สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว(
https://ppantip.com/topic/41838282) ที่ไม่ได้ตั้งใจจะมารีวิว แต่ก็ตัดสินใจรีวิวในที่สุดเนื่องจากหาดูรีวิวไม่ค่อยมี
เลยตัดสินใจรีวิวค่ะ(รูปถ่ายมาได้ไม่เยอะเท่าที่อยากถ่าย แอบเสียดายเหมือนกัน)
ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์ขากลับของเรา โดยต่อเครื่องที่ Jeddah ประมาณ 4 ชม. 15 นาที ไฟลท์เราคือ SV845 และ SV215
สามาถทำเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าได้ 48 ชม.ก่อนบิน
สายการบินนี้เช็คอินที่ Row L และตั๋ว Business Basic จะได้น้ำหนักกระเป๋าที่ 2 ใบๆ ละ 32 กก. และได้สิทธิเข้าใช้ lounge ของการบินไทยที่
Concourse E ค่ะ
ในเลานจ์เราเลือกแค่นี้ค่ะ เพราะเดี๋ยวก็ต้องไปกินบนเครื่องอีก
ไฟลท์นี้มีป้ายบอกไว้เป็นกระดาษ A4 ตอนที่ตรวจบอร์ดดิ้งพาสด้วยนะคะว่า ห้ามเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ทุกชนิด
แถมตอนที่กำลังจะเดินขึ้นเครื่อง ก่อนถึงประตูเครื่องนั้น มีแอร์และสจ็วตตั้งโต๊ะตรวจกระเป็า สัมภาระและตัวเราอีกครั้งค่ะ
ซึ่งแอบงงนะ เพราะตอนขามาจากอัมสเตอร์ดัมส์ไม่เห็นจะมีตรวจแบบนี้เลย
ฃ
มีน้ำเปล่าขวดเล็กวางไว้ให้ค่ะ 1 ขวด
ตรงนี้คือ สามารถเก็บของเล็กๆ ได้นะคะ แล้งช่องกรอบสีดำๆ ที่เห็นก็คือไว้สำหรับปรับเก้าอี้ซึ่งเป็นระบบสัมผัสค่ะ
มาดูหูฟังกันค่ะ
มีเสิร์ฟเวลคัมดริ้งค์ให้ก่อนเลยนะคะ เลือกได้เลยค่ะ เราเลือกเป็นเลมอนมิ้นท์ เสิร์ฟพร้อมผ้าร้อนค่ะ
ไฟลท์นี้มีเมนูอาหารวางไว้ให้เลยนะคะ
จากนั้นแอร์และเชฟก็จะเดินแจก Dates และ กาแฟ Qahwa โดยจะแจก 2 รอบ แต่จะเดินวนแจกนะคะ
แล้วก็แจะ Amenity kit ค่ะ ซึ่งของผู้หญิงจะได้เป็นสีแดง ส่วนผู้ชายจะได้เป็นสีน้ำเงิน ของข้างในกระเป๋าต่างกันไม่กี่อย่างนะคะ
และ(อาจ)ไม่สามารถขอแลกสีได้ เนื่องจากเขาจัดมาพอดีสำหรับผู้โดยสารเลยค่ะ
ที่ทราบเพราะผดส.ชายหลังเรา อยากแลกเป็นสีแดงไปให้ภรรยาค่ะ แอร์บอกว่า ขออภัยนะคะ แล้วก็อธิบายผดส.ไปว่าเขาจัดชุดมาตามผดส.
