ภูเก็ตเดินหน้าทำโรดโชว์ดึงต่างชาติเข้าเพิ่ม วางเป้าท่องเที่ยวโตร้อยละ 30 โกยรายได้พุ่งจากปีที่แล้ว 70%
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต เดินหน้าทำโรดโชว์ต่างประเทศดึงต่างชาติเข้าเพิ่ม ปักหมุดงาน TIB รักษาตลาดยุโรป พร้อมไปต่อลตะวันออกกลาง อินเดีย รัสเซีย วางเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้โตจากปีที่แล้ว 30% รายได้เพิ่ม 70%
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวทางการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในต่างประเทศ หรือการทำโรดโชว์ ภายหลังรับมอบเงินอุดหนุนจากนายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริการส่วนจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนโครงการ ITB Berlin 2023 และงาน PHUKET ROAD SHOW TO SAUDI ARABIA 2023 ว่า....👇
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ในการทำโรดโชว์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ในตลาดออสเตรเลีย อินเดีย และเกาหลี ในปีนี้ก็เช่นกัน เมื่อเร็วๆนี้ อบจ.ได้มอบเงินสนับสนุนผ่านมาทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อไปทำตลาดในงานใหญ่ระดับโลกอีก 2 งาน งบประมาณ 5 ล้านบาท ในงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานใหญ่และสำคัญที่สุดงานหนึ่งในโลก ทุกปีที่ผ่านมา ภูเก็ตจะต้องไปปักหมุดที่งานนี้ ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน และงาน PHUKET ROAD SHOW TO SAUDI ARABIA 2023 ในช่วงต้นปีนี้ เพื่อรุกตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดใหม่ของภูเก็ต ที่จะมาท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซัน หรือช่วงหน้าฝน
นอกจากนี้ ยังวางแผนที่ไปจะทำโรดโชว์ในประเทศอื่นๆ ต่อ หลังจากงานที่ซาอุดีอาระเบียแล้ว จะไปงานที่ประเทศอินเดีย ถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าตลาดอื่นๆ ตามมาด้วยตลาดเซาท์แอฟริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย และตลาดในกลุ่ม CIS เพื่อรุกตลาดใหม่และรักษาตลาดเดิมไว้ ทั้งในยุโรป และเอเชีย ทั้งนี้เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า การโรดโชว์ในต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ทางสมาคมโดยการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ภูเก็ต ได้ไปทำตลาดในหลายประเทศและประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เช่น หลังจากที่ไปทำโรดโชว์ที่ออสเตรเลีย มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเติบโตจากปี 2562 กว่า 100% ตลาดอินเดียตั้งเป้าไว้ 100,000 คน แต่เข้ามาเกิน 200,000 คน หลังจากนั้นจึงได้หารือกับ อบจ.เพื่อขอการสนับสนุนและวางแผนทำตลาดท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“หลังจากโควิดระบาดภูเก็ตเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าการท่องเที่ยวจะค่อยๆ กลับมาปีละประมาณ 20% แต่ปรากฏว่าในปี 2565 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวของภูเก็ตเติบโตเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ และคาดว่าในปี 2566 นี้ การท่องเที่ยวของภูเก็ตจะเติบโตเพิ่มจากปี 2565 ประมาณ 30% รายได้เพิ่มขึ้น 70%” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าว
และที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตในขณะนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงมาก แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาในแง่ของจำนวนประมาณ 20-30% แต่รายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น 40-50% จึงอยากให้ผู้ประกอบการรักษาตลาดในจุดนี้ไว้ให้ยั่งยืนที่สุด ด้วยการทำให้ภูเก็ตเป็นเดสติเนชันที่มีคุณภาพ รวมไปถึงการบริการด้านต่างๆ มีคุณภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตนั้นยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป รัสเซีย ในช่วงไฮซีซัน และกลุ่มอินเดีย รวมไปถึงตะวันออกกลาง เอเชีย ออสเตรเลีย จะเข้ามาช่วงกรีนซีซันหรือช่วงหน้าฝน แต่ที่เข้ามาตลอดทั้งปี คือ นักท่องเที่ยวจีน ที่ขณะนี้ทางการจีนได้ปล่อยให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจีนได้ทยอยเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตแล้ว แต่ในระยะแรกอาจะเข้ามาไม่มากนัก จากจำนวนเที่ยวบินและที่นั่งบนเครื่องบินที่จะบินเข้ามา
https://mgronline.com/south/detail/9660000007630
“ประยุทธ์” ยกความสำเร็จภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รัฐบาลไม่ท้อ คิดจนหัวจะแตกแล้ว
6 มิ.ย. 2565 18:13 น.
