อายุ 29 ครับ อีก 2 เดือนก็ 30 แล้ว
ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่สภาะเงินไม่พอใช้
ทำงานซ่อมบำรุง เป็นวิศวะไฟฟ้าประจำโรงงาน ชลบุรี เงินเดือนได้ 24,000 ตั้งแต่ปี 2017 ปัจจุบันได้เท่าเดิม ไม่เคยขึ้น ไม่มีโอที ไม่มีโบนัส ทำงาน จันทร์-เสาร์ ตัวโรงงานบริษัทตั้งป้ายประกาศขายมา 1 ปีแล้ว ยังขายไม่ออก เพราะเป็นอุตสาหกรรมหนัก หาคนซื้อยาก แถวนั้นประกาศเป็นโซนสีเขียว ไม่ให้สร้างโรงงานเพิ่มอีก บริษัทแทบไม่มีงาน งานเข้าน้อยมาก งานมาเดือนหนึ่งแล้วเว้นไป 3 เดือนอะไรอย่างนี้ งานน้อยมา 2 ปีตั้งแต่โควิทแล้ว ผมก็อยู่เฝ้าโรงงาน ซ่อมโน้นซ่อมนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปวัน ๆ
เพิ่งซื้อบ้านได้ 1 ปี
ปีที่แล้ว 2565 ผ่อนเดือนละ 11,000
ปีนี้ 2566 ผ่อนเดือนละ 13,000
ปีต่อไป ผ่อนเดือนละ 15,000
ค่าใช้จ่าย
ค่าบ้าน 11,000
ให้แม่ 3,000
ค่ากิน 6,000
น้ำไฟ 1,000
น้ำมันรถ 1,000
ของใช้ในบ้าน 1,000
คงเหลือ 1,000 บาท
ปีนี้ค่าบ้านเพิ่มอีก 2,000 แสดงว่าผมต้องหามาเพิ่มอีก 1,000
ที่ผ่าน 1-2 ปีที่แล้ว ทำงานเสริมครับ ซ่อมโน้ตบุ๊คขาย ซื้อโน้ตบุ๊คเสีย ๆ มาแล้วซ่อมขาย เลิกงานมาก็ไปหาเครื่องมาขาย กำไรประมาณ 7,000-10,000 บาทต่อเดือน ที่เคยพีค ๆ ก็ช่วงโควิท ที่ความต้องการของคนทำงานที่บ้านมากขึ้น โน้ตบุ๊คเลยขายดีเป็นจำนวนมาก เคยได้กำไรเฉลี่ย 20,000 ต่อเดือน นั่นก็เป็นอดีต ปัจจุบันไม่มีอย่างนั้นแล้ว เพราะคนซื้อน้อยลง จากที่เคยขายได้วันละเครื่อง ตอนนี้อาทิตย์หนึ่งจะขายได้สัก 1-2 เครื่อง ต้องลดราคาแข่งกับพ่อค้าคนอื่น ๆ กำไรก็แค่เครื่องละ 500-800 เท่านั้น เครื่องรุ่นเก่า ๆ ก็ขายยาก และผมซ่อมวงจรไม่เป็น บางเครื่องซื้อมาแล้วเสีย เปิดไม่ติดก็ขาดทุนไปมาก ก็เลยหยุดไปเป็นเดือนตั้งแต่ก่อนปีใหม่ คิดทบทวนดูถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปเราไม่รอดแน่
ปัจจุบันแฟนมาอยู่ด้วย เงินเดือนแฟนก็พอมาช่วยค่าน้ำค่าไฟในบ้านบ้าง เงินเดือนแฟน 16,000 โอที 3,000-6,000
แต่มีหนี้ที่จะตามมาอีก คือรถครับ
แฟนจะออกรถเก๋ง ไปจองมาแล้ว รอรถอยู่ ผ่อนประมาณเดือนละ 8,000
ก็เลยคิด ๆ ว่าจะเอาไงกับชีวิตดี
หนี้บ้านกับรถ รายได้จาก 2 คน มันก็พอจ่ายได้อยู่หร็อก แต่มันรู้สึกตึงเกินไป
- จะไม่มีเงินเก็บ
