กรณี พาผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ ไปปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งการเดินทาง การรอคิว นานมาก อันนี้เราทำใจเเล้วรู้ดีว่าต้องหลายชั่วโมง ซึ่งก่อนไปเคยติดต่อสอบถามทางธนาคารแล้ว กรณีปิดบัญชีต้องให้เจ้าตัวเดินทางไปปิดบัญชีเอง บัญชีที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหว ตั้งเเต่ปี59 เเละการเดินทางเเละนั่งเป็นเวลานาน พอผู้ป่วยกลับมาที่บ้านเกิดอาการเหนื่อยเเละทรุดหนัก ซึ่งความผิดอยู่เรา ที่พาคนป่วยเดิน ปกติวันเวลที่รับยาหรือหมอนัด คุณหมอจะให้ญาติไปรับยาเเทน เหตุที่เกิดขึ้นคือ ทางเราไม่ทราบว่าตอนคนป่วยไปเปิดบัญชี คนป่วยใด้อนุญาตให้ทางธนาคารผูกเลขบัตรประชาชนเป็นพร้อมเพย์ ซึ่งด้วยความสะเพร่าของเราเองที่ไปสอบถามให้ละเอียด พอปิดบัญชี สรุปเลขบัตรประชาชนก็ยังผูกเป็นพร้อมเพย์ เราจึงโทรสอบถามทางธนาคาร ธนาคารจึงเเจ้งกับเราว่า ปิดบัญชีก็ต่างหาก ยกเลิกพร้อมเพย์ก็ต่างหาก ซึ่งกรณีนี้คุณต้องพาเจ้าของเลขบัตรประชาชนหรือเจ้าของบัญชีมายกเลิกที่ธนาคาร ด้วยตนเองเเละเจ้าหน้าที่ก็ยังถามว่า คุณไม่รู้หรือไงว่าปิดบัญชีก็ต้องบอกเจ้าหน้าที่ว่ายกเลิกพร้อมเพย์ด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ที่ปิดบัญชีก็ไม่ทราบเช่นกัน เเละถ้าคุณจะยกเลิกพร้อมเพย์ต้องพาผู้ป่วยมายกเลิกด้วยตนเอง หากกรณีมาไม่ ต้องมีเอกสารจากหน่วยงานที่ดูแลคนป่วย อาจเป็นเทศบาลที่รับผิดหรือโรงพยาบาลที่ดูเเล ในเมื่อกรณีแบบนี้ หากผู้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว ก็ถือว่าหมายเลขบัตรประชาชนที่ผูกเป็นพร้อมเพย์กับธนาคารเเห่งนี้เป็นโมฆะหรือไม่ ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางไปยกเลิกได้ เพราะสงสารผู้ป่วย เจ้าของบัญชีในกรณีเเปะโป้ง ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ไม่มีเเอพธนาคาร เราคงไม่พาคนไปทรมานเเล้ว สงสารคนป่วยมากๆ ด้วยความที่เราโง่เองที่ไม่สอบถามหรือแจ้งเจ้าที่ว่าต้องยกเลิกพร้อมเพย์ด้วย ต้องขออภัยกับธนาคารที่ทำให้เสียเวลาในการคุยติดต่อสอบถาม
ผู้สูงอายุ ปิดบัญชี