“พล.อ.ประยุทธ์” ตรวจราชการภูเก็ต ชูความสำเร็จแซนด์บ็อกซ์ ความภาคภูมิใจคนไทย ชี้ ไทยไม่ได้ด้อยกว่าใคร ฝากร่วมกันรักและเทิดทูนสถาบันชาติ บอก เป็นนายกฯ ใช่ว่าจะรู้ทุกเรื่อง ต้องถามคนโน้นคนนี้
วันที่ 6 มิ.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ภูเก็ต พร้อม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในเวลา 13.00 น. โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ข้าราชการ และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 และนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ร่วมต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่มาต้อนรับ พร้อมระบุว่า “จำได้ทุกคน จำหน้าได้” พร้อมให้กำลังใจว่า “สู้เขาได้อยู่ แต่ก็แข่งกับเขาให้ได้ก็แล้วกัน” จากนั้นเข้าไปยังห้องรับรองและพูดคุยเป็นการส่วนตัวประมาณ 5 นาที
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทักทายนักท่องที่ยว และขอบคุณพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต หลังได้รับรายงานมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้นหลายเที่ยวบิน 2-3 พันราย ขอให้ดูแลและอำนวยความสะดวกดีๆ อย่าให้เกิดปัญหาอะไรขึ้น มีอะไรก็ขอให้บอกมา จากนั้นจึงเดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยตาอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กม 9898 ภูเก็ต ไปยังโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยทะเบียนรถยนต์ที่นายกรัฐมนตรีใช้ในพื้นที่ยังคงได้รับความสนใจของนักเสี่ยงโชค มีรายงานว่าเลขดังกล่าวถูกซื้อจนเกลี้ยงแผงแล้ว
ที่โรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร พล.อ.ประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมรับฟังรายงานารจัดการการศึกษาแบบมีส่วนร่วมว่าด้วยความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน และเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยตัวแทน 4 หน่วยงานร่วมลงนามและพบปะผู้นำท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานด้านการศึกษา และมอบนโยบายการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม ว่า จ.ภูเก็ต ถือเป็นหน้าตาประเทศ เราได้ทำให้ภูเก็ตก้าวข้ามโควิด-19 เป็นจังหวัดแรกที่เราทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จนสำเร็จ น่าภาคภูมิใจ และสิ่งที่เราทำทั่วโลกรับรู้ ผู้นำแต่ละประเทศชื่นชม นำไปเป็นแบบอย่าง แม้เราได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง เจอปัญหาโลก เจอความผันผวน ท้าทาย แต่จิตใจพวกเราไม่เคยท้อ ตนได้ฟังรายงานมีความสุข มีกำลังใจให้ได้ทำต่อไป ทำให้ได้รับแรงบันดาลใจ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือกัน
