แน่นอนว่าศิลปิน K-pop ที่คนทั้งโลกรู้จักมากที่สุดก็คือ “BTS” ผู้ที่ให้ HYBE และ บังชีฮยอก เป็นอย่างทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะภูเขาสูง หุบเขาจึงลึก
บังชีฮยอก ผู้สนับสนุน พัคจินยอง (JYP) และ G.O.D ได้กลายเป็นผู้มั่งคั่ง หลัง HYBE มียอดขายกว่า 1 ล้านล้านวอนจาการมาของ BTS
เพลงยอดนิยมของเกาหลีใต้หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "K-pop" ได้กลายเป็นวัฒนธรรมหลักของ K-content ที่ตื่นเต้นและโดนใจผู้คนทั่วโลกไปแล้ว แน่นอนว่าศิลปิน K-pop ที่คนทั้งโลกรู้จักมากที่สุดก็คือ BTS
ฉลองครบรอบ 10 ปีของการเดบิวต์ในปีนี้ BTS ได้ยกระดับชื่อของพวกเขาในฐานะภารกิจทางการทูตส่วนตัวที่ส่งเสริมวัฒนธรรมเกาหลีไปทั่วโลก และทำให้ HYBE ซึ่งเป็นบริษัทที่สนับสนุน BTS นี้ ได้กลายเป็น 'ผู้นำ' ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในบรรดาบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ K-content ต้องขอบคุณพลังยอดขายของ BTS
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 บังชีฮยอกกับพัคจินยอง เป็นคนสำคัญที่ให้ G.O.D เป็น 'ไอดอลแห่งชาติ' บัจจุบันชื่อของเขา "บังชีฮยอก" เป็นหนึ่งใน อภิมหาเศรษฐีด้วยสินทรัพย์หุ้น 2.47 ล้านล้านวอน จากความสำเร็จของ BTS ที่ทำให้โลกต้องตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม ก็มีช่วงขึ้น ๆ ลง ๆ บ้างก่อนที่ HYBE จะเติบโตเป็นบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่อย่างทุกวันนี้
.
.
◇ จาก G.O.D สู่ BTS… 'คนรวยหุ้น 2 ล้านล้านวอน' บังชีฮยอกผู้ก่อตั้งและประธาน HYBE ได้รับเหรียญทองแดงจากการประกวด Yoo Jae-ha Music Contest ในปี 1994 ขณะที่เขากำลังศึกษาเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ที่ Seoul National University และทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในวงการเพลง การประกวดดนตรี Yoo Jae-ha เป็นหนึ่งในโอกาสที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมเพลงสำหรับเขา
ตั้งแต่นั้นมา บังชีฮยอกซึ่งเขียนเพลงให้กับนักร้องบางคนก็ได้รับการจับตามองจากพัคจินยอง นักร้องรุ่นราวคราวเดียวกัน และเริ่มก่อตั้งที่ JYP Entertainment ในปี 1997 ซึ่ง บังชีฮยอกทำงานเป็นหัวหน้าโปรดิวเซอร์จนถึงปี 2005 ก่อนจะเริ่มก่อตั้ง Big Hit Entertainment และกลายเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพ
การรับรู้ต่อสาธารณชนของประธานบังเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายยุค 2000 แต่เขาเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ต้นยุค 2000 แล้ว สำหรับแฟนเพลงที่ 'รู้จัก K-Pop'
ประธานบังมีประสบการณ์ในการเขียนหรือโปรดิวซ์เพลงฮิตหลายเพลงให้กับศิลปินไอดอลกรุ๊ปมากมาย ก่อนจะออกจาก JYP Entertainment และก่อตั้ง Big Hit Entertainment ด้วยตัวเอง
" BTS "
BTS บอยแบนด์วงแรกที่ทำให้ HYBE เป็นอย่างทุกวันนี้ เดบิวต์อย่างเป็นทางการในปี 2013
จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์
ในช่วงที่ BTS เดบิวต์ครั้งแรกในปี 2013 ไม่มีใครสนใจ BTS และ Big Hit เลย นักแต่งเพลงบังชีฮยอกเป็นที่รู้จักกันดี แต่ชื่อค่าย Big Hit นั้นเป็นเหมือนบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ดังนั้นจึงถูกบังโดยเงาของบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม จากการสื่อสารกับแฟน ๆ อย่างต่อเนื่อง BTS ค่อย ๆ ขยายฐานแฟนคลับและทำให้พวกเขาได้รับฉายาว่า 'ดาวรุ่งที่น่าจับตามอง' ในวงการเพลง
และในปี 2015 มินิอัลบั้มชุดที่ 3
"The Most Beautiful Moment in Life Part 1" ก็ได้รับความนิยมและโด่งดัง
.
.
