Sondhi Talk โกงกินจนเรือล่ม
“สนธิ” เผยเบื้องลึกเรือหลวงสุโขทัยอัปปาง จากปัญหาทุจริตภายในกองทัพเรือ มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใส่ ร.ล.รัตนโกสินทร์ที่มี ผบ.เรือเส้นใหญ่กว่า เพื่อให้ได้ไปต่างประเทศแทน ขาดกำลังพลบนเรือที่ชำนาญเพราะคนที่รู้เรื่องย้ายหนีหมด งบซ่อมบำรุง-ค่าน้ำมันไม่พอ ชี้เรือหลวงจักรีนฤเบศร-เรือหลวงสิมิลันเข้าช่วยทันทีไม่ได้ เพราะต้องประหยัดน้ำมัน คาด “หมอแชมป์” และ 5 กำลังพลที่ยังสูญหาย โดนใบพัดเรือกระบุรีตัดจนร่างแหลกตอนที่เข้าไปช่วยลั่นเรื่องนี้ปล่อยเงียบไม่ได้ ต้องเอาคนผิดมาลงโทษ
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้กล่าวถึงเหตุโศกนาฏกรรมเรือรบหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลเนื่องจากคลื่นพายุลมแรงในอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนเป็นเหตุให้มีกำลังพลเสียชีวิตจำนวนมาก จากยอดกำลังพล 105 นายมีผู้เสียชีวิตระบุชื่อได้ 24 นาย คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย จนถึงวันนี้ และยังหาตัวผู้รับผิดชอบความสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้
จากแหล่งข่าวเชิงลึกที่อยู่ในกองทัพเรือ ที่เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่ยังไม่มีการเปิดเผยมาก่อน เขาบอกว่าหากดูจากสภาพศพของ “หมอแชมป์” พันจ่าเอก คุณากร จริยศ แพทย์ประจำเรือหลวงสุโขทัย ผู้เสียสละช่วยให้เพื่อนทหารรอดจนตัวเองต้องจมน้ำทะเลเสียชีวิต ที่อยู่ในสภาพหัวขาด แขนขาดทั้งสองข้าง แต่เท้าทั้งสองยังครบสมบูรณ์ดี แสดงว่าเสียชีวิตจากการถูกใบพัดเรือหลวงกระบุรีที่ออกไปช่วยเหลือหมุนตัดในช่วงที่เรือกระบุรีถอยหลังแล้วดูดเอาคนที่อยู่ในน้ำที่ท้ายเรือเข้ามา ส่วนอีก 5 ผู้สูญหายที่ยังหาไม่เจอ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะถูกใบพัดเรือหลวงกระบุรีตัดขาดเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ และจมอยู่ใกล้ๆ จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง นั่นเอง
ส่วนสาเหตุการอับปาง พิจารณาจากลักษณะการจมของเรือหลวงสุโขทัย เริ่มจากน้ำเข้าใต้ท้องเรือด้านล่าง ซึ่งความเป็นไปได้มี 2 ข้อคือ 1.ซีลของท่อเพลาและท่อใบจักรเรือหลวมหรือชำรุด จนน้ำเข้ามาเรื่อยๆ 2.ตัวเรือปริแตกด้านใดด้านหนึ่ง จนทำให้น้ำทะลักเข้าห้องเครื่องจนเครื่องดับ
