โดนที่ทำงานตั้งแง่ด้วย อยากจะขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ

เราทำงานเริ่มต้นจากตำแหน่งล้างจาน พอมีพี่ที่อยู่ครัวเตรียมเขาติดโควิด หน.เขามาถามว่าเราหั่นผักเป็นไหม จะให้เราไปช่วยครัวเตรียมระหว่างที่รอพี่ที่ติดโควิดรักษาตัวหาย เราเองก็คุยๆๆๆจนเราพูดออกไปว่า "เราอยากเป็นเชฟค่ะ" หน.ก็เลยพาเราไปคุยกับพี่ที่เป็นรองเชฟ พี่ที่เป็นรองเชฟเขาก็บอกว่าให้เรามาลองดู ระหว่างนี้คือเราก็ต้องสลับไปล้างจาน-ครัวเตรียม-เรียนหน้าเตาบ้าง จนกระทั่งว่าพี่ที่อยู่ครัวเตรียมเขาหายจากโควิด เราก็ได้ไปเป็นผช.เชฟครัวอิสลาม แล้วอยู่ๆตอนนั้นพี่ครัวเตรียมเขาก็ไม่คุยกับเราอีกเลย...จนกระทั่งพี่เขาลาออกไป
พอเราอยู่ครัวอิสลามไปได้สักพักนึงประจำเดือนที่ตอนแรกมันหายไปเป็น6-7ปีอยู่ๆมันก็กลับมา แล้วมันมาทีนึงมาเยอะมากเป็นแบบนี้ทุกวันประมาน6-7วัน แล้วระหว่างนั้นพี่ล้างจานคนใหม่เขามีปัญหากับหน้างานที่เขาต้องรับผิดชอบ หน.เราเลยมาขอให้เราไปช่วยครั้งแรกเรามีต้องไปทำธุระที่ธนาคาร เขาเลยให้พี่เสริฟไปช่วยล้างแทน ครั้งที่2ก็คือวันแรกที่เรามีประจำเดือนมันมาเยอะจนเราเพลียทำงานครัวอิสลามยังจะไม่ไหวเลยแต่เราฝืนตัวเองเพื่อไม่ให้ทีมมีปัญหา เขาเลยให้พี่เสริฟไปช่วยล้างแทนอีก ครั้งที่3คือวันที่5ของการมีประจำเดือน แล้วมันยังคงมาเยอะอยู่+กับอาการปวดหัวปวดหลังจนแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยแต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ ฝืนตัวเองอีกเพื่อกลัวทีมมีปัญหา แต่ครั้งนี้หน.เขาให้หน.เชฟไปล้างจานแทนเพราะช่วงนั้นพี่เสริฟเขาต่างใช้วันหยุดประจำปีวันหยุดพักร้อนเยอะ แล้วพอเราหายจากการมีประจำเดือน ทุกคนคือปลีกตัวออกจากเราหมดเลยทั้งๆที่ตอนนั้นเราเองคือไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งพี่ที่เป็นรองเชฟ+ ทั้งพี่เสริฟ ...
