สวัสดีค่ะ ห่างหายไปนานกับการมาแชร์เรื่องราวประสบการณ์เที่ยวของตัวเองและคุณแฟน กลับมาแล้วค่ะ 
เริ่มต้นที่ พังงาและภูเก็ตค่ะ ทริปนี้ 4 คืน 4 วัน  บางคนคิดเอ้าทำไมไม่ 4 คืน 5 วัน ก็.....อีกวันเดินทางกลับค่ะไม่ได้เที่ยวเลยเป็นที่มาของ 
4 คืน 4 วัน

        ทริปนี้เกิดขึ้นโดยการจองที่พักเสม็ดนางซีไว้นานถึง 2 ปีแต่ไม่มีเวลา ( ที่พักห้องที่จองมีเพียงห้องเดียว )  จองไว้นานขนาดนี้ก็ต้องไปแล้วป่ะ
ไปค่ะ เริ่มถามวันที่ว่างกับพนักงาน ( ข้ามบทสนทนาไป ) สรุปเลยค่ะห้องที่จองไว้ไม่ว่างตรงกับที่ จขกท. ไปเลยทำการจองห้องใหม่
พัก 2 คืนแต่ก็ยากอีกค่ะไม่ได้ห้องเดิม ก็ต้องพักคนล่ะเรทราคา ไว้มาดูกันค่ะว่าห้องได้พักแบบไหนยังไงบ้าง

       ต้องบอกก่อนนะคะว่าเวลา จขกท. เดินทางจะจองที่พักหรือรถเช่าไว้ล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง ไม่มีการ Walk-in ป้องกันการเกิดปัญหาที่พักไม่มีรถไม่ว่าง

วันแรก

         เริ่มต้นที่สนามบินก็เช่นเคยเหมือนที่ผ่านมาใช้บริการของหางแดงตลอด เนื่องจากเดินทางเช้าคุณแฟนหิวข้าวเลยต้องหาทานข้าวกัน สรุปราคาดีๆที่ชั้นล่างไม่ทานค่ะ คุณเขามาทานด้านในซึ่งราคานั้น ( เข้าใจได้ ) 
แหนะๆไหนบอกว่าเดินทางบ่อยทำไมไม่รู้ล่ะว่าอาหารด้านในจะแพงกว่า รู้ค่ะแต่ยอมจ่ายเพื่อ ผู้ชายค่ะ 55555555555 แต่บ่นหน่อยนะคะนิดนึง

นี่ค่ะ ของ จขกท. ส่วนของคุณเขาไม่ได้ถ่ายมาค่ะแต่รวมๆแล้วอร่อยคุ้มราคาค่ะ

ถ่ายไว้สักหน่อยค่ะ อีกหน่อยคงไม่มีให้ดูแล้ว

อิ่มท้องรอขึ้นเครื่อง....

เครื่องใกล้ลงแล้วค่ะ ณ สนามบินนานาชาติภูเก็ต


พอถึงสนามบินโทรให้พี่เขามารับไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่เช่าไว้ค่ะ  ( อย่าลืมตรวจสภาพรถ ถ่ายเป็นวิดีโอไว้ก็ดีนะคะ ) 
เดินทางได้ที่แรกของเราคือ  หาดไม้ขาววววววว

ตาม GPS นี้นะคะ จขกท.ไปตาม GPS แรกคือเข้าไม่ได้พี่ที่อยู่ตรงนั้นเลยปักหมุดให้ใหม่ค่ะ


แนะนำว่ารถมอเตอร์ไซค์ สามารถขี่เข้าไปตามทางอิฐตัวหนอนได้เลยนะคะ
ส่วนใครที่เอารถยนต์มาให้เลี้ยวขวา ไปเรื่อยๆจะเจอที่จอดจะมีรถพวง ไว้บริการค่ะ


ตรงไปสุดเลยค่ะ จะเห็นรถจอดเยอะแล้วเดินลงหาดไปอีกนิดนึง ก่อนจะไปเช็คเวลาเครื่องขึ้นลงนิดนึงนะคะ

หลังจากที่ไปถึงคนรออยู่พอสมควรค่ะไม่นานเครื่องก็มาแต่!!


