สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากจะแชร์ ระบาย ปรึกษา เพื่อนๆในพันทิปเกี่ยวกับความกังวลใจของเราค่ะ
1.เราเป็นเด็กจบใหม่ค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านกราฟฟิค ไม่ได้จบสายนี้โดยตรงแต่เรียนออกแบบมา แล้วเรามาฝึกด้านกราฟฟิคเพิ่ม เรารู้สึกไม่เก่ง ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้ายื่นบริษัทฝรั่ง หรือบริษัทใหญ่ๆ เพราะกลัวตัวเองไม่มีคุณสมบัติมากพอ แต่เราก็ฝึกมาเรื่อยๆจนเราเริ่มเปลี่ยนความคิด
2.ต่อจากข้อ 1 สืบเนื่องจากที่เราไม่ได้มั่นใจในตัวเองตั้งแต่ต้น เราเลยยื่นๆไปหลายๆบริษัทอะไรก็ได้ที่มีงานกราฟฟิคให้ทำ ขอแค่ให้ตัวเองได้ฝึกใช้เครื่องมือ จนเราได้บ.แห่งหนึ่ง พอเราได้ทำงานที่นี่ มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องการงานแบบไหน
3.เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นทุกที่มั้ย ที่จะมีงานเร่งด่วน งานแทรก มาตลอด สิ่งที่เราเจอคือสิ่งนี้ค่ะ แล้วมันมาพร้อมกับการไม่วางแผนของหัวหน้าเรา ความไม่รอบคอบ ความไม่เป็นระเบียบ สื่อสารไม่รู้เรื่องความชุ่ย ความมักง่าย จนกลายเป็นว่าปัญหาตกมาที่เราต้องคอยมานั่งเก็บขี้เก็บเยี่ยว และเราต้องมานั่งแก้ปัญหาเดิมๆซ้ำๆของคนเก่าๆคนก่อนที่ออกไปแล้ว เราเบื่อมาก
4.เราทำมาได้สักพักเราก็รู้ได้ทันทีเลยค่ะว่าเราคงไม่ได้เรียนรู้อะไรจากที่นี่นอกจากความอดทน เราคงเติบโตกับที่นี่ไม่ได้แน่ๆ เราเริ่มรู้แล้วว่างานแบบไหนตอบโจทย์เรา แล้วเราก็รู้สึกว่าคุณสมบัติเรามีค่ามากพอที่จะไปหาที่ที่เหมาะกับเรามากกว่านี้
5.เราได้เงินเดือน 15,000 หักค่าประกันสังคมไป เราก็เหลือ 14,250 ถามว่าพอใช้มั้ย สำหรับเรามันก็ไม่ได้ถือว่าลำบากค่ะ แต่มันไม่พอแน่ๆในระยะยาว แล้วคุณภาพงานที่เราให้เขาไปเราว่ามันเกินเงินเดือน 15,000 ค่ะ (จากที่เรารู้มาพี่ที่ทำงาน ทำมา 9 ปี เงินเดือนยังอยู่ที่ 17,000 อยู่เลย)
6.จากเนื้องานที่เราบ่นไปคร่าวๆแล้ว ยังมีเรื่องของ mindset ของผู้บริหารในองค์กรที่ค่อนข้างไม่โอเคสำหรับเรา
6.1เขายังคงใช้ของเถื่อน โปรแกรมเถื่อนในการทำงาน ทั้งๆที่เป็นบริษัทที่เปิดเป็น 10 กว่าปีแล้ว รายได้หลักล้าน
6.2 เขาอยากได้ผลงานคุณภาพดี แต่เขาไม่ค่อยอยากจะลงทุนลงของอะไรให้กับทีมจนกว่าจะมีผลงานออกมาให้ดูถึงจะยอมเสียเงินซื้อให้
7.เพื่อนร่วมงานในบริษัทที่อายุไล่ๆกับเรา เขาค่อนข้างมีอคติกับบริษัท เขาจะบ่นให้เราฟังทุกวันกับปัญหาที่เขาเจอ จ้องมองว่าคนๆนั้นไม่ดี ทั้งๆที่ไม่เคยเจอคนๆนั้นด้วยซ้ำ บางครั้งเราก็เห็นด้วยกับเขาถึงเนื้องานของบริษัทที่มันไม่ค่อยโอเค แต่บางครั้งเราก็อยากอยู่เงียบๆไม่อยากรับเรื่องที่มัน Toxic เพิ่มเข้ามาในหัว จนเรารู้สึกว่าเราเหมือนโดนกลืนกิน แล้วเราเป็นคน Toxic ยังไงด้วยไม่รู้
8.เราคิดจะออกจากบริษัทค่ะ ครบ 1 ปี เราก็ว่าจะออก เพื่อให้ตัวเองยังได้เครดิตด้วยแล้วก็การทำธุรกรรมการเงินเรื่องต่างๆมันจะได้ง่าย เราพยายามคิดที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน บางคนก็บอกให้เราออกมาเลย เสียเวลา แต่ฝั่งครอบครัวเราจะบอกว่าให้ทำไปก่อน งานหายาก กอดงานประจำไว้ อะไรแบบนี้ (เราเข้าใจว่าเขาเป็นห่วงแต่เขาจะรู้มั้ยว่าเราเจออะไรประสาท-ในทุกๆวัน) ไม่ว่าจะปัญหาอะไรที่เราเจอ ความเครียดเอย นอนไม่หลับเอย หรืออื่นๆ มันกลายเป็นเรื่องเล็กของครอบครัวของคนอื่นหมด แต่เขาจะรู้มั้ยว่ามันหนักหนากับเรามากนะ