พอเวลาผ่านไปเราเราเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆพี่เสริฟเขาถึงไม่ค่อยคุย/ไม่ค่อยเล่นด้วยเหมือนตะก่อน เราก็ไม่ได้คิดอะไรจนเวลาผ่านไป เราได้พัฒนาเป็นผช.เชฟครัวแคนทีนแต่ระหว่างนี้เราก็ได้สลับไปช่วยฝั่งครัวอิสลาม+ครัวเตรียมบ้าง 
เรื่องมันเกิดขึ้นจากว่า ตอนนั้นเราอยู่ครัวอิสลามก่อนที่จะได้ไปเป็นครัวแคนทีน คือเราสั่งฟักทองจากตลาดมา เอาไว้ทำอาหารสายยางของคนไข้โดยเฉพาะ แต่ตอนนั้นพี่ครัวเตรียมคนใหม่เขาคิดว่าเราจะเอาไปทำให้เพื่อที่จะเอาไปใช้ครัวคนไข้ซึ่งเราเองก็บอกพี่เขาไปแล้วว่า พี่อันนี้หนูสั่งมาจากตลาดเอาไว้ทำอาหารปั่นคนไข้โดยเฉพาะนะพี่ แต่ของหนูที่เอาไปก่อนหน้านี้มันยังมีอีกครึ่งลูก หนูไม่รับปากนะว่าหนูจะทำให้แต่ถ้าหนูได้ทำ เดี๋ยวหนูทำให้ พออีกวันนึ่งมันเป็นวันหยุดเรา เราก็หยุดตามปกติ พอวันมาทำงาน เปิดวันมา อยู่ๆเราโดนพี่ครัวเตรียมด่าเรื่องฟักทองเฉยเลย...พี่ที่เป็นรองเชฟก็ด่า หาว่าเราเอาของไปแล้วไม่ทำให้เขาพอเขาจะใช้เขาไม่มีใช้ เราเป็นคนที่เวลาฟังอะๆรมาคือมันจะประมวลผลช้า เหมือนดีเลย์อะ ก็เลยถามพี่ครัวเตรียมไปว่าอะไร แล้วพี่เขาก็บ่นๆด่าๆแล้วก็เดินหนีไปทิ้งเราให้อยู่กับความงงคืองงจริงๆอะ 
เรื่องต่อมาคือ เราทำงานอยู่ครัวอิสลาม1อาทิตเราทำ6วันมีหยุด1วันทุกครั้งในวันที่เราหยุดจะมีพี่จากครัวแคนทีนไปอยู่แทน เวลาพี่เขาไปอยู่แทนอะ คือของที่เราเตรียมไว้ทำอาหารปั่นให้คนไข้ แอปเปิ้ลสไลด์ ฟักทอง ขนมปัง ไข่ต้ม ผักกวางตุ้งไทยจะหมดตู้เลย /ไม่ได้สั่งผลไม้มา/ถาดใต้เตาไม่สะอาด และไม่เอาน้ำจากใต้ตู้แช่มาเททิ้งทำให้น้ำนองเต็มพื้นเลย เวลาเราไปรับช่วงต่อเขาเราก็ต้องมาหัวร้อน ต้องมาหงุดหงิดกับอะไรแบบนี้ทุกครั้งซึ่งเราไม่พูดเพราะคิดว่ามันเป็นหน้างานที่เราต้องรับผิดชอบ เราเลยไม่เดือดไม่ร้อนอะไร จนกระทั่งว่ามีการรับครัวอิสลามมาแล้วเราย้ายไปครัวแคนทีน แต่เราต้องไปอยู่แทนพี่ครัวอิสลามในวันที่เขาหยุด ซึ่งวันศุกร์ที่3/1/66ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปอยู่แทนเขา แล้วเราทำแบบเดียวกับที่พี่คนก่อนทำ แต่ครั้งนี้เราโดนด่าจากพี่รองเชฟเฉยเลย แล้วก็อีกเรื่องนึ่งที่โดนว่ามาคือ เรื่องเอาขยะของทุกคนไปทิ้งที่ห้องขยะ วันนั้นเราเองไม่ได้ไปเพราะเราไม่รู้ว่ามีขยะกี่ถัง วันนั้นคือจะมีพี่ครัวล้าง2คน