เทคนิคการเรียนมหาวิทยาลัย ให้มีความสุขและได้เกรดดี or ได้เกียรตินิยม เวอร์ชั่นแบ่งเบาภาระสมอง

เราจะมาแชร์เทคนิคการเรียน ที่อาจจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ คน
ตอนแรก เราไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องเกรดไว้เลยค่ะ แต่พอผลออกมามันก็ดีกว่าที่เราคาดไว้มากๆ
จึงขอรวบรวม เทคนิคต่างๆ ไว้ดังนี้ค่ะ

ป.ล. 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ป.ล. 2 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

💗 1. ทัศนคติต่อการเรียน เป็นสิ่งสำคัญ 💗

🤍เราอาจจะแปลกกว่าหลายๆ คน คือเราไม่เคยตั้งเป้าเรื่องเกรดไว้เลยว่าต้องได้ตัวเลขเท่าไหร่ 
เพราะเป็นคนเรียนปานกลาง + เป็นคนชิลล์ๆ ไม่ชอบความเครียด

คิดเอาซะว่าไหนๆ มีโอกาสได้เรียนก็ทำเต็มที่ .... จะตั้งใจเรียนจริงๆ !!
แล้วก็จะไม่แข่งกับใคร เพราะคิดแบบนั้นมันไม่สบายใจอ่ะ 555.... มันก็เลยทำให้เราไม่เครียด เป็นคนลั้นลาแฮปปี้

( แต่สำหรับคนที่ชอบความท้าทาย การตั้งเป้าก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน แต่ต้องจัดการกับสภาพจิตใจตัวเองให้ได้นะเวลาเฟล ) 
สำหรับเรา ไม่คาดหวัง = ความสุข
เลย เอาเวลาไปทุ่มเทกับการทำเหตุดีกว่า 

----------------------------------------------------------
💗 2. Course Syllabus (ประมวลรายวิชา) สำคัญมากกก 💗

🤍มันคือชีทของแต่ละวิชา ที่บอกรายละเอียดไว้หมด ว่าในวิชานั้น เก็บคะแนนยังไง
วัตถุประสงค์ของการเรียน เน้นเนื้อหาตรงไหน จะทดสอบตรงไหนบ้าง ฯลฯ
ถ้าอ่านใบนี้แตก  จะทำให้เราโฟกัสถูกจุด ว่าเราควรจะไปศึกษาเนื้อหาบทไหน
หรือแม้กระทั่งข้อสอบจะออกอะไร สามารถเดาได้จากในนี้ (ก็เพิ่งมาอ๋อตอนเรียนจบ)
ก่อนสอบ หรือก่อนเข้าเรียนอ่านเถอะ......... เพราะจะทำให้เราได้วางแผนการเรียน ล่วงหน้าได้

----------------------------------------------------------
💗 3. ทำไมต้องอ่านก่อนเรียน ? 💗

🤍การอ่านหนังสือมาก่อนเรียน หรือศึกษาเรื่องนั้นๆ มาก่อน.... เป็นการใส่ข้อมูลผ่านตา ทำให้เรามีข้อมูลเก็บไว้ในใจล่วงหน้าก่อน

ทำให้เวลาเข้าห้องเรียน เราไปได้ยินเรื่องนั้นอีกครั้ง สติก็จะลากข้อมูลที่เราใส่ไว้ ออกมารับการกระทบ 
เป็นการตอกย้ำ ทำให้เราเข้าใจบทเรียนมากขึ้น........ และไม่เปลืองพลังงานในการเรียนในห้อง

การอ่านล่วงหน้าโดยที่เราไม่รู้เรื่องนั้นมาก่อน ให้อ่านกวาดๆ ไม่ต้องพยายามทำความเข้าใจทุกตัวอักษร
หรือถ้าไม่มีเวลา อ่านจับใจความสำคัญหรือหัวข้อ ไฮไลท์ไว้ก็ได้ค่ะ

----------------------------------------------------------
💗 4. ใช้ไหวพริบ** ในการทำข้อสอบ / ทำโปรเจค / ทำการบ้าน 💗💗💗💗