ตามภาพเลยครับคุณผู้ชมมมมมม ขึ้นจากในสนามบิน ไม่ได้มาจากทางทะเลแล้วลงจอดครับ  ไม่เป็นไรไว้มาใหม่ได้
             
            เดินทางไปที่พักกันต่อเลยเขาหลัก ระหว่างทางก็ไม่รอดนะคะเจอฝน ไปไหนก็แล้วแต่ฝนตลอดจนพกเสื้อกันฝนไปด้วย
ทั้งคนและกระเป๋า


จอดแวะพักบ้าง ไปเรื่อยๆจนหิวข้าวอีกแล้วค่ะ เจอร้านนี้ค่ะ


สั่งมา 3 อย่าง แต่ผัดมาม่าลืมถ่ายมาค่ะ ได้มาแค่ 2 อย่าง



ชานมสั่งมาแก้วเดียวแต่พี่เจ้าของร้านบอกแก้วแรกชามันไม่ค่อยโอเค แกเลยทำมาให้อีกแก้วนึงค่ะ อาหารอร่อยราคาไม่แพงให้เยอะแนะนำค่ะ
( แต่อย่าลืมนะคะ อร่อยคนเราไม่เท่ากัน จขกท. อร่อยแต่คนที่ไปลองคนอื่นอาจจะไม่อร่อยค่ะ )

     อิ่มแล้วพร้อมเริ่มออกเดินทางค่ะ และแล้ววววววววววก็ถึงที่พัก

                        Kalima Resort and Villa Khaolak

Welcome drink  คือ น้ำมะพร้าวอัญชัญค่ะ ชอบมากกกกกก     
บอกก่อนนะคะ จขกท. เคยมาพักที่นี่แล้วครั้งนึงประทับใจมากเลยอยากมาอีกค่ะ

เช็คอินเรียบร้อยก็มีพี่ๆพนักงานไปส่งที่ห้องพร้อมอธิบายรายละเอียดต่างๆให้ฟังค่ะ




และสิ่งที่ชอบมากที่สุดในห้องค่ะ สระว่ายน้ำส่วนตัว



พักผ่อนสักหน่อยแล้วไปทัวร์รอบๆที่พักกันค่ะ
ที่นี่ไม่ติดทะเลนะคะ แต่สามารถเดินไปได้สะดวกไม่ไกลมาก

มีพายคายัค มีพี่ๆพนักงานคอยบริการแจ้งห้องที่เราพักได้เลยค่ะ


หลังจากใช้คุณแฟนพายจนเหนื่อยก็มาเดินเล่นชายหาดกัน ซึ่งค่อนข้างจะเย็นแล้ว ไว้พรุ่งนี้เช้ามาถ่ายตรงนี้ให้ดูใหม่ค่ะ

กลับไปเล่นน้ำที่ห้องจนเหนื่อยและได้เวลากองทัพเดินด้วยท้องกันค๊าาาาา
เริ่มต้นด้วย น้ำแตงโมปั่นไปไหนก็ต้องสั่งถ้ามี


อาหารทยอยมาไม่ช้าไม่เร็วค่ะ
ค่าเสียหายมื้อนี้ค่ะ



วันที่ 2

อาหารเช้าที่หลากหลายมากกก เลือกได้เลยชอบแบบไหนทานเรื่อยๆ
มองวิวสระน้ำที่ไม่มีคนโล่งๆสบายๆตา กับอากาศที่สดชื่นเป็นอะไรที่ดีมากๆเลยค่ะ


ทางระหว่างไปหาด มีสระน้ำให้เด็กๆมีของเล่น มุมนี้ จขกท. ก็ชอบนะคะ

แถวนี้เป็นโซนกิจกรรมค่ะ มีเปตอง ยิงธูน พายคายัค และทางไปชายหาดค่ะ


หาดยามเช้าก็จะประมาณนี้ค่ะ บรรยากาศแตกต่างจากเมื่อวานมาก ที่ครึ้มฝน



พรุ่งนี้มาต่อนะคะ
ต่อค่ะ

หลังจากทำธุระเก็บของก็ฝากของไว้ที่ รร. จากนั้นเรามุ่งหน้าไป...หาดนางทอง
หาดทรายสีดำ แล้วก็วัดดวงว่าจะดำทั้งหาดไหมคุณผู้ช๊มมมมมม

ระหว่างทางเขาที่ซับซ้อน แอบคล้ายภาคเหนือเหมือนกันนะ แต่มันครบกว่านั้นคือ อีกฝั่งเป็นทะเล
ในที่สุดก็มาถึง ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ค่ะ