พี่เสริฟที่ไปสอนงานพี่ครัวล้าง1คน พี่ครัวเตรียม และทีมเสริฟอยู่กัน5คน เอาง่ายๆคือโดยปกติจะต้องไปคนละถังกันแต่ถ้าว่าวันไหนถังหนักก็คือต้องเอาไป2คน/1ถัง วันนั้นคือ มีพี่ครัวล้างไป2คนคนละ1ถัง พี่ครัวเตรียมกับพี่เสริฟที่มาช่วยสอนงานครัวล้างไป2คน/1ถัง และอีกถังนึงตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าใครเอาไป มารู้ตอนหลังว่าพี่หน.เชฟเอาไปทิ้งเอง กลับมาในเรื่องที่เราโดนว่ามา พอเราโดนว่ามาปุ้ปเราตอบพี่รองเชฟไปว่าเราลืม และเขาก็บอกเรามาอีกว่า เราเป็นแบบนี้ตลอดเลยเวลาถามอะไรก็ตอบว่าลืมๆๆๆๆ ตลอดเลย เดะเรื่องนี้พี่ก็จะบอกหัวหน้าเหมือนกันรอหัวหน้ามาก่อนวันจันทร์ที่6/2/66นี่แหล่ะ แล้วตอนนั้นเราที่ซึ่งประมวลผลอยู่ และพี่หน.เชฟบอกให้เราไปช่วยพี่ครัวเตรียมเด็ดหางกุ้งเราก็เลย แล้วก็เดินไป+ประมวลผลไป พอเราไปนั่งเด็ดหางกุ้ง พี่ครัวเตรียมกับพี่ครัวอิสลามเขามาถามแล้วว่าเป็นไง โดนว่ามารึยัง เราเลยตอบไปด้วยความที่ว่าประมวลผลเสร็จแล้ว เราก็ตอบไปว่าโดนแล้ว แล้วเราก็บอกพี่ครัวเตรียมไปว่า เมื่อวานที่ไม่ได้ไปทิ้งขยะให้คือหนูคิดว่ามันมีแค่3ถัง พี่ล้างจานเอาไปคนละถัง พี่ครัวเตรียมเอา+พี่เสริฟที่มาช่วยสอนงานครัวล้างเอาไปถังนึง ก็คือ3ถัง หนูคิดว่ามีแค่นั้นมันเป็นความผิดหนูเองที่หนูไม่ได้ถามอะ ส่วนพี่ครัวอิสลามที่นั่งอยู่ด้วยกันหนูก็บอกไปว่า ของพี่อะ ที่หนูไม่ได้ทำไว้ให้เพราะตอนที่อีกคนไปอยู่แทนหนู เขาก็ไม่ทำอะไรเหมือนกัน แม้กระทั่งไข่ต้มเขายังไม่ทำเฺผื่อหนูเลย หนูเลยไม่ทำบ้างเพราะหนูไปแทนพี่เฉยๆอะ สุดท้ายเป็นไงอะ หนูเป็นฝ่ายที่โดนด่าเฉยเลย จากนั้นเราก็นั่งเด็ดหางกุ้งไปแล้วแบบมันเครียดอะโดนว่า โดนกดดัน และอีกหลายๆอย่างอะ มันทำให้เราวิ่งไปร้องให้ในห้องน้ำร้องๆๆๆแล้วก็เดินกลับมาเด็ดหางกุ้งต่อ พอทำเสร็จเราก็ไปประจำหน้าเตาแล้วเราเห็นว่าพี่รองเชฟไปคุยกับพี่ครัวเตรียม และหลังจากนั้นบรรยากาศในการทำงานมันก็ตึงขึ้นแบบขั้นสุด
พอวันอาทิตย์ที่5/2/66 เราก็เข้าทำงานปกติแต่ดีกว่าปกตินิดนึงที่ว่าพี่รองเชฟเขาไม่มา แต่อยู่ๆพี่หน.เชฟเขาบอกเราว่า วันหลังให้เราทำหมูปั้นก้อนใช้เองนะ ไม่ว่าจะ1หรือ2ถ้วยให้เราทำเองนะ เราก็เลยถามไปว่า เพราะตัวหนูเองใช่มั้ยอะ พี่หน.