เราอายุ 46 อาชีพรับราชการ ส่วนเขาอายุ 41 ทำงานเอกชน  แต่งงานมาได้ 17 ปี มีลูก 1 คน เป็นผู้ชาย อายุ 16 ปี   เขาก็เป็นตามแบบฉบัยผู้ชายทั่วไป กินเหล้า สังสรรบ้าง แต่ก็อยู่ในสายตาเพราะส่วนใหญ่ก็จะไปด้วยกัน  เคยมีเรื่องนอกใจคร้ังหนึ่งตอน 4-5 ปีก่อน (ผู้หญิงก็มีสามีแล้ว) พอเราจับได้ก็เลิก สังเกตดูก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยว่ายังทำอยู่  เรื่องนี้เราให้อภัยไปแล้ว 
        เรื่องนี้มีอยู่ว่าเมื่อ 4-5 เดือนก่อนเราจับได้ว่าเขาแอบเก็บเงินไว้อีกบัญชี  แต่ไม่รู้จำนวนเท่าไหร่ เขาไม่ยอมบอกไม่ยอมให้ดูบัญชี คิดว่าคงมีมากพอสมควร  บอกว่าที่ต้องแอบเก็บเพราะเราใช้เงินเปลือง เก็บเงินไม่อยู่  แต่ก่อนเราเข้าใจมาตลอดว่าเงินเดือนเขาน้อยกว่าเรามาก เขาจะให้แบ่งเงินเดือนให้เดือนละ 6-7-8 พัน แล้วว่าเขาจะได้ค่าคอมมากหรือน้อย ที่เหลือเขาก็ใช้จ่ายส่วนตัว (ไม่เคยบอกว่าเหลือเท่าไหร่)    ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้านเรารับผิดชอบหมด ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ (รายได้เราส่วนใหญ่หมดกับตรงนี้) ถ้าไปไหนด้วยกันเราก็เป็นคนจ่าย (ค่าอาหาร ค่าเหล้า ค่าน้ำมันรถ) บางเดือนใช้เงินเยอะเงินเดือนไม่พอจ่าย เราก็ต้องไปกดบัตรเครดิตมาใช้  เพราะเขาจะบอกว่าของเขาก็ไม่มี  พอจับได้ตอนนี้เขาก็ให้ค่าใช้จ่ายในบ้านเดือนละ 7-8 พัน  เเพิ่มในส่วนจ่ายค่าใช้จ่ายของลูกเดือนละ 3000  เราก็โอเคขึ้นมาบ้าง 
         แต่เมื่อวันก่อนไปเที่ยวด้วยกันบอกน้ำมันรถหมด ให้เราจ่ายเราก็จ่าย พอไปเจอเพื่อนล้วงกระเป๋าเงินออกมา มีเงินหลายพัน (โกหกอีกแล้ว)  และล่าสุดเหมือนคิดแผนได้ มาบอกว่าแม่เขาจะซื้อทองให้สองบาทเป็นของขวัญ  เราคิดว่าเขาคงหาทางใช้เงินที่แอบเก็บเองคนเดียว  เราไม่ได้พูดออกมา แต่มันลบออกจากหัวไม่ได้  เรารู้สึกลบกับเขาเรื่อยๆ  จนคิดว่ามันบั่นทอนความรู้สึกที่มีให้เขา  แต่ถ้าจะเลิกกันด้วยเหตุผลนี้ มันอ่อนไปไหมเปล่าค่ะ  /ลูกก็กำลังอยู่ในวันหัวเลี้ยวหัวต่อ กลัวเอาลูกไม่อยู่ (ลูกค่อนข้างกลัวและเชื่อฟังพ่อ) อีก 2 ปีต้องเรียนมหาลัย ค่าใช้จ่ายจะต้องเพิ่มขึ้นอีก  หรือเราคิดมากไป  เราควรทำอย่างไรดีค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