ยุครุ่งเรืองของ BTS เริ่มต้นขึ้นด้วยเพลงไตเติ้ลอย่าง " FIRE" จากอัลบั้ม "The Most Beautiful Moment in Life: Young Forever" ที่วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2016 และอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 "WINGS" ที่วางจำหน่ายในเดือนตุลาคมของปีนั้น
ผลงานเหล่านี้ทำให้ BTS พุ่งทะยายในฐานะวงไอดอลที่ทั่วโลกให้ความสนใจ และยอดขายของ Big Hit ก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
ในปี 2017 เมื่อ
BTS สร้างสถิติขายอัลบั้มเดียวมากกว่า 1 ล้านชุดในรอบ 16 ปีนับตั้งแต่ G.O.D ทำได้ในปี 2001 อิทธิพลของ Big Hit ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในแง่ของผลกำไรจากการดำเนินงาน เริ่มเอาชนะบริษัมบันเทิง K-Pop
"BIG 3" ได้แก่
SM Entertainment,
JYP Entertainment และ
YG Entertainment
ในเวลานั้น ยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานประจำปีของ
Big Hit อยู่ที่ 92.4 พันล้านวอนและ 32.5 พันล้านวอนตามลำดับ ในเวลานั้นกำไรจากการดำเนินงานของ
YG อยู่ที่ 25.2 พันล้านวอน
JYP อยู่ที่ 19.5 พันล้านวอน และของ
SM อยู่ที่ 10.9 พันล้านวอน เมื่อพิจารณาจากจุดนี้ บ่งบองได้ว่า Big Hit ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในบรรดาบริษัทบันเทิง
◇ หลังจากหัวเราะและร้องไห้มาด้วยกัน Big Hit ก็ค่อย ๆ เริ่มฝันที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg News ในเดือนธันวาคม 2017 ประธานบังชีฮยอกได้เปิดเผยความตั้งใจของเขาที่จะ “จดทะเบียน Big Hit ในตลาดหลักทรัพย์” และในปี 2020 ความฝันนั้นก็เป็นจริง
อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนไม่เหมือนกับบริษัท K-Pop รายใหญ่ 3 แห่งที่จดทะเบียนใน KOSDAQ ปลายทางของ Big Hit ในการจดทะเบียนคือ KOSPI เป็นเพราะการตัดสินว่าดีกว่าหากคุณฝันถึงกลุ่มคอนเทนต์ระดับโลก
Big Hit ซึ่งเปิดตัวบน KOSPI เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปที่ 135,000 วอนในปีนั้น ซึ่งนับว่าเป็นราคาสองเท่าของราคาเสนอขายต่อสาธารณะ
หลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น HYBE ในปี 2021 ราคาหุ้นก็พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปที่ช่วง 410,000 วอน ซึ่งสูงกว่าราคาเสนอขายต่อสาธารณะถึง 3 เท่า เนื่องจากความคาดหวังในการกลับมาแสดงของ BTS แบบออฟไลน์อีกครั้ง และความคลั่งไคล้โทเค็น metaverse และ NFT
อย่างไรก็ตาม
อาจเป็นเพราะภูเขาสูง หุบเขาจึงลึก หลังจากประกาศหยุดกิจกรรมวง
BTS ชั่วคราวในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ราคาหุ้นก็ดิ่งลง เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนปีที่แล้ว หุ้นของ HYBE ลดลงเกือบ 25% เหลือ 145,000 วอน ราคาหุ้นลดลง 64.97% จากจุดสูงสุด
ราคาหุ้นซึ่งฟื้นขึ้นมาในช่วงครึ่งปีหลัง 180,000 วอน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม และลดลงอีกครั้งช่วงกลางเดือนตุลาคม เหตุผลก็คือการเกณฑ์ทหารของเมมเบอร์ BTS ปรากฏขึ้น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกิจกรรมก็เพิ่มขึ้น และในที่สุดก็ลดลงเหลือ 109,500 วอน ลดลง 73.55% จากจุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม นี่คือจุดต่ำสุดของราคาหุ้นอย่างแน่นอน เมื่อ Jin ซึ่งเป็นพี่คนโตของ BTS ประกาศว่าเขาจะเป็นทหารประจำการในวันที่ 13 ธันวาคม
.
.
◇ '
QUEEN' รุ่นต่อไปเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของ 'KING'...
ราคาหุ้นกระโดดอีกครั้ง มีศิลปินมากมายที่มาจาก HYBE แต่
BTS เป็นศิลปินรายเดียวที่พยุงบริษัทได้เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความกังวลมากมายทั้งในและนอกตลาดหุ้นว่า
"หากไม่มีกิจกรรมของ BTS ผลประกอบการและราคาหุ้นของ HYBE ก็จะร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นกัน"
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของ HYBE ยังคงเพิ่มขึ้นแม้ว่ากิจกรรมของวง BTS จะหยุดลง เหตุผลที่อาณาจักรดำเนินไปอย่างปกติแม้
'ราชา' จะไม่อยู่ ก็เพราะมีสิ่งบางสิ่งมาเติมเต็มจุดที่ว่างเปล่า..
LE SSERAFIM และ NewJeans
LE SSERAFIM และ
NewJeans ที่เดบิวต์เมื่อปีที่แล้วสร้างสถานะที่มั่นคงในวงการเพลงทันทีที่พวกเขาปรากฏตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
NewJeans ไม่เพียงติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับชื่อเสียงของแบรนด์ Girl Group เท่านั้น แต่ยังเพิ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 มาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 2 วงถูกคาดหวังว่าจะมาเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปของ
BTS
.