ทั้งนี้ เคยมีการยกเอา “เครื่องเรือเดิม” ของเรือหลวงสุโขทัยออกไปให้กับ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เพื่อให้เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ได้ไปต่างประเทศแทนเรือหลวงสุโขทัย ว่ากันว่าช่วงนั้นผู้การเรือหลวงรัตนโกสินทร์เส้นใหญ่กว่าผู้การเรือหลวงสุโขทัย จนสามารถถอดเอาเครื่องเรือสุโขทัยไปได้ ซึ่งหากเรือสุโขทัยยังใช้เครื่องเดิมโดยไม่ถูกถอดเครื่องไป เรือสุโขทัยไม่น่าจะจมง่ายขนาดนี้
ทั้งนี้ เครื่องเรือเดิมของเรือหลวงสุโขทัย ตามที่ระบุกันก็คือ เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง พร้อมเพลาใบจักร 2 เพลา และเครื่องไฟฟ้าชนิด Self-Regulating Brushless Alternators แบบ DKB 100/550-4TS จำนวน 4 เครื่อง ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์
แต่หลังจากถอดเครื่องไปให้เรือหลวงรัตนโกสินทร์ แล้ว ปัจจุบัน เรือสุโขทัยใช้เครื่องอะไรอยู่ก็ไม่ทราบได้
ขาดกำลังพลชำนาญการบนเรือ
แหล่งข่าวในกองทัพบอกด้วยว่า การโกงกินกันอย่างมโหฬาร จนกำลังพลชั้นผู้น้อยที่อยู่ประจำเรือต้องอยู่กันอย่างลำบากยากแค้น ทำแต่งานแต่กลับไม่ก้าวหน้า พวกที่ก้าวหน้าคือพวกชั้น ก หรือพวกที่จบจากโรงเรียนนายเรือเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ พลประจำเรือชั้นผู้น้อยที่เก่งงานและรู้ปัญหาต่างๆ ของเรือหลวงสุโขทัยจึงขอย้ายไปราชการที่อื่นเสียเป็นส่วนมาก เพราะถ้ายังอยู่ที่เรือหลวงสุโขทัยก็ไม่มีความเจริญก้าวหน้า รายได้ก็ไม่พอใช้ ไม่เหมือนพวกที่จบจากโรงเรียนนายเรือ หรือพวก ชั้น ก ทำให้พวกที่เหลืออยู่ประจำเรือหลวงสุโขทัย ไม่มีความชำนาญ ไม่รู้ปัญหาของเรือมากพอ
ปัญหาของเรือรบทุกลำของกองทัพไทย คือ สมมติมีอัตราบรรจุ 100 นาย แต่บรรจุทำงานในเรือจริงแค่ 60 – 70 นาย ส่วนต่างที่ไม่บรรจุจริง 30 – 40 นาย เอาไว้ฝากกินเบี้ยเลี้ยงต่างๆ เมื่อเรือออกทะเลจริง
ใน 60 - 70 นาย ก็มีชื่อฝาก(ชื่อผี) อีก 10 - 15 นาย ก็คือมีแต่ชื่อ ไม่ต้องลงไปทำงานในเรือจริงๆ พวกนี้เป็นเด็กนาย ไปทำอะไรที่ไหนก็ได้ และอีกส่วนเป็นนักกีฬา พวกนี้ไม่ต้องลงเรือ รับสิทธิเงินซีเลส (เงินเพิ่มพิเศษล่วงเวลาในทะเล) และเบี้ยเลี้ยงเต็มไม่ถูกหักใดๆ ขณะที่พวกที่ลงเรือจริงต้องถูกหักค่าอาหารวันละ 3 มื้อเต็มแม้ว่าบางวันไม่ได้อยู่กินก็ต้องถูกหัก ไม่มีทางเลือก
ผบ.เรือ จะเป็นผู้ถือเงินสำหรับใช้จ่ายแก้ปัญหาหลายรายการ แต่เงินไม่เคยนำไปใช้แก้ปัญหา มักจะหายไปกับ ผบ.เรือ เมื่อครบวาระโยกย้ายประจำปี
ทำไมเรือหลวงสุโขทัยจมลงก้นทะเลอย่างรวดเร็ว?
