ปัญหาเขมรที่กล่าวหาว่าไทยขโมยวัฒนธรรมเขมรไป จะจบลงอย่างไร?

เริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นทุกวันหลังจากติดตามข่าวเรื่องเขมรว่าไทยก็อปปี้ มวย เสื้อผ้า อาหาร ศิลปะ โขน ตราครุฑ ต่างๆนาๆ ของเขมร มันหนักขึ้นจนกระทบการแข่งขันมวยไทย เป็นปัญหาระดับชาติ รุนแรงมากขึ้นทุกวัน ไทยจะแก้ปัญหายังไง ใครมีหน้าที่แก้ปัญหา แก้ปัญหาได้หรือยัง แก้ปัญหาไปถึงไหนแล้ว อยากรู้ในฐานะคนไทยที่รักชาติคนนึง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
ปัญหาแบบนี้ เวลาต่อสู้กัน เขาจะไม่เอาสูงมาตีเล็กนะ คือ เขาจะไม่เอาคนระดับรัฐบาล ข้าราชการ มาตีกับเกรียนตามโซเชียล แต่เขาจะให้เกรียนกับเกรียนตีกัน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ ตีกัน โดยมีเส้นแบ่งอยู่ที่ตราบใดยังไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ หรือผิดกฏหมาย ผู้มีอำนาจของแต่ละฝ่ายจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะเดี๋ยวเรื่องจะลามเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว

ที่ปัญหาเกิดอย่างนี้เพราะเรากับเขมร มองโลกและความเป็นชาติไม่เหมือนกัน หรือเรียกกันง่ายๆ ก็คือเราถือกันคนละมุมมอง

เราต้องเข้าใจก่อนว่าเขมรเขามองความเป็นไทย ประเทศไทย ไม่ได้เหมือนกับพวกเรา เขมรเขายังมองว่าความเป็นไทยคือความเป็นสยาม มองทุกภาคของไทยคือสยามทั้งหมด  เขาไม่ได้มองประเทศไทยมีหลายภาค มีหลายวัฒนธรรม มีหลายเชื้อชาติ เหมือนๆ กับเรา และเขาก็ยังมองความเป็นตัวเขา ความเป็นชาติของเขา อยู่บนเชื้อชาติเขมรเท่านั้น ไม่มีความเป็นเวียดนาม ไม่มีความเป็นจาม ไม่ความเป็นชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนร่วมชาติของเขามาเจือปนเลย หรือเรียกกันง่ายๆ ว่าความเป็นเขมรอังกอร์คือของแท้

พอมุมมองสองอย่างนี้มาปะทะกัน มันเลยเกิดปัญหา

และที่สำคัญเขาสอนกันมาว่าเขมรอังกอร์คือพ่อทุกสถาบัน มีการวาดแผนที่โบราณไปถึงพม่า ถึงลาว ถึงเวียดนาม กินอาณาเขตครอบคลุมกว้างขวางของประเทศไทย จากนั้นก็บอกว่าวัฒนธรรมในแผนที่นี้แหละคือวัฒนธรรมเขมรทั้งหมด ซึ่งมันผิดหลักเรื่องรัฐแสงเทียนกับหลักการเคลื่อนย้ายถ่ายเทของวัฒนธรรมโบราณ ดังนั้นอย่าไปแปลกใจถ้าเราจะเจอความเห็นตลกๆ ของเขมรตามเน็ต เช่น วัดสมัยรัตนโกสินทร์เป็นศิลปะเขมรโบราณ , ศิราภรณ์ของฉุยฉายซึ่งเป็นศิลปะแบบ Art Deco เป็นศิลปะของเขมรโบราณ หรือแม้กระทั่งลอมพอก รองเท้าปลายงอน เสื้อครุยซึ่งเป็นวัฒนธรรมของเปอร์เซีย เป็นวัฒนธรรมของเขมรโบราณ!