- ไปเที่ยว หรือซื้อของฟุ่มเฟือยไม่ได้ (ของฟุ่มเฟือยที่ว่าตอนนี้คือ ติดแอร์ ซื้อโซฟา และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆในบ้าน)
- เรื่องแต่งงาน เก็บเงินค่าสินสอด เลื่อนไปยาว ๆ เลย จนกว่าจะผ่อนรถหมด
- เรื่องลูกไม่ต้องพูดถึง มีไม่ได้
- เกิดอีกคนเป็นอะไรขึ้นมา จะเป็นยังไง
ตอนนี้คิดอยู่ 2 ทางครับ คือ
1. ไปหางานใหม่ เรียกเงินเดือนสูงขึ้น อย่างต่ำ 30,000 เพราะเทียบกับเพื่อนที่จบมาพร้อมกัน เขาก็ได้ประมาณนี้กันหมดแล้ว
2. ทำอยู่ที่เดิม ไม่ต้องลาออก หางานเสริม เกี่ยวกับวิชาชีพที่จบมา นั้นคืองานไฟฟ้า อย่าง ไปเดินไฟ แก้ไขไฟ ปะปา ปั้มน้ำ ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ตามบ้าน ซึ่งงานพวกนี้ผมถนัดอยู่แล้ว เครื่องมือผมก็มีครบ แต่ติดปัญหาที่เราไม่มีรถใหญ่ขนไป เพราะบางงานจำเป็นต้องใช้บันได สว่าน เครื่องมือช่างหลายอย่าง และเรามีเวลาแค่ตอนเลิกงานกับวันอาทิตย์ ยังไม่รู้จะไปโฆษณาที่ไหน เคยลองลงประกาศดูในเฟส Market Place ก็ไม่มีใครติดต่อมา จะทำใบปลิวไปติดตามเสาไฟมันจะเวิร์คไหมครับ การไฟฟ้าจะฟ้องเอาค่าติดป้ายโฆษณาไหม
แนะนำทีครับ
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เงินเดือนเท่าเดิม หางานใหม่ดีไหมครับ
ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่สภาะเงินไม่พอใช้
ทำงานซ่อมบำรุง เป็นวิศวะไฟฟ้าประจำโรงงาน ชลบุรี เงินเดือนได้ 24,000 ตั้งแต่ปี 2017 ปัจจุบันได้เท่าเดิม ไม่เคยขึ้น ไม่มีโอที ไม่มีโบนัส ทำงาน จันทร์-เสาร์ ตัวโรงงานบริษัทตั้งป้ายประกาศขายมา 1 ปีแล้ว ยังขายไม่ออก เพราะเป็นอุตสาหกรรมหนัก หาคนซื้อยาก แถวนั้นประกาศเป็นโซนสีเขียว ไม่ให้สร้างโรงงานเพิ่มอีก บริษัทแทบไม่มีงาน งานเข้าน้อยมาก งานมาเดือนหนึ่งแล้วเว้นไป 3 เดือนอะไรอย่างนี้ งานน้อยมา 2 ปีตั้งแต่โควิทแล้ว ผมก็อยู่เฝ้าโรงงาน ซ่อมโน้นซ่อมนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปวัน ๆ
เพิ่งซื้อบ้านได้ 1 ปี
ปีที่แล้ว 2565 ผ่อนเดือนละ 11,000
ปีนี้ 2566 ผ่อนเดือนละ 13,000
ปีต่อไป ผ่อนเดือนละ 15,000
ค่าใช้จ่าย
ค่าบ้าน 11,000
ให้แม่ 3,000
ค่ากิน 6,000
น้ำไฟ 1,000
น้ำมันรถ 1,000
ของใช้ในบ้าน 1,000
คงเหลือ 1,000 บาท
ปีนี้ค่าบ้านเพิ่มอีก 2,000 แสดงว่าผมต้องหามาเพิ่มอีก 1,000