X
คำตอบก็คือเพราะการโกงกินงบประมาณซ่อมบำรุง โดยเรือรบเก่าๆ ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีทุกลำ ซีลประตูกั้นน้ำ(ยาง) มักจะเปื่อยกันน้ำเข้าไม่ได้ แต่งบซ่อมบำรุงที่ได้มา 100 บาท ซ่อมจริงไม่เกิน 60 บาท ที่เหลือไปไหนไม่ทราบ นั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยจมลงก้นทะเลอย่างรวดเร็ว
แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่าในยุคของ ผบ.ทร.บางคน มีการโกงกินหลายรูปแบบ เช่น แปลงงบประมาณไปจัดไตรกีฬา สร้างบ้านพักรับรอง 2 แห่ง ราคา 100 กว่าล้านที่กรุงเทพฯ และ 50 กว่าล้านที่สัตหีบ ทำซุ้มประตูทางเข้าหน่วยทหารนาวิกโยธินราคา 35 ล้านบาท เป็นต้น
อีกวิกฤตปัจจุบันของกองทัพเรือคือไม่ค่อยมีน้ำมันเติมให้เรือรบ จึงต้องเอาทหาร สอ.รฝ. (หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง) และ ทหารนาวิกโยธิน รวม 30 นาย ไปกับเรือหลวงสุโขทัย เพื่อประหยัดน้ำมันภายในกองทัพเรือ แต่ทำให้เรือบรรทุกคนเกิน
นอกจากนี้ หากมีการสั่งการให้เรือหลวงจักรีนฤเบศร และ เรือหลวงสิมิลัน พร้อมหน่วยซีลออกไปช่วยเหลือแบบเร่งด่วนใน 24 ชั่วโมงแรก น่าจะมีการตายน้อยกว่านี้มาก เพราะเรือหลวงจักรีนฤเบศรและเรือหลวงสิมิลันสามารถทนคลื่น 9 เมตรได้สบายๆ แต่เพราะเน้นประหยัดน้ำมันก็เลยไม่ได้ออกไปในช่วงแรก
“นี่เป็นข้อมูลจากทหารเรือ ซึ่งผมเชื่อว่ามีความจริงอยู่ เรื่องนี้ปล่อยเงียบไปไม่ได้ ต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ หากต้องกู้ซากเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาเพื่อหาหลักฐานการอับปางมัดตัวคนผิดได้ก็ควรจะทำโดยเร่งด่วน เพื่อให้กำลังพลที่จากไป ต้องไม่ตายฟรี” นายสนธิกล่าว
ที่มา :
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000008775
ถ้าจริงนี่เศร้ามากเลยนะครับ ประเทศไทย โกงกิน เบียดบังจนทรัพย์ยากรของชาติต้องสูญสิ้น แต่ยังไงเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
สนธิไม่เอาด้วย แฉ "เบื้องลึก “ร.ล.สุโขทัย” อับปาง โกงกินแหลก งบซ่อมโดนอม-ค่าน้ำมันไม่พอ-ถอดเครื่องยนต์
“สนธิ” เผยเบื้องลึกเรือหลวงสุโขทัยอัปปาง จากปัญหาทุจริตภายในกองทัพเรือ มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใส่ ร.ล.รัตนโกสินทร์ที่มี ผบ.เรือเส้นใหญ่กว่า เพื่อให้ได้ไปต่างประเทศแทน ขาดกำลังพลบนเรือที่ชำนาญเพราะคนที่รู้เรื่องย้ายหนีหมด งบซ่อมบำรุง-ค่าน้ำมันไม่พอ ชี้เรือหลวงจักรีนฤเบศร-เรือหลวงสิมิลันเข้าช่วยทันทีไม่ได้ เพราะต้องประหยัดน้ำมัน คาด “หมอแชมป์” และ 5 กำลังพลที่ยังสูญหาย โดนใบพัดเรือกระบุรีตัดจนร่างแหลกตอนที่เข้าไปช่วยลั่นเรื่องนี้ปล่อยเงียบไม่ได้ ต้องเอาคนผิดมาลงโทษ
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้กล่าวถึงเหตุโศกนาฏกรรมเรือรบหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลเนื่องจากคลื่นพายุลมแรงในอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนเป็นเหตุให้มีกำลังพลเสียชีวิตจำนวนมาก จากยอดกำลังพล 105 นายมีผู้เสียชีวิตระบุชื่อได้ 24 นาย คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย จนถึงวันนี้ และยังหาตัวผู้รับผิดชอบความสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้