ไม่เพียงเขาจะไม่รู้ยุคสมัยของศิลปะวัฒนธรรมที่ทางไทยรับมาแต่ละยุค เขายังแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าความเป็นไทยมีหลายภาค มีเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ซึ่งแต่ละภาคก็เอกลักษณ์แตกต่างกัน เพราะอย่างนี้ เวลาเอาของพวกนี้ไปประกอบกันแล้วอ้างว่าเขาเป็นต้นตำรับจึงดูตลก ผิดยุค เหมือนคนไม่ได้ทำการบ้านมาแล้วดันสะเออะออกมานำเสนออวดตัวอย่างภาคภูมิใจ เพราะมันมีแต่ความ Mix แต่ไม่ Match อยู่เต็มไปหมด อย่างเอาหมอนอิงสามเหลี่ยมทางอีสานซึ่งของใหม่ กับใช้ร่วมกับรูปหล่อสัตว์หิมพานต์ที่ทรงเหมือนเครื่องสังเค็ดที่ประดับพระเมรุมาศ มาใช้ประดับกับเรือนคหบดีในละครย้อนยุคที่ย้อนไปถึงสมัยอยุธยา

หรืออย่างที่กำลังเป็นดราม่าในตอนนี้คือเรื่องครุฑที่ไปแปะตรงเป้ากางเกงเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้มาว่าเขมรไม่ได้เข้าใจ"ความเป็นขอม"เลยแม้แต่น้อย ไม่ได้เข้าใจเรื่องพาหนะของพระนารายณ์ ไม่ได้เข้าใจความเป็นพรามหณ์ฮินดู ซึ่งเป็นแก่นแท้ของอำนาจขอมในสมัยโบราณ นอกจากนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยเพราะเล่นทำซ้ำ art work อย่างเข้าใจผิด

นอกจากนี้ยังมีเรื่องตลกหลาย อย่างที่บ่งบอกว่าเขมรใช้ของสูงของต่ำของหญิงของชายไม่เป็น เช่น เรื่องเอาเศวตรฉัตรกลับหัวมาประดับในงานสถาปัตยกรรม เอาจับปิ้งที่ปิดอวัยวะเพศหญิงมาประดับศีรษะ ฯลฯ ซึ่งการจับของที่ควรอยู่หนึ่งเอาไปแต่งอีกที่หนึ่งโดยไม่รู้ลำดับสูงต่ำและความเหมาะสม มันได้ทำได้ทำลายวาทกรรมที่เขมรอ้างว่าตัวเขาเป็นเจ้าของเก่าลงอย่างสิ้นเชิง  (สนใจก็ไปดูในเน็ตได้นะ มีเต็มไปหมด)

ซึ่งความลักลั่นทั้งหมดจะโทษอะไรไม่ได้เลยนอกจากการศึกษาประวัติแบบชาตินิยมสุดโต่งอย่างหน้ามืดตามัว

สำหรับการแก้ปัญหานี้ เราทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเสนอความจริงในมุมของเราเอาไว้บนความเป็นวิชาการ ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับการไปเกรียนกลับแบบปัญญาอ่อน เช่น ทำภาพล้อ หรือด่าทอถึงเชื้อชาติ ฯลฯ มันไม่ใช่สาระ ไม่จำเป็นต้องไปทำขนาดนั้น เขมรดีๆ ก็มี พวกสายกลางไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็มาก ยิ่งทำแบบนี้ก็เหมือนทำตัวเป็นแนวร่วมมุมกลับให้พวกชาตินิยมอังกอร์ที่รอหาพรรคพวกอยู่ มันเปิดประตูรอพวกไทยคลั่ง "สะแล๋น" เข้าไปเสริมความน่าเชื่อถือของโฆษณาชวนเชื่ออยู่แล้ว ยังจะอดเอาไว้ไม่ได้ ไม่ให้เรียกว่าโง่เขลาก็คงจะใช้คำอื่นไม่ออก

(ข้าพเจ้ากล้าบอกเลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันเกิดจากฝรั่งเศษจงใจวางหมากเสี้ยมเอาไว้เพื่อจะแยกเขมรออกจากสยาม มันเป็นหมากวางยาว หากแก้กันไม่ดีในยุครัฐชาติสมัยใหม่ ฝรั่งเศษจะกลับมาใช้ภาวะโกลาหลเพื่อหาประโยชน์อีกครั้ง และตอนนี้มีข่าวแล้วว่าฝรั่งเศษมีทีท่าจะกลับมาเต็มตัวแล้วด้วย เราต้องระวังไว้)

