Credit : เพจรหัสวิทยา
ถ้าเราอุปมาเปรียบเทียบโหราศาสตร์ว่าเป็นเหมือนกับห้องปฏิบัติการห้องหนึ่ง ภายในห้องแห่งนี้จะมีเครื่องมือหลายชนิดให้เราเลือกใช้งานตามอัธยาศัย
.
เช่นการอ่านดาวในเรือน อ่านดาวผสมดาว อ่านเรือนผสมเรือน อ่านการทำมุมระหว่างดาว อ่านคู่มิตรคู่ศัตรู อ่านตำแหน่งพิเศษ ฯลฯ
.
แน่นอนว่าแต่ละสำนักต่างก็มีชนิดและจำนวนเครื่องมือที่แตกต่างกัน (และไม่ควรเอามาเทียบกันว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน) และในกรณีที่บางคนเรียนมาหลายสำนักก็อาจจะมีเครื่องมือให้เลือกใช้มากเป็นพิเศษ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องดีกว่าคนอื่นเสมอไป แต่ที่แน่ๆ คือได้เปรียบกว่าแน่นอน)
.
เครื่องมือแต่ละตัวจะให้ข้อมูลชุดหนึ่งออกมา ดังนั้นยิ่งใช้เครื่องมือมากก็ยิ่งได้ชุดข้อมูลออกมามากยิ่งขึ้นตามไปด้วย แต่ข้อมูลพวกนี้ก็อาจจะสอดคล้องกันหรือขัดแย้งกันก็ได้
.
ดังนั้นในทางปฏิบัติจริง เราอาจจะไม่ได้ใช้เครื่องมือพวกนี้ทั้งหมด(เพราะจะได้ข้อมูลที่มากเกืนจำเป็นและชวนให้สับสน) หรือจะเลือกใครจะใช้ทั้งหมดก็ย่อมได้
.
ความจริงเรื่องนี้แทบไม่ได้กฏตายตัวอะไร ครั้งนี้ใช้ครั้งหน้าไม่ใช้ เป็นเรื่องของดุลพินิจในชั่วขณะนั้นๆ เครื่องมือหยุมหยิมยิบย้อยบางชนิดก็แทบจะอยู่แต่ในตำรา ไม่ค่อยได้เอาออกมโลดโผนข้างนอก หรือเครื่องมือบางตัวคนอื่นเขาใช้กันแต่เราไม่ชอบใช้ก็มี ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไร
.
ชุดข้อมูลเหล่านี้เปรียบเสมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ ซึ่งนักพยากรณ์มีหน้าที่นำเอาชิ้นจิ๊กซอล์เหล่านี้มาเชื่อมต่อกันเพื่อให้เกิดเป็นภาพกว้าง ซึ่งจะกลายเป็นคำพยากรณ์ในท้ายที่สุด
.
ส่วนจะแม่นหรือไม่แม่นนั่นอีกเรื่องนึง
.
การเชื่อมโยงจิ๊กซอว์แต่ละตัวเข้าด้วยกันนี้ นอกจากจะอาศัยความสามารถ (ญาณรู้/ไหวพริบ/ประสบการณ์) ของตัวนักพยากรณ์แล้ว ข้อมูลเบื้องต้นจากตัวเจ้าของดวงชะตาเองก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก (เช่นเพศ อาชีพ สถานะครอบครัว ฯ)
.
เมื่อมีข้อมูลเบื้องต้นที่มากเพียงพอ การซิงโครไนซ์ข้อมูลจากดวงชะตาและปรากฏการณ์ในโลกของความเป็นจริงก็จะมีความแม่นยำได้มากขึ้น
.
อันจะนำไปสู่คำพยากรณ์ที่แม่นยำ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์
.
ที่จริงแล้ว “คำแนะนำที่เป็นประโยชน์” นี้เองที่ควรเป็นปลายทางสุดท้ายที่พึงได้รับจากกระบวนการทางโหราศาสตร์ และนักโหราศาสตร์เองก็ไม่ได้เป็นผู้หยังรู้ดินฟ้าอะไรนอกไปจากรู้วิธีการแปลความหมายจากข้อมูลที่ปรากฏในภาพดวงชะตาตามที่ตนเองศึกษาเล่าเรียนมา
.