จากแหล่งข่าวเชิงลึกที่อยู่ในกองทัพเรือ ที่เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่ยังไม่มีการเปิดเผยมาก่อน เขาบอกว่าหากดูจากสภาพศพของ “หมอแชมป์” พันจ่าเอก คุณากร จริยศ แพทย์ประจำเรือหลวงสุโขทัย ผู้เสียสละช่วยให้เพื่อนทหารรอดจนตัวเองต้องจมน้ำทะเลเสียชีวิต ที่อยู่ในสภาพหัวขาด แขนขาดทั้งสองข้าง แต่เท้าทั้งสองยังครบสมบูรณ์ดี แสดงว่าเสียชีวิตจากการถูกใบพัดเรือหลวงกระบุรีที่ออกไปช่วยเหลือหมุนตัดในช่วงที่เรือกระบุรีถอยหลังแล้วดูดเอาคนที่อยู่ในน้ำที่ท้ายเรือเข้ามา ส่วนอีก 5 ผู้สูญหายที่ยังหาไม่เจอ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะถูกใบพัดเรือหลวงกระบุรีตัดขาดเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ และจมอยู่ใกล้ๆ จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง นั่นเอง
ส่วนสาเหตุการอับปาง พิจารณาจากลักษณะการจมของเรือหลวงสุโขทัย เริ่มจากน้ำเข้าใต้ท้องเรือด้านล่าง ซึ่งความเป็นไปได้มี 2 ข้อคือ 1.ซีลของท่อเพลาและท่อใบจักรเรือหลวมหรือชำรุด จนน้ำเข้ามาเรื่อยๆ 2.ตัวเรือปริแตกด้านใดด้านหนึ่ง จนทำให้น้ำทะลักเข้าห้องเครื่องจนเครื่องดับ
ทั้งนี้ เคยมีการยกเอา “เครื่องเรือเดิม” ของเรือหลวงสุโขทัยออกไปให้กับ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เพื่อให้เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ได้ไปต่างประเทศแทนเรือหลวงสุโขทัย ว่ากันว่าช่วงนั้นผู้การเรือหลวงรัตนโกสินทร์เส้นใหญ่กว่าผู้การเรือหลวงสุโขทัย จนสามารถถอดเอาเครื่องเรือสุโขทัยไปได้ ซึ่งหากเรือสุโขทัยยังใช้เครื่องเดิมโดยไม่ถูกถอดเครื่องไป เรือสุโขทัยไม่น่าจะจมง่ายขนาดนี้
ทั้งนี้ เครื่องเรือเดิมของเรือหลวงสุโขทัย ตามที่ระบุกันก็คือ เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง พร้อมเพลาใบจักร 2 เพลา และเครื่องไฟฟ้าชนิด Self-Regulating Brushless Alternators แบบ DKB 100/550-4TS จำนวน 4 เครื่อง ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์
แต่หลังจากถอดเครื่องไปให้เรือหลวงรัตนโกสินทร์ แล้ว ปัจจุบัน เรือสุโขทัยใช้เครื่องอะไรอยู่ก็ไม่ทราบได้
ขาดกำลังพลชำนาญการบนเรือ
แหล่งข่าวในกองทัพบอกด้วยว่า การโกงกินกันอย่างมโหฬาร จนกำลังพลชั้นผู้น้อยที่อยู่ประจำเรือต้องอยู่กันอย่างลำบากยากแค้น ทำแต่งานแต่กลับไม่ก้าวหน้า พวกที่ก้าวหน้าคือพวกชั้น ก หรือพวกที่จบจากโรงเรียนนายเรือเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ พลประจำเรือชั้นผู้น้อยที่เก่งงานและรู้ปัญหาต่างๆ ของเรือหลวงสุโขทัยจึงขอย้ายไปราชการที่อื่นเสียเป็นส่วนมาก เพราะถ้ายังอยู่ที่เรือหลวงสุโขทัยก็ไม่มีความเจริญก้าวหน้า รายได้ก็ไม่พอใช้ ไม่เหมือนพวกที่จบจากโรงเรียนนายเรือ หรือพวก ชั้น ก ทำให้พวกที่เหลืออยู่ประจำเรือหลวงสุโขทัย ไม่มีความชำนาญ ไม่รู้ปัญหาของเรือมากพอ