แต่เรามีบินอีกไฟลท์ เราเลยลองถามแอร์ดู แล้วพอดีมีผดส.อยากขอเปลี่ยน เราเลยได้ของผู้ชายมาด้วยค่ะ
สีแดงของผู้หญิงจะมีกระจก ครีมล้างหน้า และหวีมาให้ค่ะ นี่คือสิ่งที่ในชุดของผู้ชายไม่มี
นี่ค่ะของผู้ชาย มีหวีไม้ ผ้าเปียกเช็ดแว่น นอกนั้นจะเหมือนชุดของผู้หญิง
เครื่องขึ้นได้สักพักมีเสริฟถั่วค่ะ
แล้วแอร์ก็จะมาถามว่าเราจะเลือกรับ อาหารและเครื่องดื่มอะไร แล้วมื้อเช้าอยากรับตอนไหนเลือกได้เลยค่ะ
Light dining เราเลือกข้าวผัดกะเพราไก่ย่างค่ะ ก่อนหน้าที่จะเสิร์ฟ แอร์จะมาทำการปูโต๊ะและวางผ้าที่ตักเราก่อนค่ะ
กินอิ่ม นอนหลับ ก็เหลือราวๆ 2 ชม. ก่อนเครื่องจะลงก็จะเสิร์ฟอีกมื้อค่ะ
นี่ค่ะ อาหารโลว์แคลฯ ที่เลือกไว้ อกไก่หลายชิ้นเลย
เครื่องดื่มเราเลือกเป็น Sumatra single origin ค่ะ
ก่อนเครื่องจะลง เราเข้าห้องน้ำไปแล้วนะคะรอบนึง แต่ดันปวดอีกตอนที่กำลังจะลงค่ะก็กะว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราเดินไปเข้าห้องน้ำตอนเครื่องลงแล้วก็ได้
ตรงนี้ กรุณาอย่าหาทำสำหรับคนที่อั้นไม่ได้อย่างเรานะคะ คือห้องน้ำไม่มีค่ะ คุณจะต้องผ่าน Security check ก่อนถึงจะเดินไปในส่วนอื่นๆ ในเทอร์มินอลได้และห้องน้ำก็จะอยู่ในตัวเทอร์มินอลค่ะ
แต่นะคะ มีแต่ค่ะ บางทีคุณเจอห้องน้ำก็จริงค่ะ แต่ห้องน้ำปิดค่ะ ซึ่งเราเจอทั้งขาไปและขากลับเลย เดินวนตามป้ายหาห้องน้ำจนเกือบเป็นวงกลมมั้งแต่ห้องน้ำปิด
ณ จุดนึงคือคิดว่า ไม่รอดละ ไหลแน่ แต่ก็รอดมาได้จนไปเจอห้องน้ำที่กำลังปิดทำความสะอาด จนเราต้องอ้อนวอนขอเขาเข้าค่ะ
จริงๆ เรามัวแต่มองป้ายหาห้องน้ำก่อน ถ้าเรามองป้ายหา Alfursan Lounge ซะตั้งแต่แรกก็จบแล้วค่ะ เพราะมันไม่ต้องเดินวนหาเลย
แค่เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอเลยค่ะ
นี่คือภาพในเทอร์มินอลค่ะ จากภาพนี้ Alfursan Lounge จะอยู่ข้างๆ ร้าน Sbarbo ค่ะ Starbucks มีอยู่ใกล้ๆ A26 หรือ A28 นี่แหล่ะค่ะถ้าจำไม่ผิด
แล้วเราก็มาใช้บริการ Alfursan Lounge สักทีค่ะ ซึ่งจะมีพนง.ทำการตรวจบอร์ดิ้งพาสก่อนเข้าใช้บริการ จากนั้นก็เดินผ่านเข้าไป
เราเห็นมีรับฝากสัมภาระด้วยนะคะ แต่ไม่เห็นมีใครอยู่เลย มีส่วนสำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้ทางขวามือก่อนจะเจอประตูนี้
ซึ่งมันคือประตูผ่านเข้าไปในส่วนต่างๆ ของ Alfursan Lounge ค่ะ
ต่อไปนี้คือภาพบางส่วนใน Alfursan Lounge นะคะ ใหญ่โตกว้างขวางค่ะ มีแยกส่วนต่างๆ ไว้ เช่น ห้องสำหรับดู TV&Sport ห้องนี้จะอยู่ตรงทางไปห้องน้ำค่ะ แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้