9.พอเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราก็ไม่กล้คิดกล้าทำ ไม่อยากจะพูดเพื่อลดการทะเลาะ เราว่าที่เราไม่มั่นใจในตัวเองมันสืบเนื่องมาจากครอบครัวด้วยค่ะ พอเราจะทำอันนั้นอันนี้เขาก็จะบอกว่า อย่าเลยมันเสี่ยง ไม่คุ้มหรอก บลาๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องที่เราอยากหาของมาขาย ทาสีบ้าน ทำสีผม ไปต่างประเทศ อยากเปิดร้านขายต้นไม้ ฯลฯ เรารู้สึกว่าเขาไม่ค่อยซัพพอร์ตความคิดหรือความฝันเรา มันเลยทำให้เราไม่มั่นใจในตัวเองว่าเราจะทำได้ค่ะ ถ้าใครมี Mindset ให้กำลังใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองก็ช่วยแชร์ด้วยนะคะ
10.จากปัญหาที่เราเจอมานี้ มันทำให้เราเกิดความเครียดค่ะ เรารู้สึกว่าเราเครียดสะสม ย้ำคิดย้ำทำ มีความเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสนิดๆ มีความกังวลเกี่ยวกับอนาคต เรานอนไม่หลับ เป็นลมพิษ เป็นผื่นคัน เรารู้สึกว่าสุขภาพกายกับจิตเราไม่โอเคเลย เรารู้ว่าในเน็ตก็คงมีวิธีแก้เยอะแยะ แต่เราก็อยากได้เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของทุกคนมาช่วยฮีลใจเรามากกว่าค่ะ
สุดท้ายนี้ อย่าตอกย้ำว่าเราอ่อนแอหรืออะไรเลยนะคะ เราอยากได้กำลังใจ ให้เราทนทำงานกับที่นี่ต่อไปหรือมีวิธีที่เราต้องอยู่กับตรงนี้ให้ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
รู้สึกเครียด กังวล ย้ำคิดย้ำทำ คนรอบข้าง Toxic หรือตัวเอง Toxic กันแน่
1.เราเป็นเด็กจบใหม่ค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านกราฟฟิค ไม่ได้จบสายนี้โดยตรงแต่เรียนออกแบบมา แล้วเรามาฝึกด้านกราฟฟิคเพิ่ม เรารู้สึกไม่เก่ง ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้ายื่นบริษัทฝรั่ง หรือบริษัทใหญ่ๆ เพราะกลัวตัวเองไม่มีคุณสมบัติมากพอ แต่เราก็ฝึกมาเรื่อยๆจนเราเริ่มเปลี่ยนความคิด
2.ต่อจากข้อ 1 สืบเนื่องจากที่เราไม่ได้มั่นใจในตัวเองตั้งแต่ต้น เราเลยยื่นๆไปหลายๆบริษัทอะไรก็ได้ที่มีงานกราฟฟิคให้ทำ ขอแค่ให้ตัวเองได้ฝึกใช้เครื่องมือ จนเราได้บ.แห่งหนึ่ง พอเราได้ทำงานที่นี่ มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องการงานแบบไหน
3.เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นทุกที่มั้ย ที่จะมีงานเร่งด่วน งานแทรก มาตลอด สิ่งที่เราเจอคือสิ่งนี้ค่ะ แล้วมันมาพร้อมกับการไม่วางแผนของหัวหน้าเรา ความไม่รอบคอบ ความไม่เป็นระเบียบ สื่อสารไม่รู้เรื่องความชุ่ย ความมักง่าย จนกลายเป็นว่าปัญหาตกมาที่เราต้องคอยมานั่งเก็บขี้เก็บเยี่ยว และเราต้องมานั่งแก้ปัญหาเดิมๆซ้ำๆของคนเก่าๆคนก่อนที่ออกไปแล้ว เราเบื่อมาก
4.เราทำมาได้สักพักเราก็รู้ได้ทันทีเลยค่ะว่าเราคงไม่ได้เรียนรู้อะไรจากที่นี่นอกจากความอดทน เราคงเติบโตกับที่นี่ไม่ได้แน่ๆ เราเริ่มรู้แล้วว่างานแบบไหนตอบโจทย์เรา แล้วเราก็รู้สึกว่าคุณสมบัติเรามีค่ามากพอที่จะไปหาที่ที่เหมาะกับเรามากกว่านี้