หากจะว่ากันถึงรากของปัญหาที่ลึกไปกว่านี้ คงจะขาดการกล่าวถีงระบอบการเมืองของฮุนเซ็นไม่ได้ สมเด็จแกมีศาสตร์และศิลป์ ประกอบกับวิชามารในการควบคุมคนเขมร ซึ่งชาตินิยมอังกอร์ก็เกิดมาจากแกนี่แหละ แต่ในระบอบของแกมันมี bug อยู่ เพราะมันเป็นระบอบเล่นพรรคเล่นพวกที่หนักหนาสาหัสกว่าทางไทยมาก มันมีการจับกุมคนรุ่นใหม่หัวเสรีก้าวหน้าไปขัง มีการปล่อยให้ทุนต่างชาติเข้ามาทำร้ายคนเขมรชาวบ้านอย่างน่าเกลียด ซึ่งตรงนี้จะช่วยถ่วงให้ความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของเขมรไม่ให้เจริญ

ระหว่างนี้ เราควรรีบถีบตัวนำเสนอวัฒนธรรมของประเทศเราไปก่อน เช่น การส่งเสริมการเสพงานศิลปะ การสร้างทายาทช่างศิลป์สมัยใหม่ ฯลฯ ไม่เพียงแค่นั้น เราต้องช่วยกันพัฒนาชาติของเราให้ทันสมัยและรุ่งเรือง ไม่ต้องถึงกับเป็นนักการเมืองก็ได้ แค่เริ่มต้นกวาดขยะหน้าบ้านให้สะอาดดูดี เจอนักท่องเที่ยวก็เข้าช่วยเหลือ ก็นับว่าใช้ได้แล้ว

เพราะการจะเผยแพร่อำนาจละมุนให้โลกรู้ได้ ไม่ได้มีแค่เผยแพร่อัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์ การแต่งกาย หรือละคร หากแต่เมื่อเผยแพร่ออกไปแล้ว แล้วเขามาเยี่ยมมาชมบ้านเมือง มาพบเจอผู้คนของเจ้าของอำนาจละมุนนั้น หากมันปลอมจนน่าเกลียด เช่น ในละครบ้านเรือนสวยงาม ถนนหนทางดูดี แต่มาเจอสถานที่จริงกลับมาแต่โจร ขโมย ขยะและการหลอกลวง ฯลฯ มันก็ไม่ไหว พวกเราคนไทยมีฐานเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ควรใช้โอกาสนี้ชิงนำเสนอให้เขารับรู้และประทับใจเสียก่อน เพราะเมื่อเกิดการเปรียบเทียบกัน สุดท้ายเขมรก็จะเป็นได้แค่สยามสาขา ๒ หรือเมืองไทยเวอร์ชั่นที่ล้าหลัง

ส่วนเรื่องการหาพรรคพวกที่เป็นชาวต่างประเทศเพื่อต่อต้านข่าวสารบิดเบือนที่พวกชาตินิยมอังกอร์ทำไว้ โดยส่วนตัวคิดว่าควรจะเริ่มจากจีนจะดีที่สุด เพราะจีนเป็นชาติมหาอำนาจชาติเดียวในแถบนี้ที่เจอเขมรโบราณแล้วทำการจดบันทึกไว้ ในเมื่อเขมรถือว่าจีนเป็นพี่ใหญ่ เขาก็ควรโดนย้อนด้วยข้อมูลที่พี่ใหญ่บันทึกไว้แล้วกัน เช่น บันทึกของโจวต้ากวาน หรือ หมิงสือลู่ - ชิงสือลู่ ฯลฯ

ส่วนเรื่องมวยไทย หากเขมรจะคิดเคลมว่าตัวเองเป็นต้นตำรับ คงจะต้องผ่านด่านผู้จ้วงที่จีนไปก่อนล่ะ ข้าพเจ้าไปสืบข้อมูลทางนั้นมาแล้ว พวกผู้จ้วงเขาถือว่ามวยไทยกำเนิดที่เมืองจีนนะ เพราะเขาถือว่าศิลปะการต่อสู้มันเป็นของที่ติดตัวไปตามชนชาติ ก่อนจะแยกไปคนละสาย ในเมื่อเผ่าไทเป็นลูกหลานชาวเยว่ ชนชาติอื่นไม่มีสิทธิ์เคลม

ส่วนเรื่องคนเขมรที่มาทำงานในไทย ข้าพเจ้าขอนะ อย่าไปเอาพวกเขามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งด้วย พวกเขาเหล่านี้เป็นคนอีกชนชั้นในประเทศกัมพูชา เป็นคนหมู่มากที่เกิดจากระบอบฮุนเซ็น วันๆ คิดแต่ทำมาหากิน ไม่ได้คิดเรื่องศิลปะวัฒนธรรม เช้าตื่นมาทำงาน เย็นกลับบ้านเข้านอน ส่วนใหญ่ไม่ได้คิดถึงเรื่องชาตินิยมบ้าบออะไรหรอก