เชฟเขาตอบมาเสียงเบาๆว่าอืม เราก็อ่ะ อีกแล้วหรอนี่มันพลาดเพราะเราอีกแล้วหรองี้อะเพราะก่อนหน้านี้มันมีประเด็นคือ มันมีเมนูมาให้เราทำ เป็นซุปมะกะโรนีหมูปั้นก้อนงดผัก ซึ่งเราไปเอาหมูปั้นก้อนของพี่รองเชฟที่เขาทำไว้มาประมาณ6-7ก้อน เป็นก้อนกลมๆเล็กๆ เราเอามาซึ่งหมูมันแห้งอยู่แล้วละเราเอาไปเข้าเวฟพร้อมเส้นมะกะโรนีอีกมันทำให้แห้งไปกันใหญ่เลย พอเอาไปวางในถาด โภชน์เขาบอกเอามาเปลี่ยนหมู เองก็เอาหมูตรงนั้นทิ้งไปแล้วไปหยิบมาใหม่จากบ้านพี่รองเชฟ แล้วพอตอนเย็นมันไม่ค่อยมีใครเราเลยทักไปหาแฟนเราว่าถ้าว่างให้โทรหาหน่อย พอเขาโทรมาตอนแรกเราก็ไม่ได้กะจะทำให้เขาหนักใจหรอก แต่มันไม่ไหวแล้วอะ เราร้องไห้เหมือนเด็กอะแล้วบอกเขาไปว่ามีปัญหาเรื่องเล็กๆน้อยๆก็เอามาเป็นปัญหา อะไรก็ไม่รู้เนี้ย เครียด+กดดันไปหมดเลยอะ หรือว่าเราไม่เหมาะกับอาชีพนี้จริงๆ แต่คือเรารักในการทำอาหารนะ รักมากด้วย แต่ทำไมมันมีปัญหาแบบนี้อะ เริ่มท้อไปหมดละ ตอนนี้อะ แฟนเราก็ให้กำลังใจว่าใจเย็นๆ อะไรต่างๆนาๆ แล้วคือตอนที่ร้องไห้คือพี่เสริฟเขามาเห็นพอดี เขาเลยถามแล้วก็เรียกใครต่อใครมาดู แล้วเขาก็บอกว่าอย่าร้อง ไม่ต้องร้อง คือพี่เสริฟคนแรกเขาคิดว่าเราทะเลาะกับแฟนเราเลยร้องไห้ เราก็บอกไปว่าไม่ใช่เรื่องนั้น เราไม่เอาปัญหาที่บ้านมาร้องที่ทำงานหรอก แล้วพอเขาถามว่าร้องทำไม เราก็ตอบไป ไม่มีไรหรอกพี่ เครียดหน่ะ ไม่ใช่เรื่องแฟน ไม่ใช่เรื่องครอบครัว ไม่ใช่เรื่องการเงิน แต่ก็นั่นแหล่ะ...
วันที่6/2/66 หัวหน้าเรามาทำงานตามปกติเราเองก็ทำงานตามปกติทุกคนทำงานตามปกติหมด จนกระทั่งว่าตอนบ่าย พี่รองเชฟเขาเรียกคุย ประชุมกับหัวหน้า ว่าด้วยเรื่องเราไม่ได้เอาขยะไปทิ้งในวันศุกร์ที่3/2/66 แล้วเราบอกกับพี่รองเชฟว่าลืม แต่ไปบอกกับพี่หลังบ้านว่า หนูแค่ไปแทนเขา แล้วเรื่องของที่ใช้ครัวอิสลามเขาหมดแล้วไม่เตรียมให้อีก เราก็เลยอธิบายว่าแบบ ที่หนูบอกพี่รองเชฟว่าลืมอะ คือสมองหนูมันประมวลผลไม่ทันหรอกคิดคำไหนได้ก็แค่พูดออกไป แล้วที่หนูไปบอกกับทางหลังบ้านว่าหนูไปแทนเขาอะ คือในส่วนของเรื่องงานครัวอิสลาม เพราะตอนหนูอยู่ครัวอิสลาม แล้วพี่อีกคนมาอยู่ เขาก็ไม่ทำอะไรไว้ให้เหมือนกัน หนูก็ไม่รู้ว่าต้องทำรึป่าวเพราะหนูไปแทนเขาเฉยๆ แล้วอีกอย่างอะเหมือนหนูแค่พูดแบบ พูดลอยๆเปรยๆไปเฉยๆอะ ไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะตอนอยู่ครัวอิสลามหนูก็เคยทำ และทำไว้เยอะมากด้วย แล้วพี่ที่มักจะไปเข้างานแทนเราตอนเราอยู่ครัวอิสลาม เขาก็พูดมาว่า แบบที่เขาไม่ได้ทำให้เพราะเขาต้องช่วยงานครัวพี่รองเชฟ เลยไม่ได้ทำให้ แล้วอย่างเรื่องทิ้งขยะตอนนั้นหนูเองก็ไปทิ้งให้นะก็ไปกับพี่ครัวเตรียมอะ แล้วหน.