จะแปลแล้วผิดบ้างถูกบ้างก็คงไม่น่าเกลียดอะไรนัก ขนาดหมอรักษาโรคแล้วไม่หายก็ยังมีอีกตั้งมากมายเยอะแยะ สุดความสามารถแล้วก็ไม่ว่ากัน
ห้องปฏิบัติการโหราศาสตร์
ถ้าเราอุปมาเปรียบเทียบโหราศาสตร์ว่าเป็นเหมือนกับห้องปฏิบัติการห้องหนึ่ง ภายในห้องแห่งนี้จะมีเครื่องมือหลายชนิดให้เราเลือกใช้งานตามอัธยาศัย
.
เช่นการอ่านดาวในเรือน อ่านดาวผสมดาว อ่านเรือนผสมเรือน อ่านการทำมุมระหว่างดาว อ่านคู่มิตรคู่ศัตรู อ่านตำแหน่งพิเศษ ฯลฯ
.
แน่นอนว่าแต่ละสำนักต่างก็มีชนิดและจำนวนเครื่องมือที่แตกต่างกัน (และไม่ควรเอามาเทียบกันว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน) และในกรณีที่บางคนเรียนมาหลายสำนักก็อาจจะมีเครื่องมือให้เลือกใช้มากเป็นพิเศษ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องดีกว่าคนอื่นเสมอไป แต่ที่แน่ๆ คือได้เปรียบกว่าแน่นอน)
.
เครื่องมือแต่ละตัวจะให้ข้อมูลชุดหนึ่งออกมา ดังนั้นยิ่งใช้เครื่องมือมากก็ยิ่งได้ชุดข้อมูลออกมามากยิ่งขึ้นตามไปด้วย แต่ข้อมูลพวกนี้ก็อาจจะสอดคล้องกันหรือขัดแย้งกันก็ได้
.
ดังนั้นในทางปฏิบัติจริง เราอาจจะไม่ได้ใช้เครื่องมือพวกนี้ทั้งหมด(เพราะจะได้ข้อมูลที่มากเกืนจำเป็นและชวนให้สับสน) หรือจะเลือกใครจะใช้ทั้งหมดก็ย่อมได้
.
ความจริงเรื่องนี้แทบไม่ได้กฏตายตัวอะไร ครั้งนี้ใช้ครั้งหน้าไม่ใช้ เป็นเรื่องของดุลพินิจในชั่วขณะนั้นๆ เครื่องมือหยุมหยิมยิบย้อยบางชนิดก็แทบจะอยู่แต่ในตำรา ไม่ค่อยได้เอาออกมโลดโผนข้างนอก หรือเครื่องมือบางตัวคนอื่นเขาใช้กันแต่เราไม่ชอบใช้ก็มี ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไร
.
ชุดข้อมูลเหล่านี้เปรียบเสมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ ซึ่งนักพยากรณ์มีหน้าที่นำเอาชิ้นจิ๊กซอล์เหล่านี้มาเชื่อมต่อกันเพื่อให้เกิดเป็นภาพกว้าง ซึ่งจะกลายเป็นคำพยากรณ์ในท้ายที่สุด
.
ส่วนจะแม่นหรือไม่แม่นนั่นอีกเรื่องนึง
.
การเชื่อมโยงจิ๊กซอว์แต่ละตัวเข้าด้วยกันนี้ นอกจากจะอาศัยความสามารถ (ญาณรู้/ไหวพริบ/ประสบการณ์) ของตัวนักพยากรณ์แล้ว ข้อมูลเบื้องต้นจากตัวเจ้าของดวงชะตาเองก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก (เช่นเพศ อาชีพ สถานะครอบครัว ฯ)
.
เมื่อมีข้อมูลเบื้องต้นที่มากเพียงพอ การซิงโครไนซ์ข้อมูลจากดวงชะตาและปรากฏการณ์ในโลกของความเป็นจริงก็จะมีความแม่นยำได้มากขึ้น
.
อันจะนำไปสู่คำพยากรณ์ที่แม่นยำ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์
.
ที่จริงแล้ว “คำแนะนำที่เป็นประโยชน์” นี้เองที่ควรเป็นปลายทางสุดท้ายที่พึงได้รับจากกระบวนการทางโหราศาสตร์ และนักโหราศาสตร์เองก็ไม่ได้เป็นผู้หยังรู้ดินฟ้าอะไรนอกไปจากรู้วิธีการแปลความหมายจากข้อมูลที่ปรากฏในภาพดวงชะตาตามที่ตนเองศึกษาเล่าเรียนมา
.
จะแปลแล้วผิดบ้างถูกบ้างก็คงไม่น่าเกลียดอะไรนัก ขนาดหมอรักษาโรคแล้วไม่หายก็ยังมีอีกตั้งมากมายเยอะแยะ สุดความสามารถแล้วก็ไม่ว่ากัน