พวกชนชั้นสูงกับชนชั้นกลางในเขมร จริงๆ มีไม่เท่าไรเมื่อเทียบอัตราส่วนกัน คนกลุ่มนี้ก็อาศัยหยาดเหงื่อแรงงานของชาวบ้านตาดำๆ ที่มาทำงานในไทยแล้วส่งเงินไปทั้งนั้นแหละ ช่องหว่างระว่างชนชั้นและเศรษฐกิจของประชาชนในประเทศกัมพูชา มันมากเสียยิ่งกว่าทางไทยนัก พวกคนเขมรที่มาทำงานทางไทย ก็ใช่ว่าจะรักใคร่ในตัวสมเด็จอย่างหน้ามืดตามัว บางกลุ่มบางพวกอยากเป็นคนไทยก็มี เราต้องพยายามทำดีกับพวกเขาเหล่านี้ให้มากๆ นะ  แล้วเมื่อวันหนึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงในกัมพูชา คนกลุ่มนี้ที่ได้มาเจอมาอยู่อาศัยกับพวกเราด้วยความรู้สึกดีๆ จะได้กลับไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับพวกเราได้ในอนาคต

อย่างน้อยพวกเขาก็ได้อยู่ได้เห็นด้วยตาว่าพวกเราสร้างของเหล่านี้มาจากมันสมองสองมือของเราจริงๆ ไม่ได้ไปลอกใครมาเลย
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่มีวันจบ ผมไม่คิดว่ามจะได้เห็นพวกเขมรจบใน10-20 ปีนี้แน่นอนเผลอๆเป็นชั่วอายุคนก็ไม่จบ เพราะเขมรทุกวันนี้เค้าใช้วัฒนธรรมไทยทุกอย่างจนคนเขมรทั่วไปคิดว่าเป็นของตัวเองไปแล้ว ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมสมัยก่อนแต่รวมถึงพวกร่วมสมัยแย่างเพลงสมัยนี้ (ไปดูได้โดยเฉพาะพวกสายย่อ) อาหารที่เพิ่งเกิดสมัยนี้ อย่างหมูกระทะ หนัง ละครทีวี อะไรพวกนี้คุณไปดูได้ แต่ประเด็นคือเค้าถูกปลูกฝังให้เกลียดไทยเข้าเส้น เพราะงั้นยังงัยๆเค้าไม่จบง่ายๆ ที่สุำคัญคือเค้าพยายามโปรโมตแก่ชาวโลกว่าประเทศเค้ามีวัฒนธรรมมากมายอีกด้วย (ซึ่งเค้าไม่มี มีแต่ของที่ยกไปจากเราทั้งดุ้น) คือจริงๆก็เพราะเห็นไทยเด่นเรื่องนี้แล้วจะอยากเป็นบ้างนั่นแหละ คือจนกว่าคนทั้งโลกจะหลงใหลในวัฒนธรรมเค้าและเชื่อว่าไทยไม่มีวัฒนธรรมอะไรเลยแต่ไปลอกเขมรมา นั่นแหละมันถึงจะยอมสงบศึก

ส่วนคนไทยน่ะเลิกโลกสวยว่า เป็นเฉพาะช่วงเลือกตั้งได้แล้ว ผมเห็นมีมาตลอดทุกเดือน (แค่ว่าช่วงเลือกตั้งอาจจะถี่หน่อยเข้มหน่อย) แล้วก็เลิกคิดว่ามีเฉพาะคนไร้การศึกษาได้แล้ว มีแต่พวกการศึกษาดีๆทั้งนั้นแหละ คนเขมรนี่แย่เรื่องภาษาอังกฤษกว่าไทยอีกนะเพราะคนจำนวนมากยังเข้าถึงโรงเรียนดีๆไม่ได้อย่างไทย แต่ไปดูสิไอ้พวกเกรียนเขมรน่ะ แกรมม่าเป๊ะๆทั้งนั้น ทั้งๆที่ประชากรไทยเยอะกว่าหลายเท่าและเปอร์เซนต์คนใช้ภาษาอังกฤษได้ก็สูงกว่า ไอัเขมรพวกนั้นมันทำเป็นกระบวนการและมาจากระดับหน่วยงานราชการของมันเลย ไม่ใช่อย่างฝั่งไทยที่เป็นแค่คนที่ทนเห็นมันโจมตีอย่างเดียวไม่ไหว