5.เราได้เงินเดือน 15,000 หักค่าประกันสังคมไป เราก็เหลือ 14,250 ถามว่าพอใช้มั้ย สำหรับเรามันก็ไม่ได้ถือว่าลำบากค่ะ แต่มันไม่พอแน่ๆในระยะยาว แล้วคุณภาพงานที่เราให้เขาไปเราว่ามันเกินเงินเดือน 15,000 ค่ะ (จากที่เรารู้มาพี่ที่ทำงาน ทำมา 9 ปี เงินเดือนยังอยู่ที่ 17,000 อยู่เลย)
6.จากเนื้องานที่เราบ่นไปคร่าวๆแล้ว ยังมีเรื่องของ mindset ของผู้บริหารในองค์กรที่ค่อนข้างไม่โอเคสำหรับเรา
6.1เขายังคงใช้ของเถื่อน โปรแกรมเถื่อนในการทำงาน ทั้งๆที่เป็นบริษัทที่เปิดเป็น 10 กว่าปีแล้ว รายได้หลักล้าน
6.2 เขาอยากได้ผลงานคุณภาพดี แต่เขาไม่ค่อยอยากจะลงทุนลงของอะไรให้กับทีมจนกว่าจะมีผลงานออกมาให้ดูถึงจะยอมเสียเงินซื้อให้
7.เพื่อนร่วมงานในบริษัทที่อายุไล่ๆกับเรา เขาค่อนข้างมีอคติกับบริษัท เขาจะบ่นให้เราฟังทุกวันกับปัญหาที่เขาเจอ จ้องมองว่าคนๆนั้นไม่ดี ทั้งๆที่ไม่เคยเจอคนๆนั้นด้วยซ้ำ บางครั้งเราก็เห็นด้วยกับเขาถึงเนื้องานของบริษัทที่มันไม่ค่อยโอเค แต่บางครั้งเราก็อยากอยู่เงียบๆไม่อยากรับเรื่องที่มัน Toxic เพิ่มเข้ามาในหัว จนเรารู้สึกว่าเราเหมือนโดนกลืนกิน แล้วเราเป็นคน Toxic ยังไงด้วยไม่รู้
8.เราคิดจะออกจากบริษัทค่ะ ครบ 1 ปี เราก็ว่าจะออก เพื่อให้ตัวเองยังได้เครดิตด้วยแล้วก็การทำธุรกรรมการเงินเรื่องต่างๆมันจะได้ง่าย เราพยายามคิดที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน บางคนก็บอกให้เราออกมาเลย เสียเวลา แต่ฝั่งครอบครัวเราจะบอกว่าให้ทำไปก่อน งานหายาก กอดงานประจำไว้ อะไรแบบนี้ (เราเข้าใจว่าเขาเป็นห่วงแต่เขาจะรู้มั้ยว่าเราเจออะไรประสาท-ในทุกๆวัน) ไม่ว่าจะปัญหาอะไรที่เราเจอ ความเครียดเอย นอนไม่หลับเอย หรืออื่นๆ มันกลายเป็นเรื่องเล็กของครอบครัวของคนอื่นหมด แต่เขาจะรู้มั้ยว่ามันหนักหนากับเรามากนะ
9.พอเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราก็ไม่กล้คิดกล้าทำ ไม่อยากจะพูดเพื่อลดการทะเลาะ เราว่าที่เราไม่มั่นใจในตัวเองมันสืบเนื่องมาจากครอบครัวด้วยค่ะ พอเราจะทำอันนั้นอันนี้เขาก็จะบอกว่า อย่าเลยมันเสี่ยง ไม่คุ้มหรอก บลาๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องที่เราอยากหาของมาขาย ทาสีบ้าน ทำสีผม ไปต่างประเทศ อยากเปิดร้านขายต้นไม้ ฯลฯ เรารู้สึกว่าเขาไม่ค่อยซัพพอร์ตความคิดหรือความฝันเรา มันเลยทำให้เราไม่มั่นใจในตัวเองว่าเราจะทำได้ค่ะ ถ้าใครมี Mindset ให้กำลังใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองก็ช่วยแชร์ด้วยนะคะ
10.จากปัญหาที่เราเจอมานี้ มันทำให้เราเกิดความเครียดค่ะ เรารู้สึกว่าเราเครียดสะสม ย้ำคิดย้ำทำ มีความเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสนิดๆ มีความกังวลเกี่ยวกับอนาคต เรานอนไม่หลับ เป็นลมพิษ เป็นผื่นคัน เรารู้สึกว่าสุขภาพกายกับจิตเราไม่โอเคเลย เรารู้ว่าในเน็ตก็คงมีวิธีแก้เยอะแยะ แต่เราก็อยากได้เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของทุกคนมาช่วยฮีลใจเรามากกว่าค่ะ
สุดท้ายนี้ อย่าตอกย้ำว่าเราอ่อนแอหรืออะไรเลยนะคะ เราอยากได้กำลังใจ ให้เราทนทำงานกับที่นี่ต่อไปหรือมีวิธีที่เราต้องอยู่กับตรงนี้ให้ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