ห้องอาบน้ำก็มีนะคะ เราเห็นในห้องน้ำหญิง มี 2 ห้องค่ะ
มีมุมกาแฟนี้ให้ลองด้วยนะคะ มี 4 แบบค่ะ พอดีก็ไม่ได้รูปมาแบบชัดๆ อีก ขออภัยค่ะ
ก่อนจะถึงมุมอาหาร จะเจอมุมเครื่องดื่มเล็กๆ แบบนี้ค่ะ
ถัดจากมุมนี้ไปข้างในจะเป็นมุมอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ ช็อคโกแลต แล้วก็มุมสำหรับเด็กค่ะ
เราไม่ได้ถ่ายมุมอาหารมาเลยค่ะ เพราะคนเดินสลับไปมา ถ่ายไม่สะดวกเลยค่ะ
ตะกร้านี้ใหญ่มากค่ะ
นั่งไปพักใหญ่เริ่มหนาวจนต้องเอาเสื้อกันหนาวตัวหนามาใส่แล้วก็ลุกไปสั่ง Lemon&Ginger tea มาแก้หนาวสักถ้วยค่ะ
ที่นั่งที่เราเห็นและคิดว่าน่าจะทุกตัวมีปลั๊กไฟให้นะคะ มีช่องเสียบ USB ให้ด้วย
นั่งจนครบเวลา เราก็เดินไปที่เกทสำหรับไฟลท์ถัดไป
ไฟลท์นี้ไม่มีเมนูวางไว้ให้แล้วก็ไม่มีแจกนะคะ แต่แอร์จะเดินมาถามว่าเราจะรับอะไร มีตัวเลือกอะไรบ้าง
เวลคัมดริ้งค์รอบนี้เราเลือกเป็นสมูทธี้ค่ะ
เหมือนเดิมค่ะ แอร์และเชฟเดินแจก Dates และ Qahwa
ช่องนี้มันแอบอยู่ในช่องเก็บของนะคะ เปิดมาแล้วจะเจอค่ะ ซึ่งมันจะมีช่องเก็บของเล็กๆ อีกช่องโดยกดตรงที่กดที่เป็นสีเดียวกับเก้าอี้
(จากในรูปบนจะอยู่ใต้ขวดน้ำค่ะ)
นอกจากนี้ยังมีที่เก็บของอีกช่องนะคะ ใหญ่กว่า(ลึกกว่า) ทางด้านซ้ายมือ คือตรงที่วางแขน แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ
ไฟลท์นี้เสิร์ฟอาหาร 1 มื้อค่ะ
สรุปไฟลท์นี้ Jeddah - Amsterdam ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.กว่า
แล้วเราก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพค่ะ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ สวัสดีค่ะ
รีวิว Business Class สายการบิน Saudia เส้นทาง BKK-JED-AMS
เลยตัดสินใจรีวิวค่ะ(รูปถ่ายมาได้ไม่เยอะเท่าที่อยากถ่าย แอบเสียดายเหมือนกัน)
ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์ขากลับของเรา โดยต่อเครื่องที่ Jeddah ประมาณ 4 ชม. 15 นาที ไฟลท์เราคือ SV845 และ SV215
สามาถทำเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าได้ 48 ชม.ก่อนบิน
สายการบินนี้เช็คอินที่ Row L และตั๋ว Business Basic จะได้น้ำหนักกระเป๋าที่ 2 ใบๆ ละ 32 กก. และได้สิทธิเข้าใช้ lounge ของการบินไทยที่
Concourse E ค่ะ
ในเลานจ์เราเลือกแค่นี้ค่ะ เพราะเดี๋ยวก็ต้องไปกินบนเครื่องอีก
ไฟลท์นี้มีป้ายบอกไว้เป็นกระดาษ A4 ตอนที่ตรวจบอร์ดดิ้งพาสด้วยนะคะว่า ห้ามเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ทุกชนิด
แถมตอนที่กำลังจะเดินขึ้นเครื่อง ก่อนถึงประตูเครื่องนั้น มีแอร์และสจ็วตตั้งโต๊ะตรวจกระเป็า สัมภาระและตัวเราอีกครั้งค่ะ
