คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
1.สังคม บรรยากาศรุ่นพี่ รุ่นน้องเป็นยังไงบ้าง
ต่อให้สังคมไม่ดี รุ่นพี่ไม่ดี รุ่นน้องไม่ดี ทั้งสองที่เลย ถ้าเรียนแล้วจบมาทำงานได้เงินเดือนดี คุณจะเรียนไหม
สำหรับผม ผมเรียน เพราะคนอื่นไม่ดี ผมก็ยังประคองตัวเองให้ดีได้
เราพึ่งตัวเองเป็นที่ตั้งเพื่อช่วยเหลือสังคม ไม่ได้รอสังคมมาช่วยเหลือเราครับ
สังคมไม่ดีก็เปลี่ยนมันให้ดีขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเราครับ
2.การเรียน อาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง
ทุกที่มีอาจารย์ที่สอนดีและไม่ดีเสมอครับ แล้วแต่จะได้เรียนกับใคร
ตอนรุ่นพี่อาจารย์ดี ตอนคุณมาเรียนอาจารย์ออกคนอื่นมาสอนแทน อาจจะสอนไม่ดีก็ได้
แนะนำว่าพึ่งพาตนเอง อาจารย์ไม่ดี หาข้อมูลเรียนในเน็ตเพิ่มเติมได้ วีดีโอสอนสมัยนี้เยอะแยะครับ
ต่อให้โดนกดคะแนน จบมาเกรดไม่สวย แต่อาจารย์กดความรู้ในหัวเราไม่ได้ครับ
3.การหางานของทั้ง 2 ที่
บริษัทดูสถานศึกษาเป็นส่วนประกอบ สถานศึกษาไหนแข่งเข้ายาก iq เฉลี่ยก็สูง
คุณเตรียมความพร้อมในการสอบแข่งกับคนอื่น ก็แค่ดูว่าพื้นความรู้น่าเชื่อถือแค่ไหน
สองสถาบันนี้ไม่ต่างกันมากหรอกครับ
จากคำถาม 3 ข้อ ของคุณ ผมลอง Reverse Engineering ความคิดของคุณได้ว่า
คุณคงกลัวความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แต่ปัญหาคืออนาคตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
เพราะเวลาคือปริมาณของการเปลี่ยนแปลง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีเวลา ไม่มีเวลาก็ไม่มีอนาคต
คำถามคือทำไมถึงต้องกลัวความเปลี่ยนแปลง คาดเดาว่าคุณน่าจะไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือไม่ต้องการให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลง
แต่ขอแนะนำว่าอย่าได้กลัวการเปลี่ยนแปลง ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเองทำให้มนุษย์อยู่รอดเหนือสิ่งมีชีวิตอื่น
จงเรียนรู้ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองครับ เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ก็เปลี่ยนแปลงโลกได้
เขียนโปรแกรมสมองตัวเองได้ ก็เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สบายแล้วครับ
ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเลือกแค่ใกล้บ้านที่สุดแค่นั้นครับ เลยเลือกบางมด
เราจะฝากอนาคตไว้กับสถานศึกษาอย่างเดียวคงไม่ได้ สร้างอนาคตด้วยความสามารถในการเรียนรู้ของตัวเองด้วยครับ
จะเรียนที่ไหนส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน พื้นฐานอาจจะต่างกันเล็กน้อย หลักสูตรใหม่เก่าต่างกันนิดหน่อย
เทคโนโลยีเปลี่ยนไปไว จบมาความรู้หลายอย่างก็เปลี่ยนแล้ว ต้องเรียนรู้เพิ่มตลอดเวลา
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจบแล้วจะไปทำอะไร เวลาเรียนไปจะได้สร้างเครือข่ายความรู้ในสมอง ที่จะนำไปใช้ช่วยทำงานที่ต้องการได้
แน่นอนว่าเรียนจบไปหลายปี บางทีเราก็จำที่เรียนไปแล้วไม่ได้ แต่อย่างน้อยแมพไว้ว่าวิชานี้มันช่วยทำงานเรื่องไหนได้บ้าง
เวลาต้องทำงานที่ต้องใช้ความรู้นั้น เราก็รู้ว่าต้องหาความรู้หัวข้อเรื่องอะไรมาอ่านทบทวน แล้วก็ใช้ช่วยในการทำงานได้
ปล. ผมเรียนจบบางมด ลูกปีนี้ได้โควต้าเข้าวิศวะคอมที่บางมด บอกได้แค่ว่าที่บางมดอาหารอร่อยและถูกครับ
หากควบคุมตัวเองไม่ได้อาจจะเสียทรงได้ครับ อ้วนแน่นอน
ต่อให้สังคมไม่ดี รุ่นพี่ไม่ดี รุ่นน้องไม่ดี ทั้งสองที่เลย ถ้าเรียนแล้วจบมาทำงานได้เงินเดือนดี คุณจะเรียนไหม
