแรกที่หยิบเข้ามาใน Routine คือ IPSA The Time Reset Aqua เป็นโลชั่น/โทนเนอร์ที่อาจดูเหมือนน้ำเปล่า แต่บอกเลยว่าช่วยปรับเรื่องความสมดุลของน้ำและน้ำมันในผิวได้ดีมากๆ สุขภาพผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้นจริงๆ (วัดจากเครื่องตรวจผิวที่ IPSA)
ด้านมลภาวะเราปล่อยจอยปล่อยใจให้ JYUNKA A3 Concentrate ที่มี Marrubium Vulgare Extract ช่วยปกป้องผิวและลดผลกระทบจากมลภาวะ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวและเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบจุกๆ
อีกไอเทมที่อยากป้ายยาคือ Neuromide Ampoule จากบ้าน CURE CODE ที่ครบเครื่องเรื่องการปรับสมดุล microbiome บนผิวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยปลอบประโลมผิวให้ผิวระคายเคืองได้ยากขึ้น ผิวโดยรวมจึงมีความแข็งแรงมากขึ้น
เสริมความแข็งแรงของผิวไปแล้วก็มาเสริม Antioxidant ด้วย mesoestetic aox ferulic ที่อัดแน่นไปด้วย L-Ascorbic Acid เข้มข้นถึง 15% ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับผิวให้กระจ่างใสและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แถมยังได้ Ferulic acid และ Vitamin E เข้ามาเสริมความเสถียรพร้อม Protech-Cell Complex ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
ในตอนกลางคืนเป็นเวลาซ่อมผิวเราหยิบ tHermoCEUTICAL D Booster ที่มี Cell Culture Media มาช่วยเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการฟื้นฟูผิวให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังได้สารสกัดจากธรรมชาติอีกหลายตัวที่มาช่วยลดการอักเสบ ช่วยสมานแผลและเสริมความแข็งแรงของผิว
อายครีมเราไม่ได้ปรับอะไรมากเพราะเรากำลังลอง CLINIQUE Smart Clinical Repair อยู่พอดีเป็นอายครีมที่เราว่าส่วนผสมค่อนข้างเด่นเรื่องการชะลอริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน แถมยังได้ Sigsbeckia Orientalis Ext. ที่ช่วยลดอาการระคายเคืองได้ในตัว
ด้านมอยส์เจอร์ไรเซอร์ COSMETICS 27 CREME 27 คือใช่มากทั้ง Texture ที่บางเบาไม่หนักผิว แถมได้ส่วนผสมหลายตัวที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น เสริมความแข็งแรงของชั้นผิวและส่วนตัวเราชอบ ECO-SHIELD ที่ช่วยปกป้องผิวจาก Oxidative Stress ช่วยปลอบประโลมผิวและลดการอักเสบจากมลภาวะซึ่งเหมาะช่วงนี้สุดๆ
กันแดดกันใจที่เราคิดว่าเหมาะสมกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ต้องยกให้ HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN แบบมี 100 ให้ 100 เลยจริงๆ แถมเรื่องประสิทธิภาพของสารกันแดดก็ไว้ใจได้กันได้ครบทั้ง UVA UVB และ Blue Light แถมยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำได้ในหลอดเดียว
ปิดท้ายด้วย Overnight Mask จาก REFINE ที่อัด Growth Factor เข้าผิวชนิดที่สามารถเปิดโรงงานซ่อมผิวขนาดย่อมๆ ตลอดคืนได้เลย ยิ่งช่วงไหนที่ผิวระคายเคือง แห้ง แดงง่ายมาส์กกระปุกนี้ช่วยได้เยอะจริงๆ แถมยังช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ตื่นมาแล้วผิวนุ่ม-เด้งเลยหละ
และนี่ก็เป็น Skincare 9 ตัวที่ดุดันไม่เกรงใจ PM 2.5 ซึ่งเราไม่ได้ใช้ทั้งหมด 9 ไอเทมในครั้งเดียวแต่จะเลือกหยิบใช้ให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น AOX และ A3 ใช้กลางวันเพื่อหวังผล antioxidant และ anti-pollutant ส่วนงานซ่อมผิวเอยใดก็ยกให้ REFINE และ tHermoCELTICAL ดูแลไป เอาเป็นว่าใครที่เป็นสายผิวบอบบาง ระคายเคืองง่ายก็ต้องหยิบไอเทมที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของตัวเองไปปรับใช้กันดูนะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้