บุญบาปค่ะ 555555555 สงสัยทริปนี้สะสมบุญน้อยเลยไม่เจอแบบที่เขารีวิว แถมตอนมาครึ้มฝนและฝนปรอยอีก 
จำไว้นะคะ ถ้าจะเสี่ยงดวงแบบ จขกท. ต้องทำบุญเยอะๆค่ะ

ทรายดำนะคะ ไม่ใช่คนเผาขยะแล้วเศษขี้เถ้า ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนก็ตาม


ไปค่ะกลับ รร. ไปเอากระเป๋ามุ่งหน้าสู่ เสม็ดนางซีบูทีค

ถามว่าไกลไหมไกลค่ะ สำหรับมอเตอร์ไซค์ยิ่งไกล แต่ชอบค่ะความชอบส่วนตัว
อย่าชอบแต่เขา ชอบเราบ้างก็ได้
ใกล้ถึงยิ่งตื่นเต้นค่ะ เห็นแต่ในรีวิวว่า สวยอย่างนั้นสวยอย่างนี้อยากลองมาดูเองว่าจะขนาดไหน

ถึงแล้ว...
Welcome drink ของที่นี่จะเป็น น้ำตะไคร้นะคะก็สดชื่นไปอีกแบบ แล้วพี่ๆพนักงานก็พาขึ้นมาด้านบนค่ะ

         พี่ๆพนักงานจะถามว่าเราจะจองดินเนอร์ไหมช่วงเย็นถ้าจองต้องสั่งอาหารเลยค่ะ
เพราะจะได้ขึ้นไปทานบนคาเฟ่ที่ต้องขึ้นไปอีกค่ะด้านบน ( ข้อแม้ของดินเนอร์คือ ต้องสั่งอาหารคนล่ะ 500 บาทค่ะ ) และต้องจองนะคะ
แต่ที่ทานอาหารด้านล่างก็มีนะคะ

ไปยังห้องพักของเราคืนนี้กันค่ะ

ดูจะเล็กๆใช่ไหมคะ แต่จะบอกว่าครบครันมากค่ะ แถมนอนหลับสบายมากๆด้วยขาดอย่างเดียวนะคะ ห้องน้ำ
Room type นี้ห้องน้ำจะรวมค่ะ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆท่านไหนไม่ชอบใช้ห้องน้ำรวมผ่านไปได้เลยค่ะ

วิวที่มองจากให้ห้องพักก็ประมาณนี้ค่ะ

ส่วนตัวชอบนะคะ เพราะพรุ่งนี้เช้ามีทริปไปเรือตื่นเช้า ห้องนี้เป็นทางเลือกในการประหยัดไปได้ไม่มากก็น้อยค่ะ
พักให้หายเหนื่อยสักพัก ไปค่ะพี่พนักงานบอกว่าเราสามารถเดินเลาะไปข้างๆ ขึ้นไปยังคาเฟ่ได้ไปเรื่อยๆไม่เหนื่อยค่ะ
หรือถ้าไม่อยากเดินสามารถเรียกให้รถไปส่งได้ค่ะ 

แต่!! อะไรที่มันง่ายมันจะใช่ จขกท.กับแฟนหรอคะ 

เดินเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยค่ะ ไม่เหนื่อยเลยยยยยยจริง

ในที่สุดเราก็มาถึงแบบไม่เหนื่อยค่ะ5555555  วิวด้านบนคือที่สุด

บริเวณนี้จะเป็นส่วนของคาเฟ่ที่เรามากันเย็นนี้ค่ะ


ลงไปดูสระน้ำของทางที่พักสักหน่อยค่ะ มันดีไปหมดอะไรมันจะดีขนาดนี้ ทั้งบรรยากาศทั้งธรรมชาติทั้งวิว พี่ๆพนักงาน
การพักผ่อนที่มาพักผ่อนจริงๆค่ะ


    ตัดสินใจกับคุณแฟนว่าไปทานข้าวทั้งแบบนี้แหละไม่อาบน้ำ ค่อยมาทีเดียว ตอนแรกไม่มีใครรู้ตอนนี้คนที่เข้ามาอ่านรู้หมดแล้วค่ะว่า
จขกท. แอบสกปรก แอบเหนียวตัว

เนื่องด้วยตอน จขกท. ไปมีฝนเลยต้องตั้งโต๊ะที่ในคาเฟ่แทนตรงระเบียงโล่งๆค่ะ