สำหรับผม ผมเรียน เพราะคนอื่นไม่ดี ผมก็ยังประคองตัวเองให้ดีได้
เราพึ่งตัวเองเป็นที่ตั้งเพื่อช่วยเหลือสังคม ไม่ได้รอสังคมมาช่วยเหลือเราครับ
สังคมไม่ดีก็เปลี่ยนมันให้ดีขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเราครับ
2.การเรียน อาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง
ทุกที่มีอาจารย์ที่สอนดีและไม่ดีเสมอครับ แล้วแต่จะได้เรียนกับใคร
ตอนรุ่นพี่อาจารย์ดี ตอนคุณมาเรียนอาจารย์ออกคนอื่นมาสอนแทน อาจจะสอนไม่ดีก็ได้
แนะนำว่าพึ่งพาตนเอง อาจารย์ไม่ดี หาข้อมูลเรียนในเน็ตเพิ่มเติมได้ วีดีโอสอนสมัยนี้เยอะแยะครับ
ต่อให้โดนกดคะแนน จบมาเกรดไม่สวย แต่อาจารย์กดความรู้ในหัวเราไม่ได้ครับ
3.การหางานของทั้ง 2 ที่
บริษัทดูสถานศึกษาเป็นส่วนประกอบ สถานศึกษาไหนแข่งเข้ายาก iq เฉลี่ยก็สูง
คุณเตรียมความพร้อมในการสอบแข่งกับคนอื่น ก็แค่ดูว่าพื้นความรู้น่าเชื่อถือแค่ไหน
สองสถาบันนี้ไม่ต่างกันมากหรอกครับ
จากคำถาม 3 ข้อ ของคุณ ผมลอง Reverse Engineering ความคิดของคุณได้ว่า
คุณคงกลัวความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แต่ปัญหาคืออนาคตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
เพราะเวลาคือปริมาณของการเปลี่ยนแปลง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีเวลา ไม่มีเวลาก็ไม่มีอนาคต
คำถามคือทำไมถึงต้องกลัวความเปลี่ยนแปลง คาดเดาว่าคุณน่าจะไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือไม่ต้องการให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลง
แต่ขอแนะนำว่าอย่าได้กลัวการเปลี่ยนแปลง ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเองทำให้มนุษย์อยู่รอดเหนือสิ่งมีชีวิตอื่น
จงเรียนรู้ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองครับ เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ก็เปลี่ยนแปลงโลกได้
เขียนโปรแกรมสมองตัวเองได้ ก็เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สบายแล้วครับ
ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเลือกแค่ใกล้บ้านที่สุดแค่นั้นครับ เลยเลือกบางมด
เราจะฝากอนาคตไว้กับสถานศึกษาอย่างเดียวคงไม่ได้ สร้างอนาคตด้วยความสามารถในการเรียนรู้ของตัวเองด้วยครับ
จะเรียนที่ไหนส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน พื้นฐานอาจจะต่างกันเล็กน้อย หลักสูตรใหม่เก่าต่างกันนิดหน่อย
เทคโนโลยีเปลี่ยนไปไว จบมาความรู้หลายอย่างก็เปลี่ยนแล้ว ต้องเรียนรู้เพิ่มตลอดเวลา
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจบแล้วจะไปทำอะไร เวลาเรียนไปจะได้สร้างเครือข่ายความรู้ในสมอง ที่จะนำไปใช้ช่วยทำงานที่ต้องการได้
แน่นอนว่าเรียนจบไปหลายปี บางทีเราก็จำที่เรียนไปแล้วไม่ได้ แต่อย่างน้อยแมพไว้ว่าวิชานี้มันช่วยทำงานเรื่องไหนได้บ้าง
เวลาต้องทำงานที่ต้องใช้ความรู้นั้น เราก็รู้ว่าต้องหาความรู้หัวข้อเรื่องอะไรมาอ่านทบทวน แล้วก็ใช้ช่วยในการทำงานได้
ปล. ผมเรียนจบบางมด ลูกปีนี้ได้โควต้าเข้าวิศวะคอมที่บางมด บอกได้แค่ว่าที่บางมดอาหารอร่อยและถูกครับ
หากควบคุมตัวเองไม่ได้อาจจะเสียทรงได้ครับ อ้วนแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
ติดวิศวะคอม ลาดกระบัง กับ บางมดเลือกที่ไหนดีครับ
1.สังคม บรรยากาศรุ่นพี่ รุ่นน้องเป็นยังไงบ้าง
2.การเรียน อาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง
3.การหางานของทั้ง 2 ที่
มันจะต่างกันอย่างไรบ้างครับ