สรุปคือ เรื่องทำของให้ครัวอิสลามอะวันหลังคนที่ไปอยู่แทนก็คือให้ทำไว้ให้ แล้วเขาถามหนูว่าแบบเราไม่เลือกที่จะทำหรือเห็นว่าคนก่อนเขาไม่ทำ เราเลยไม่ทำ หรือเราไม่รู้ว่าต้องทำให้รึป่าวหรือยังไง เราก็บอกไปว่าก็หนูไม่รู้ว่าต้องทำให้รึป่าว ตอนคนที่ลาออกไปอยู่เขาก็ไม่ทำไว้ให้ พอพี่อีกคนอยู่เขาก็ไม่ทำอะ แล้วพี่ครัวเตรียมเขาก็พูดเรื่องฟักทองมา เขาบอกว่าหนูเอาฟักทองไปไว้ที่ครัวอิสลามแล้วบอกว่าจะทำให้แต่ก็ไม่ทำ แล้วพี่อีกคนเขาก็บอกว่า อย่างเรื่องฟักทองอะ ที่ตัวเขาเองไม่ได้ทำให้อะ เพราะในตู้แช่มันมีอยู่ครึ่งลูก แต่หนูเอาไปไว้ที่ครัวอิสลามอีก1ลูก เขาเลยใช่ครึ่งลูกที่มีอยู่แล้วลูกที่เป็น1ลูกเต็มเขาเลยไม่ได่ผ่าให้ ตัวเราเองกำลังจะอธิบายว่าทำไม พวกพี่ๆที่ทำงานเราเขาก็เซอร์ไพร์สวันเกิดหน.แล้ววงประชุมก็แตกไปอะ.....
แล้วพอเลิกงาน เราก็เข้าไปคุยกับหน.อธิบายว่ามันมีเรื่องฟักทอง เรื่องขยะ แล้วก็เรื่องเตรียมของให้ครัวอิสลาม แล้วเราก็ร้องไห้เราบอกว่าพอทุกคนเป็นแบบนี้เราก็เครียด ไม่รู้จะต้องทำไง มันกดดันมากเลยอะ หนูไม่รู้ว่าหนูผิดอะไรงี้อะ หน.เขาพูดประมาณว่าถ้าให้พี่พูด พี่ก็จะบอกเราว่ามันเป็นมาตั้งแต่ตอนพี่ไปขอเราให้เรามาช่วยล้างจานแล้วเราปฏิเสธละ แล้วทุกคนหมายถึงทุกคนรวมพี่ด้วยก็จะมองว่าแบบน้องไม่ไหวจริงรึป่าว ไปหาหมอ/ไปธุระจริงรึป่าว แล้วทำไมตอนที่เราอยู่ล้างจานทำไมเราถึงทำได้ คือเราไปช่วยหมดเลย ช่วยทุกคนทุกแผนกเลยแต่ทำไมพอหน.ดันเรามาอยู่ครัวแล้วเรากลับไม่ยอมกลับไปช่วยล้างจานเลย เราก็เลยบอกหน.ไปว่าถึงว่าล่ะ หนูรู้สึกแปลกๆตอนคุยกับพี่เสริฟแต่หนูไม่ได้คิดอะไรมากอะ แล้วหน.ก็บอกว่า ณ ตอนนั้นหนูเป็นคนขยันมาก มีอะไรหนูช่วยทำหมด พี่ๆเสริฟ และ ทีมเชฟเขาเลยรัก เขาเลยเอ็นดู อยากให้เด็กคนนี้มันอยู่ในทีมบ้านเราอะ แต่พอหนูปฏิเสธที่จะไปช่วยงานล้างจาน ทุกคนคือมองหนูว่าแบบทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงไม่ยอมช่วยกันเลย อะไรประมาณนี้อะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่