ปัญหาของเรือรบทุกลำของกองทัพไทย คือ สมมติมีอัตราบรรจุ 100 นาย แต่บรรจุทำงานในเรือจริงแค่ 60 – 70 นาย ส่วนต่างที่ไม่บรรจุจริง 30 – 40 นาย เอาไว้ฝากกินเบี้ยเลี้ยงต่างๆ เมื่อเรือออกทะเลจริง
ใน 60 - 70 นาย ก็มีชื่อฝาก(ชื่อผี) อีก 10 - 15 นาย ก็คือมีแต่ชื่อ ไม่ต้องลงไปทำงานในเรือจริงๆ พวกนี้เป็นเด็กนาย ไปทำอะไรที่ไหนก็ได้ และอีกส่วนเป็นนักกีฬา พวกนี้ไม่ต้องลงเรือ รับสิทธิเงินซีเลส (เงินเพิ่มพิเศษล่วงเวลาในทะเล) และเบี้ยเลี้ยงเต็มไม่ถูกหักใดๆ ขณะที่พวกที่ลงเรือจริงต้องถูกหักค่าอาหารวันละ 3 มื้อเต็มแม้ว่าบางวันไม่ได้อยู่กินก็ต้องถูกหัก ไม่มีทางเลือก
ผบ.เรือ จะเป็นผู้ถือเงินสำหรับใช้จ่ายแก้ปัญหาหลายรายการ แต่เงินไม่เคยนำไปใช้แก้ปัญหา มักจะหายไปกับ ผบ.เรือ เมื่อครบวาระโยกย้ายประจำปี
ทำไมเรือหลวงสุโขทัยจมลงก้นทะเลอย่างรวดเร็ว?
X
คำตอบก็คือเพราะการโกงกินงบประมาณซ่อมบำรุง โดยเรือรบเก่าๆ ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีทุกลำ ซีลประตูกั้นน้ำ(ยาง) มักจะเปื่อยกันน้ำเข้าไม่ได้ แต่งบซ่อมบำรุงที่ได้มา 100 บาท ซ่อมจริงไม่เกิน 60 บาท ที่เหลือไปไหนไม่ทราบ นั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยจมลงก้นทะเลอย่างรวดเร็ว
แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่าในยุคของ ผบ.ทร.บางคน มีการโกงกินหลายรูปแบบ เช่น แปลงงบประมาณไปจัดไตรกีฬา สร้างบ้านพักรับรอง 2 แห่ง ราคา 100 กว่าล้านที่กรุงเทพฯ และ 50 กว่าล้านที่สัตหีบ ทำซุ้มประตูทางเข้าหน่วยทหารนาวิกโยธินราคา 35 ล้านบาท เป็นต้น
อีกวิกฤตปัจจุบันของกองทัพเรือคือไม่ค่อยมีน้ำมันเติมให้เรือรบ จึงต้องเอาทหาร สอ.รฝ. (หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง) และ ทหารนาวิกโยธิน รวม 30 นาย ไปกับเรือหลวงสุโขทัย เพื่อประหยัดน้ำมันภายในกองทัพเรือ แต่ทำให้เรือบรรทุกคนเกิน
นอกจากนี้ หากมีการสั่งการให้เรือหลวงจักรีนฤเบศร และ เรือหลวงสิมิลัน พร้อมหน่วยซีลออกไปช่วยเหลือแบบเร่งด่วนใน 24 ชั่วโมงแรก น่าจะมีการตายน้อยกว่านี้มาก เพราะเรือหลวงจักรีนฤเบศรและเรือหลวงสิมิลันสามารถทนคลื่น 9 เมตรได้สบายๆ แต่เพราะเน้นประหยัดน้ำมันก็เลยไม่ได้ออกไปในช่วงแรก
“นี่เป็นข้อมูลจากทหารเรือ ซึ่งผมเชื่อว่ามีความจริงอยู่ เรื่องนี้ปล่อยเงียบไปไม่ได้ ต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ หากต้องกู้ซากเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาเพื่อหาหลักฐานการอับปางมัดตัวคนผิดได้ก็ควรจะทำโดยเร่งด่วน เพื่อให้กำลังพลที่จากไป ต้องไม่ตายฟรี” นายสนธิกล่าว
ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000008775
ถ้าจริงนี่เศร้ามากเลยนะครับ ประเทศไทย โกงกิน เบียดบังจนทรัพย์ยากรของชาติต้องสูญสิ้น แต่ยังไงเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