ที่ผ่าน 1-2 ปีที่แล้ว ทำงานเสริมครับ ซ่อมโน้ตบุ๊คขาย ซื้อโน้ตบุ๊คเสีย ๆ มาแล้วซ่อมขาย เลิกงานมาก็ไปหาเครื่องมาขาย กำไรประมาณ 7,000-10,000 บาทต่อเดือน ที่เคยพีค ๆ ก็ช่วงโควิท ที่ความต้องการของคนทำงานที่บ้านมากขึ้น โน้ตบุ๊คเลยขายดีเป็นจำนวนมาก เคยได้กำไรเฉลี่ย 20,000 ต่อเดือน นั่นก็เป็นอดีต ปัจจุบันไม่มีอย่างนั้นแล้ว เพราะคนซื้อน้อยลง จากที่เคยขายได้วันละเครื่อง ตอนนี้อาทิตย์หนึ่งจะขายได้สัก 1-2 เครื่อง ต้องลดราคาแข่งกับพ่อค้าคนอื่น ๆ กำไรก็แค่เครื่องละ 500-800 เท่านั้น เครื่องรุ่นเก่า ๆ ก็ขายยาก และผมซ่อมวงจรไม่เป็น บางเครื่องซื้อมาแล้วเสีย เปิดไม่ติดก็ขาดทุนไปมาก ก็เลยหยุดไปเป็นเดือนตั้งแต่ก่อนปีใหม่ คิดทบทวนดูถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปเราไม่รอดแน่
ปัจจุบันแฟนมาอยู่ด้วย เงินเดือนแฟนก็พอมาช่วยค่าน้ำค่าไฟในบ้านบ้าง เงินเดือนแฟน 16,000 โอที 3,000-6,000
แต่มีหนี้ที่จะตามมาอีก คือรถครับ
แฟนจะออกรถเก๋ง ไปจองมาแล้ว รอรถอยู่ ผ่อนประมาณเดือนละ 8,000
ก็เลยคิด ๆ ว่าจะเอาไงกับชีวิตดี
หนี้บ้านกับรถ รายได้จาก 2 คน มันก็พอจ่ายได้อยู่หร็อก แต่มันรู้สึกตึงเกินไป
- จะไม่มีเงินเก็บ
- ไปเที่ยว หรือซื้อของฟุ่มเฟือยไม่ได้ (ของฟุ่มเฟือยที่ว่าตอนนี้คือ ติดแอร์ ซื้อโซฟา และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆในบ้าน)
- เรื่องแต่งงาน เก็บเงินค่าสินสอด เลื่อนไปยาว ๆ เลย จนกว่าจะผ่อนรถหมด
- เรื่องลูกไม่ต้องพูดถึง มีไม่ได้
- เกิดอีกคนเป็นอะไรขึ้นมา จะเป็นยังไง
ตอนนี้คิดอยู่ 2 ทางครับ คือ
1. ไปหางานใหม่ เรียกเงินเดือนสูงขึ้น อย่างต่ำ 30,000 เพราะเทียบกับเพื่อนที่จบมาพร้อมกัน เขาก็ได้ประมาณนี้กันหมดแล้ว
2. ทำอยู่ที่เดิม ไม่ต้องลาออก หางานเสริม เกี่ยวกับวิชาชีพที่จบมา นั้นคืองานไฟฟ้า อย่าง ไปเดินไฟ แก้ไขไฟ ปะปา ปั้มน้ำ ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ตามบ้าน ซึ่งงานพวกนี้ผมถนัดอยู่แล้ว เครื่องมือผมก็มีครบ แต่ติดปัญหาที่เราไม่มีรถใหญ่ขนไป เพราะบางงานจำเป็นต้องใช้บันได สว่าน เครื่องมือช่างหลายอย่าง และเรามีเวลาแค่ตอนเลิกงานกับวันอาทิตย์ ยังไม่รู้จะไปโฆษณาที่ไหน เคยลองลงประกาศดูในเฟส Market Place ก็ไม่มีใครติดต่อมา จะทำใบปลิวไปติดตามเสาไฟมันจะเวิร์คไหมครับ การไฟฟ้าจะฟ้องเอาค่าติดป้ายโฆษณาไหม
แนะนำทีครับ