.
นอกจากนี้ HYBE การเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวงการ K-pop หรือธุรกิจคอนเทนท์อื่น ๆ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักก็ถูกตีความว่าเป็นปัจจัยต่อผลประกอบการของหุ้นด้วย
ตั้งแต่ปี 2019 HYBE ได้สร้าง 'Weverse' ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชุมชนแฟนคลับบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กผ่านบริษัทในเครือ Weverse Company เป็นแพลตฟอร์มคอมมูนิตี้ระดับโลกที่แฟน ๆ ทั้งในและต่างประเทศสามารถสื่อสารกันได้เมื่อศิลปินฝากเรื่องราวที่พวกเขาต้องการบอกแฟน ๆ ผ่านแพลตฟอร์มโดยตรง Weverse ดำเนินการเป็นระบบสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน ดังนั้นจึงช่วย HYBE ได้มาก
HYBE มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเกมตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งเข้าซื้อหุ้นของ Flint (บริษัทเกม) ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เริ่มขยายธุรกิจเกมอย่างจริงจังโดยรับผิดชอบการเผยแพร่เกมใหม่ของ Flint ในปีนี้
นอกจากนี้ยังพยายามเพิ่มผลกำไรสูงสุดผ่านคอนเทนต์อื่นที่ไม่ใช่ K-Pop ผ่านการลงทุนในตราสารทุนหรือการควบรวมกิจการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเกม และยังลงทุนเชิงรุกเพื่อพัฒนา NFT และ Metaverse
ในระยะเวลา 1 ปี HYBE เข้าลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ ไป 7 ทั้งบริษัท Innerbirds ที่ผลิตมนุษย์เสมือนจริง, คอนเทนต์วิดีโอจากการเรียนรู้เชิงลึก, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สร้างเสียงต่าง ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด Supertone, บริษัทเกม Flint และ MACOVILL, บริษัท NFT Levels และบริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชน Lambda256
.
.
ปัจจุบัน HYBE มีผู้รายใหญ่คือ บังชีฮยอก 31.8%, Netmable 18.2% National Pension Service 6.6% และ Dunamu 5.6% โดยมีผู้ถือหุ้นส่วนน้อยถือหุ้น 32.99%
Netmarble ถือหุ้นใน HYBE ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เสียอีก ในเดือนเมษายน 2018 Netmarble ลงทุน 201.4 พันล้านวอนเพื่อซื้อหุ้น 445,882 หุ้นของ HYBE
ในตอนนั้น เมื่อมีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า Netmarble กำลังลงทุนใน HYBE ผู้คนให้ความสนใจกับเรื่องราวของครอบครัวมากกว่าความร่วมมือทางธุรกิจ
ประธานบังจุนฮยอก (Netmarble) และประธานบังชีฮยอก (HYBE) เป็นทายาทรุ่นที่ 29 ของฝ่าย ชังคย็องกุง ของตระกูล นัมยางบัง ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนพูดกันว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ต่ำกว่าลูกพี่ลูกน้องลำดับที่ 8 ซึ่งมองได้ว่าเป็นญาติสนิทตามกฎหมายแพ่ง อย่างไรก็ตามว่ากันว่าพวกเขานั้นเป็นญาติสนิทกัน
[EXCLUSIVE] “BTS” ผู้ที่ให้ HYBE และ บังชีฮยอก เป็นอย่างทุกวันนี้ – จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และอนาคต
ในเวลานั้น ยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานประจำปีของ Big Hit อยู่ที่ 92.4 พันล้านวอนและ 32.5 พันล้านวอนตามลำดับ ในเวลานั้นกำไรจากการดำเนินงานของ YG อยู่ที่ 25.2 พันล้านวอน JYP อยู่ที่ 19.5 พันล้านวอน และของ SM อยู่ที่ 10.9 พันล้านวอน เมื่อพิจารณาจากจุดนี้ บ่งบองได้ว่า Big Hit ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในบรรดาบริษัทบันเทิง
.
◇ 'QUEEN' รุ่นต่อไปเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของ 'KING'...
ราคาหุ้นกระโดดอีกครั้ง มีศิลปินมากมายที่มาจาก HYBE แต่ BTS เป็นศิลปินรายเดียวที่พยุงบริษัทได้เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความกังวลมากมายทั้งในและนอกตลาดหุ้นว่า "หากไม่มีกิจกรรมของ BTS ผลประกอบการและราคาหุ้นของ HYBE ก็จะร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นกัน"
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของ HYBE ยังคงเพิ่มขึ้นแม้ว่ากิจกรรมของวง BTS จะหยุดลง เหตุผลที่อาณาจักรดำเนินไปอย่างปกติแม้ 'ราชา' จะไม่อยู่ ก็เพราะมีสิ่งบางสิ่งมาเติมเต็มจุดที่ว่างเปล่า.. LE SSERAFIM และ NewJeans
.
.