“รัฐบาลทำทุกอย่างแม้จะเผชิญปัญหามากมาย แต่เราไม่ทิ้งเรื่องการศึกษา เพราะนี่คืออนาคตของประเทศไทย สิ่งที่ทำวันนี้คืออนาคตของพวกเรา ทั้งนี้ พื้นฐานประเทศเราไม่มีด้อยกว่าใคร ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของเราหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่มีประเทศไหนที่เราน้อยหน้ากว่าเขา สิ่งเหล่านี้จะต้องให้เกิดในจิตใจเด็กของเราให้เขาภูมิใจ หน้าที่และสิทธิมาด้วยกันเสมอ และเรามี 3 สถาบันหลักของประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังให้ทุกคนได้เข้าถึงประวัติศาสตร์ ศาสนา สถาบันหลักของเรา เราทิ้งไม่ได้ สังคมแห่งการแบ่งปัน ช่วยเหลือ เห็นใจซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้อย่าให้ถูกทำลายโดยเด็ดขาด หลายอย่างรัฐบาลทุ่มเทอย่างหนัก หลายอย่างอยู่ในกระบวนการ และทำสำเร็จไปบ้าง จะทำใหม่บ้าง”
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องงบประมาณ เข้าใจว่ามีหลายส่วนที่เพิ่งมีการอภิปรายไปรัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งท้องถิ่น จังหวัด ส่วนกลางต้องไปด้วยกัน หลังจากการพิจารณางบประมาณมา ถ้ามีงบประมาณที่ถูกตัดทอนก็จะมาเติมส่วนที่ขาดได้ในจุดที่จำเป็น นายกฯ ให้ความสำคัญท้องถิ่น หลายอย่างรู้ปัญหาอยู่ตรงไหน ต้องช่วยกันทั้งคู่ ขอให้นายกฯ ท้องถิ่น ทำให้สำเร็จในสิ่งที่พูด วันหน้าก็มาเป็นนายกฯ อย่างตน ขอให้สิ่งที่ท่านทำเป็นกุศล ทำให้คนที่เดือดร้อนคนที่ลำบากดีขึ้น วันนี้ถึงเวลาที่ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ มากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป
“การที่บอกว่ารัฐบาลจะไม่ช่วย ให้แต่คนอื่นช่วยมันไม่ใช่ มันต้องไปด้วยกันคนละไม้คนละมือ เพราะนี่คือแผ่นดินของเรา ต้องปรับวิธีการเรียนการสอน ต้องสอนให้เด็กมีหลักคิด คนเราถ้าขาดหลักคิดใช้ตำราอย่างเดียววันหน้าจะคิดยาก คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น คิดแล้วต้องทำให้ได้ อย่างผมคิดจนหัวจะแตกอยู่แล้ว ผมเป็นนายกฯ ไม่ใช่ว่าจะรู้ทุกเรื่อง ก็ถามคนโน้นคนนี้มา และนำมาหารือ ซึ่งผมทำทุกอย่างอยู่”
อย่างไรก็ตามในช่วงท้าย นักเรียนจากโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร ร่วมกันร้องเพลง บ้านเกิดเมืองนอน ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเด็กๆ ระบุว่าซ้อมมา 3 วัน โดยนายกฯ เดินเข้าไปยังกลุ่มเด็กๆ ร้องเพลงคลอไปด้วย พร้อมกล่าวว่า เราต้องรู้จักว่าบ้านเกิดเมืองนอนของเราคือที่ไหน ที่นี่คือประเทศไทย และนี่คือธงชาติไทย ที่เราจะต้องร่วมกันรักเทิดทูนสถาบันชาติกันต่อไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/2412095
ภูเก็ตรอดแล้ว...ประเทศไทยก็รอดจากวิกฤตไปด้วยค่ะ
ก็เพราะนายกฯลุงตู่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว จะฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ท่ามกลางนักการเมืองฝ่ายค้านที่ขัดแข้งขัดขา
ผลงานรัฐบาลลุงตู่...ถ้าพลาดก็โดนถล่มที่ตัวลุงตู่
แต่งานนี้กลับเดินหน้าฉลุย ได้ผลสำเร็จตามเป้าหมายดีวันดีคืน ตามนโยบาย V-Shape
ก็ต้องให้เครดิตนายกฯลุงตู่สิคะ....