🤍หลายๆ คนเข้าใจว่า มันต้องทำอะไรให้ยากๆ ถึงจะได้คะแนนเยอะๆ ไม่จริงเสมอไป !!!!
เวลาต้องสอบข้อเขียนปลายเปิด หรือการเขียนรายงาน พยายามอย่าเลือกหัวข้อยากๆ หรือพิศดารซับซ้อน หรือหลุดออกไปจากวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ (ยกเว้นคนชอบความท้าทาย) 

ให้หาหัวข้อเบสิคง่ายๆ เรียบเรียงแล้วคนอ่าน (คนตรวจข้อสอบ) เข้าใจ และอ่านง่าย ตรงตามวัตุประสงค์ที่แต่ละวิชาวัดผล

ตัวอย่าง 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวอย่าง 2 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวอย่าง 3 
 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

----------------------------------------------------------
💗 5. มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาจารย์ + สังเกตอาจารย์ แต่ละคน*******

🤍(ในทางที่ไม่ผิดศีลธรรมนะคะ) ..... คือ เวลาจบชั้นเรียน    ถ้าอาจารย์ดูไม่เหนื่อยจนเกินไป เราก็จะมีเข้าไปถามบ้าง ชวนคุยบ้าง ตรงที่ไม่เข้าใจ
เทคนิคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค   แอบเก็งข้อสอบไว้ + มีชั้นเชิงในการถาม ลองถามอาจารย์ว่าควรอ่านตรงไหนเป็นพิเศษ (อ. แต่ละคนไม่เหมือนกันนะ ใช้ไม่ได้กับทุกคน สแกนกันเองเองนะ)  .... ทำให้เราพอรู้แนว ที่จะวางแผนการอ่าน การสอบต่างๆ

และ (ตรงนี้สำคัญ) รู้แนว อ. แต่ละคนว่าท่านมีความถนัด+สนใจด้านไหน ให้เราแอบไปค้นหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ .. แล้วเวลาเขียนรายงาน หรือข้อสอบข้อเขียน ให้แอบหยอดเรื่องนั้นลงไปพอสังเขป เพื่อสร้างความประทับจิต เราว่าช่วยได้อ่ะ เพราะฟีดแบคที่ได้กลับมาดี 555555555555

----------------------------------------------------------

💗 7.  ที่นั่งในห้องก็สำคัญ

🤍 นั่งหน้า - หลัง มีข้อดีข้อเสียแต่ละแบบ
นั่งหน้า ข้อดี -- **** ไม่มีใครมายุกยิกๆๆ ด้านหน้าเรา ทำให้โฟกัสการเรียนได้ดีกว่า ... แต่บางครั้งก็แอบกดดันเล็กน้อย

แต่ก็ไม่ใช่ทุกวิชาที่เรานั่งหน้า .... หลายๆ ครั้งวิชาสบายๆ ก็ชอบไปนั่งกับเพื่อนโซนหลังๆ มันผ่อนคลายดี 
ถ้ามีคนตอบเก่งๆ อยู่แถวนั่นจะช่วยเราได้เยอะเลย....  เวลาเราไม่เข้าใจ เพื่อนเหล่านี้จะช่วยอธิบายให้เราได้หากนั่งใกล้ๆ กัน

เพื่อนก็สำคัญนะ อย่าทำตัวแข่งกับใครหรือเห็นแก่ตัว...... ให้เป็นคนน่ารัก จะมีเพื่อนดีๆ ที่แวดล้อมเยอะมากกกก และจะช่วยกันเป็นกำลังใจให้กันได้อย่างดี (หรือเราโชคดีไม่รู้ที่เจอเพื่อนดีๆ ในชั้น)

----------------------------------------------------------

สรุป

เราคิดว่าที่เราได้เกรดโอเค อาจะเพราะเป็นที่คณะเราไม่ได้ยาก
และเราก็ไม่ได้มีปัญหาในการเงินเท่าไหร่ (แต่ก็ยังต้องหางานพิเศษทำบ้างเหมือนกัน ถึงจะได้กินอะไรอร่อยๆ บ้าง ชาไข่มุก ขนมเค้กนี่นานๆ จะได้กิน)

เห็นใจหลายๆ คนเหมือนกันว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการรับกับปัญหาการเงิน และครอบครัวต่างๆ ในช่วงเรียน
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ และลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้นะคะ......... หลายๆ ข้อก็แบ่งเบาภาระสมองได้เยอะเลย

ขอบคุณค่ะ อมยิ้ม02
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่