ซึ่งแอบงงนะ เพราะตอนขามาจากอัมสเตอร์ดัมส์ไม่เห็นจะมีตรวจแบบนี้เลย
ฃ
มีน้ำเปล่าขวดเล็กวางไว้ให้ค่ะ 1 ขวด
ตรงนี้คือ สามารถเก็บของเล็กๆ ได้นะคะ แล้งช่องกรอบสีดำๆ ที่เห็นก็คือไว้สำหรับปรับเก้าอี้ซึ่งเป็นระบบสัมผัสค่ะ
มาดูหูฟังกันค่ะ
มีเสิร์ฟเวลคัมดริ้งค์ให้ก่อนเลยนะคะ เลือกได้เลยค่ะ เราเลือกเป็นเลมอนมิ้นท์ เสิร์ฟพร้อมผ้าร้อนค่ะ
ไฟลท์นี้มีเมนูอาหารวางไว้ให้เลยนะคะ
จากนั้นแอร์และเชฟก็จะเดินแจก Dates และ กาแฟ Qahwa โดยจะแจก 2 รอบ แต่จะเดินวนแจกนะคะ
แล้วก็แจะ Amenity kit ค่ะ ซึ่งของผู้หญิงจะได้เป็นสีแดง ส่วนผู้ชายจะได้เป็นสีน้ำเงิน ของข้างในกระเป๋าต่างกันไม่กี่อย่างนะคะ
และ(อาจ)ไม่สามารถขอแลกสีได้ เนื่องจากเขาจัดมาพอดีสำหรับผู้โดยสารเลยค่ะ
ที่ทราบเพราะผดส.ชายหลังเรา อยากแลกเป็นสีแดงไปให้ภรรยาค่ะ แอร์บอกว่า ขออภัยนะคะ แล้วก็อธิบายผดส.ไปว่าเขาจัดชุดมาตามผดส.
แต่เรามีบินอีกไฟลท์ เราเลยลองถามแอร์ดู แล้วพอดีมีผดส.อยากขอเปลี่ยน เราเลยได้ของผู้ชายมาด้วยค่ะ
สีแดงของผู้หญิงจะมีกระจก ครีมล้างหน้า และหวีมาให้ค่ะ นี่คือสิ่งที่ในชุดของผู้ชายไม่มี
นี่ค่ะของผู้ชาย มีหวีไม้ ผ้าเปียกเช็ดแว่น นอกนั้นจะเหมือนชุดของผู้หญิง
เครื่องขึ้นได้สักพักมีเสริฟถั่วค่ะ
แล้วแอร์ก็จะมาถามว่าเราจะเลือกรับ อาหารและเครื่องดื่มอะไร แล้วมื้อเช้าอยากรับตอนไหนเลือกได้เลยค่ะ
Light dining เราเลือกข้าวผัดกะเพราไก่ย่างค่ะ ก่อนหน้าที่จะเสิร์ฟ แอร์จะมาทำการปูโต๊ะและวางผ้าที่ตักเราก่อนค่ะ
กินอิ่ม นอนหลับ ก็เหลือราวๆ 2 ชม. ก่อนเครื่องจะลงก็จะเสิร์ฟอีกมื้อค่ะ
นี่ค่ะ อาหารโลว์แคลฯ ที่เลือกไว้ อกไก่หลายชิ้นเลย
เครื่องดื่มเราเลือกเป็น Sumatra single origin ค่ะ
ก่อนเครื่องจะลง เราเข้าห้องน้ำไปแล้วนะคะรอบนึง แต่ดันปวดอีกตอนที่กำลังจะลงค่ะก็กะว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราเดินไปเข้าห้องน้ำตอนเครื่องลงแล้วก็ได้
ตรงนี้ กรุณาอย่าหาทำสำหรับคนที่อั้นไม่ได้อย่างเรานะคะ คือห้องน้ำไม่มีค่ะ คุณจะต้องผ่าน Security check ก่อนถึงจะเดินไปในส่วนอื่นๆ ในเทอร์มินอลได้และห้องน้ำก็จะอยู่ในตัวเทอร์มินอลค่ะ
แต่นะคะ มีแต่ค่ะ บางทีคุณเจอห้องน้ำก็จริงค่ะ แต่ห้องน้ำปิดค่ะ ซึ่งเราเจอทั้งขาไปและขากลับเลย เดินวนตามป้ายหาห้องน้ำจนเกือบเป็นวงกลมมั้งแต่ห้องน้ำปิด
ณ จุดนึงคือคิดว่า ไม่รอดละ ไหลแน่ แต่ก็รอดมาได้จนไปเจอห้องน้ำที่กำลังปิดทำความสะอาด จนเราต้องอ้อนวอนขอเขาเข้าค่ะ
จริงๆ เรามัวแต่มองป้ายหาห้องน้ำก่อน ถ้าเรามองป้ายหา Alfursan Lounge ซะตั้งแต่แรกก็จบแล้วค่ะ เพราะมันไม่ต้องเดินวนหาเลย