🌿มาลาริน🌿ภูเก็ตเดินหน้าโรดโชว์ดึงต่างชาติ วางเป้าโต30%รายได้เพิ่ม70%/ความสำเร็จภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในอดีตที่รบ.ไม่ท้อ
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต เดินหน้าทำโรดโชว์ต่างประเทศดึงต่างชาติเข้าเพิ่ม ปักหมุดงาน TIB รักษาตลาดยุโรป พร้อมไปต่อลตะวันออกกลาง อินเดีย รัสเซีย วางเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้โตจากปีที่แล้ว 30% รายได้เพิ่ม 70%
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวทางการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในต่างประเทศ หรือการทำโรดโชว์ ภายหลังรับมอบเงินอุดหนุนจากนายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริการส่วนจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนโครงการ ITB Berlin 2023 และงาน PHUKET ROAD SHOW TO SAUDI ARABIA 2023 ว่า....👇
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ในการทำโรดโชว์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ในตลาดออสเตรเลีย อินเดีย และเกาหลี ในปีนี้ก็เช่นกัน เมื่อเร็วๆนี้ อบจ.ได้มอบเงินสนับสนุนผ่านมาทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อไปทำตลาดในงานใหญ่ระดับโลกอีก 2 งาน งบประมาณ 5 ล้านบาท ในงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานใหญ่และสำคัญที่สุดงานหนึ่งในโลก ทุกปีที่ผ่านมา ภูเก็ตจะต้องไปปักหมุดที่งานนี้ ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน และงาน PHUKET ROAD SHOW TO SAUDI ARABIA 2023 ในช่วงต้นปีนี้ เพื่อรุกตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดใหม่ของภูเก็ต ที่จะมาท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซัน หรือช่วงหน้าฝน
นอกจากนี้ ยังวางแผนที่ไปจะทำโรดโชว์ในประเทศอื่นๆ ต่อ หลังจากงานที่ซาอุดีอาระเบียแล้ว จะไปงานที่ประเทศอินเดีย ถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าตลาดอื่นๆ ตามมาด้วยตลาดเซาท์แอฟริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย และตลาดในกลุ่ม CIS เพื่อรุกตลาดใหม่และรักษาตลาดเดิมไว้ ทั้งในยุโรป และเอเชีย ทั้งนี้เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า การโรดโชว์ในต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ทางสมาคมโดยการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ภูเก็ต ได้ไปทำตลาดในหลายประเทศและประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เช่น หลังจากที่ไปทำโรดโชว์ที่ออสเตรเลีย มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเติบโตจากปี 2562 กว่า 100% ตลาดอินเดียตั้งเป้าไว้ 100,000 คน แต่เข้ามาเกิน 200,000 คน หลังจากนั้นจึงได้หารือกับ อบจ.เพื่อขอการสนับสนุนและวางแผนทำตลาดท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“หลังจากโควิดระบาดภูเก็ตเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าการท่องเที่ยวจะค่อยๆ กลับมาปีละประมาณ 20% แต่ปรากฏว่าในปี 2565 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวของภูเก็ตเติบโตเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ และคาดว่าในปี 2566 นี้ การท่องเที่ยวของภูเก็ตจะเติบโตเพิ่มจากปี 2565 ประมาณ 30% รายได้เพิ่มขึ้น 70%” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าว
และที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตในขณะนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงมาก แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาในแง่ของจำนวนประมาณ 20-30% แต่รายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น 40-50% จึงอยากให้ผู้ประกอบการรักษาตลาดในจุดนี้ไว้ให้ยั่งยืนที่สุด ด้วยการทำให้ภูเก็ตเป็นเดสติเนชันที่มีคุณภาพ รวมไปถึงการบริการด้านต่างๆ มีคุณภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตนั้นยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป รัสเซีย ในช่วงไฮซีซัน และกลุ่มอินเดีย รวมไปถึงตะวันออกกลาง เอเชีย ออสเตรเลีย จะเข้ามาช่วงกรีนซีซันหรือช่วงหน้าฝน แต่ที่เข้ามาตลอดทั้งปี คือ นักท่องเที่ยวจีน ที่ขณะนี้ทางการจีนได้ปล่อยให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจีนได้ทยอยเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตแล้ว แต่ในระยะแรกอาจะเข้ามาไม่มากนัก จากจำนวนเที่ยวบินและที่นั่งบนเครื่องบินที่จะบินเข้ามา
https://mgronline.com/south/detail/9660000007630
“ประยุทธ์” ยกความสำเร็จภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รัฐบาลไม่ท้อ คิดจนหัวจะแตกแล้ว
6 มิ.ย. 2565 18:13 น.