ถ้าเรื่องนี้ยังงัยๆเขมรกะลากยาวให้หนักกว่า เกาหลี-ญี่ปุ่นแน่ครับเพราะ เกาหลีถ้าเตลมไม่ได้เค้าเหลือเรื่องอื่นให้ภูมิใจอีกเยอะ แต่เขมรนี่หมดเลยไม่มีอะไรให้ภูมิใจสักอย่างนอกจากเรื่องโกหกที่ปั้นขึ้นมาว่านี่คือวัฒนธรรมของเขา เค้าเลียนแบบไทย(อีกแระ)ตรงที่จะสร้างให้วัฒนธรรมเป็นความภูมิใจแห่งชาติเหมือนไทย ยังงัยเค้าไม่มีวันยอมรับแน่ว่าวัฒนธรรมเค้าตายไปตั้งแต่เขมรแดงแล้ว ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้คือเอาของไทยมาทับลงไปดื้อๆ (ขนาดต่อยมวยชนะยังชูรูปกษตริย์ คิดว่าเขมรเอาไปจากใครล่ะ)

EDIT: ลืมบอกอีกด้วยว่า อย่าหลอกตัวเองเอาสบายใจว่า มวยไทยมันของติดตลาดแล้ว คือต้องมองให้เห็นภาพใหญ่ด้วยครับ เค้าไม่ได้ต้องการแค่มวยไทยเค้าต้องการเคลมว่าวัฒนธรรมไทยไม่มี มีแต่ของที่ลอกไปจากเขมร เพราะฉนั้นถึงซึเกมส์นี้ถึงแม้ว่ามันไปจบที่คนจะหัวเราะกุน แขมร์ของมันที่จัดแข่งไม่ได้ แต่มันก็ประสบความสำเร็จในเรื่องสร้างกระแสการรับรู้ให้คนเริ่มคิดว่าสองประเทศนี้ทะเลาะเรื่องแย่งวัฒนธรรมกันว่าเป็นของใคร ซึ่งฝั่งมันมีแต่ได้ประโยชน์ครับ ยังงัยก็ดีกว่าที่มันไม่มีตัวตนอะไรเลยอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าเราเงียบมันก็เคลมต่อไปเรื่อยๆ
ความคิดเห็นที่ 2
สถานการณ์ตอนนี้.
   ยิ่งใกล้เลือกตั้งในกัมพูชา พวกชาตินิยมอังกอร์(เกรียน)เครือข่ายนักการเมืองกัมพูชาซึ่งยึดครองโลกโซเชียลในกัมพูชาอยู่แล้ว ก็จะยิ่งโหมปลุกระดมความคลั่งชาติ พรรณนาความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมของกัมพูชา ด่าศัตรู(ไทย)อย่างหนักหน่วง เพิ่มหนักขึ้นทุกวันทุกเรื่อง
    ยูทูปเบอร์ไทยสายรักชาติ ก็ จะพยายาม ไปเสาะแสวงหาคำด่าของพวกเกรียนกัมพูชา ที่ด่าไทย มาแปลให้แฟนคลับไทยได้ฟังทุกวัน เสมือนคนไทยโดนด่าทุกวัน
   เกิดตวามเกลียดชังซึ่งกันและกันระหว่างคนสองประเทศ ลุกลามออกจากโซเชียล ไปยังสื่อส่วนอื่นๆ

    จะจบอย่างไร.
    เกรียนกัมพูชาดูทรงแล้วส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกด้อยการศึกษาคงไม่จบง่ายๆพวกนี้ว่าไปตามอารมณ์ความมันส์ไม่อิงหลักใดๆ ปะทะกับเกรียนไทยสายหลักการชอบอธิบายชี้แจง พยายามอธิบายอย่างไร เกรียนกัมพูชาก็ไม่เข้าใจ เหมือนสีซอให้ควา ยฟัง   เมื่อไม่เข้าใจกัน มันก็คงไม่มีทางจบ

    แนวโน้ม.
    ขอดูสถานการณ์อีกสักระยะ จึงจะบอกได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่