แค่เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอเลยค่ะ
นี่คือภาพในเทอร์มินอลค่ะ จากภาพนี้ Alfursan Lounge จะอยู่ข้างๆ ร้าน Sbarbo ค่ะ Starbucks มีอยู่ใกล้ๆ A26 หรือ A28 นี่แหล่ะค่ะถ้าจำไม่ผิด
แล้วเราก็มาใช้บริการ Alfursan Lounge สักทีค่ะ ซึ่งจะมีพนง.ทำการตรวจบอร์ดิ้งพาสก่อนเข้าใช้บริการ จากนั้นก็เดินผ่านเข้าไป
เราเห็นมีรับฝากสัมภาระด้วยนะคะ แต่ไม่เห็นมีใครอยู่เลย มีส่วนสำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้ทางขวามือก่อนจะเจอประตูนี้
ซึ่งมันคือประตูผ่านเข้าไปในส่วนต่างๆ ของ Alfursan Lounge ค่ะ
ต่อไปนี้คือภาพบางส่วนใน Alfursan Lounge นะคะ ใหญ่โตกว้างขวางค่ะ มีแยกส่วนต่างๆ ไว้ เช่น ห้องสำหรับดู TV&Sport ห้องนี้จะอยู่ตรงทางไปห้องน้ำค่ะ แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้
ห้องอาบน้ำก็มีนะคะ เราเห็นในห้องน้ำหญิง มี 2 ห้องค่ะ
มีมุมกาแฟนี้ให้ลองด้วยนะคะ มี 4 แบบค่ะ พอดีก็ไม่ได้รูปมาแบบชัดๆ อีก ขออภัยค่ะ
ก่อนจะถึงมุมอาหาร จะเจอมุมเครื่องดื่มเล็กๆ แบบนี้ค่ะ
ถัดจากมุมนี้ไปข้างในจะเป็นมุมอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ ช็อคโกแลต แล้วก็มุมสำหรับเด็กค่ะ
เราไม่ได้ถ่ายมุมอาหารมาเลยค่ะ เพราะคนเดินสลับไปมา ถ่ายไม่สะดวกเลยค่ะ
ตะกร้านี้ใหญ่มากค่ะ
นั่งไปพักใหญ่เริ่มหนาวจนต้องเอาเสื้อกันหนาวตัวหนามาใส่แล้วก็ลุกไปสั่ง Lemon&Ginger tea มาแก้หนาวสักถ้วยค่ะ
ที่นั่งที่เราเห็นและคิดว่าน่าจะทุกตัวมีปลั๊กไฟให้นะคะ มีช่องเสียบ USB ให้ด้วย
นั่งจนครบเวลา เราก็เดินไปที่เกทสำหรับไฟลท์ถัดไป
ไฟลท์นี้ไม่มีเมนูวางไว้ให้แล้วก็ไม่มีแจกนะคะ แต่แอร์จะเดินมาถามว่าเราจะรับอะไร มีตัวเลือกอะไรบ้าง
เวลคัมดริ้งค์รอบนี้เราเลือกเป็นสมูทธี้ค่ะ
เหมือนเดิมค่ะ แอร์และเชฟเดินแจก Dates และ Qahwa
ช่องนี้มันแอบอยู่ในช่องเก็บของนะคะ เปิดมาแล้วจะเจอค่ะ ซึ่งมันจะมีช่องเก็บของเล็กๆ อีกช่องโดยกดตรงที่กดที่เป็นสีเดียวกับเก้าอี้
(จากในรูปบนจะอยู่ใต้ขวดน้ำค่ะ)
นอกจากนี้ยังมีที่เก็บของอีกช่องนะคะ ใหญ่กว่า(ลึกกว่า) ทางด้านซ้ายมือ คือตรงที่วางแขน แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ
ไฟลท์นี้เสิร์ฟอาหาร 1 มื้อค่ะ
สรุปไฟลท์นี้ Jeddah - Amsterdam ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.กว่า
แล้วเราก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพค่ะ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ สวัสดีค่ะ