“พล.อ.ประยุทธ์” ตรวจราชการภูเก็ต ชูความสำเร็จแซนด์บ็อกซ์ ความภาคภูมิใจคนไทย ชี้ ไทยไม่ได้ด้อยกว่าใคร ฝากร่วมกันรักและเทิดทูนสถาบันชาติ บอก เป็นนายกฯ ใช่ว่าจะรู้ทุกเรื่อง ต้องถามคนโน้นคนนี้
วันที่ 6 มิ.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ภูเก็ต พร้อม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในเวลา 13.00 น. โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ข้าราชการ และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 และนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ร่วมต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่มาต้อนรับ พร้อมระบุว่า “จำได้ทุกคน จำหน้าได้” พร้อมให้กำลังใจว่า “สู้เขาได้อยู่ แต่ก็แข่งกับเขาให้ได้ก็แล้วกัน” จากนั้นเข้าไปยังห้องรับรองและพูดคุยเป็นการส่วนตัวประมาณ 5 นาที
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทักทายนักท่องที่ยว และขอบคุณพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต หลังได้รับรายงานมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้นหลายเที่ยวบิน 2-3 พันราย ขอให้ดูแลและอำนวยความสะดวกดีๆ อย่าให้เกิดปัญหาอะไรขึ้น มีอะไรก็ขอให้บอกมา จากนั้นจึงเดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยตาอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กม 9898 ภูเก็ต ไปยังโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยทะเบียนรถยนต์ที่นายกรัฐมนตรีใช้ในพื้นที่ยังคงได้รับความสนใจของนักเสี่ยงโชค มีรายงานว่าเลขดังกล่าวถูกซื้อจนเกลี้ยงแผงแล้ว
ที่โรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร พล.อ.ประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมรับฟังรายงานารจัดการการศึกษาแบบมีส่วนร่วมว่าด้วยความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน และเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยตัวแทน 4 หน่วยงานร่วมลงนามและพบปะผู้นำท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานด้านการศึกษา และมอบนโยบายการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม ว่า จ.ภูเก็ต ถือเป็นหน้าตาประเทศ เราได้ทำให้ภูเก็ตก้าวข้ามโควิด-19 เป็นจังหวัดแรกที่เราทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จนสำเร็จ น่าภาคภูมิใจ และสิ่งที่เราทำทั่วโลกรับรู้ ผู้นำแต่ละประเทศชื่นชม นำไปเป็นแบบอย่าง แม้เราได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง เจอปัญหาโลก เจอความผันผวน ท้าทาย แต่จิตใจพวกเราไม่เคยท้อ ตนได้ฟังรายงานมีความสุข มีกำลังใจให้ได้ทำต่อไป ทำให้ได้รับแรงบันดาลใจ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือกัน
“รัฐบาลทำทุกอย่างแม้จะเผชิญปัญหามากมาย แต่เราไม่ทิ้งเรื่องการศึกษา เพราะนี่คืออนาคตของประเทศไทย สิ่งที่ทำวันนี้คืออนาคตของพวกเรา ทั้งนี้ พื้นฐานประเทศเราไม่มีด้อยกว่าใคร ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของเราหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่มีประเทศไหนที่เราน้อยหน้ากว่าเขา สิ่งเหล่านี้จะต้องให้เกิดในจิตใจเด็กของเราให้เขาภูมิใจ หน้าที่และสิทธิมาด้วยกันเสมอ และเรามี 3 สถาบันหลักของประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังให้ทุกคนได้เข้าถึงประวัติศาสตร์ ศาสนา สถาบันหลักของเรา เราทิ้งไม่ได้ สังคมแห่งการแบ่งปัน ช่วยเหลือ เห็นใจซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้อย่าให้ถูกทำลายโดยเด็ดขาด หลายอย่างรัฐบาลทุ่มเทอย่างหนัก หลายอย่างอยู่ในกระบวนการ และทำสำเร็จไปบ้าง จะทำใหม่บ้าง”
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องงบประมาณ เข้าใจว่ามีหลายส่วนที่เพิ่งมีการอภิปรายไปรัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งท้องถิ่น จังหวัด ส่วนกลางต้องไปด้วยกัน หลังจากการพิจารณางบประมาณมา ถ้ามีงบประมาณที่ถูกตัดทอนก็จะมาเติมส่วนที่ขาดได้ในจุดที่จำเป็น นายกฯ ให้ความสำคัญท้องถิ่น หลายอย่างรู้ปัญหาอยู่ตรงไหน ต้องช่วยกันทั้งคู่ ขอให้นายกฯ ท้องถิ่น ทำให้สำเร็จในสิ่งที่พูด วันหน้าก็มาเป็นนายกฯ อย่างตน ขอให้สิ่งที่ท่านทำเป็นกุศล ทำให้คนที่เดือดร้อนคนที่ลำบากดีขึ้น วันนี้ถึงเวลาที่ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ มากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป
“การที่บอกว่ารัฐบาลจะไม่ช่วย ให้แต่คนอื่นช่วยมันไม่ใช่ มันต้องไปด้วยกันคนละไม้คนละมือ เพราะนี่คือแผ่นดินของเรา ต้องปรับวิธีการเรียนการสอน ต้องสอนให้เด็กมีหลักคิด คนเราถ้าขาดหลักคิดใช้ตำราอย่างเดียววันหน้าจะคิดยาก คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น คิดแล้วต้องทำให้ได้ อย่างผมคิดจนหัวจะแตกอยู่แล้ว ผมเป็นนายกฯ ไม่ใช่ว่าจะรู้ทุกเรื่อง ก็ถามคนโน้นคนนี้มา และนำมาหารือ ซึ่งผมทำทุกอย่างอยู่”
อย่างไรก็ตามในช่วงท้าย นักเรียนจากโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร ร่วมกันร้องเพลง บ้านเกิดเมืองนอน ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเด็กๆ ระบุว่าซ้อมมา 3 วัน โดยนายกฯ เดินเข้าไปยังกลุ่มเด็กๆ ร้องเพลงคลอไปด้วย พร้อมกล่าวว่า เราต้องรู้จักว่าบ้านเกิดเมืองนอนของเราคือที่ไหน ที่นี่คือประเทศไทย และนี่คือธงชาติไทย ที่เราจะต้องร่วมกันรักเทิดทูนสถาบันชาติกันต่อไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/2412095
ภูเก็ตรอดแล้ว...ประเทศไทยก็รอดจากวิกฤตไปด้วยค่ะ
ก็เพราะนายกฯลุงตู่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว จะฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ท่ามกลางนักการเมืองฝ่ายค้านที่ขัดแข้งขัดขา
ผลงานรัฐบาลลุงตู่...ถ้าพลาดก็โดนถล่มที่ตัวลุงตู่
แต่งานนี้กลับเดินหน้าฉลุย ได้ผลสำเร็จตามเป้าหมายดีวันดีคืน ตามนโยบาย V-Shape
ก็ต้องให้เครดิตนายกฯลุงตู่สิคะ....