(มู, ระบาย) จะมาลาโต๊ะพรหมชาติค่ะ เดี๊ยนไม่ได้ถูกลิขิตให้มาเป็นหมอดู แต่ผีบอกให้เป็น cromniomancer (หมอดูหอมหัวใหญ่)

มาสิงโต๊ะนี้ เก็บเกี่ยวความรู้ฟรี ๆ ไปทำชิ้นงานสายมูเตลูก็ตั้งนาน ขอบพระคุณทุกท่านมาก ทั้งที่ตอบกระทู้จนเอือมระอาเดี๊ยนไปแล้ว และยังทนตอบเดี๊ยนได้เรื่อย ๆ อย่างอาจารย์หมอดูศาสตร์จีน เป็นวิทยาทานแก่เดี๊ยนอย่างมาก ต้องรีบขอบคุณไว้ก่อน ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน

โปรเจ็กต์เดี๊ยนไปต่อไม่ได้แล้ว ท้องตลาดทำได้ดีกว่า และไม่ติดลิขสิทธิ์ด้วย ของเดี๊ยนที่เหลือรอดบางอัน จึงเป็นการทำเก็บไว้ใช้เองเป็นหลัก

เดี๊ยนปิดบังเรื่องพืชสื่อไสยศาสตร์ของตัวเองมานาน ก็เพราะอยากเปิดเผยในวันที่พร้อม แต่คงไม่มีวันนั้นแล้ว คือช่วงที่เดี๊ยนเข้ามานี่ การทำนายไพ่ทาโรต์ ยังเป็นการสุ่มเปิดแบบทำนายเล่น ๆ แม้จะมีเล่มที่คิดว่าแม่นที่สุดเท่าที่เดี๊ยนจะครอบครองได้แล้ว มาด้วยความไม่เชื่อถือคนอื่นเท่าไหร่ มาด้วยความไม่เชื่อมั่นในตนเอง

จนกระทั่งเดี๊ยนฝันว่าถือหอมหัวใหญ่ที่ปอกเปลือกแล้ว และตื่นขึ้นมา ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ความที่เป็นผีบอก เลยเสิร์ชดู พบว่าตรงกับการทำนายแบบ Cromniomancy ซึ่งมีการทำนายด้วยหอมหัวใหญ่อยู่ 2 แบบ แบบแรกคือดูการงอก ซึ่งเป็นวิธีทำนายหลักเลย กับอีกแบบ คล้าย ๆ พระโคแรกนา เสี่ยงทายน้ำของบ้านเรา แต่เดี๊ยนอ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจทั้ง 2 วิธี

ตอนที่ยังไม่ได้เสิร์ช เดี๊ยนก็นึกว่าเอามาทำนายเหมือนการ Crystal Ball Gazing หรือ scrying จึงเป็นกระทู้แรกที่เดี๊ยนถามถึงวิธีการและความน่าเชื่อถือของหมอดูลูกแก้ว (ด้วยหวังจะส่องหอมหัวใหญ่ปอกเปลือก) แต่จำลำดับก่อนหลังไม่ได้ มีเรื่องจันทคราสพระจันทร์แดง กับนวัตกรรมสายมูกับการช่วยเหลือภัยน้ำท่วม

เพราะความหมอดูลูกแก้วนี่แหละ ที่ทำให้เดี๊ยนยึดติดกับการหาวิธีส่องลูกแก้วให้เห็นจริง ๆ หาวิธีมีตาที่ 3 ทั้งที่เดี๊ยนไม่มีจิตสัมผัส ถ้าเดี๊ยนทำงาน มีเงินใช้แล้ว คงจะสานต่อความเป็น Wicca ของตัวเองแน่นอน เพราะเสพติดการทำนายไปแล้ว เทพเจ้ากรีก นับถือ เลื่อมใสจริง ๆ ก็มีองค์เดียว คือ โพรมิเทียส (บุคลาธิษฐานของการคิดก่อนทำ) แม้ว่าเทพองค์อื่น ๆ เช่น เทพอพอลโล จะพลังแรงกว่า ดูขลังกว่า ยังมีเทพีนิกซ์ และเทพเฮฟเฟสตัส ที่รอการเซ่นด้วยเนื้อวัวจี่ (สำหรับเทพเจ้าแมวเหมียวแถวบ้าน)

ตอนนั้น อ่านกระทู้เกี่ยวกับการอยากเป็นหมอดู แล้วมีคำตอบนึงของเพื่อนสมาชิก บอกว่ามันเป็นการอ่านกรรม เดี๊ยนก็ทึ่งว่าเป็นคำพูดที่คม แล้วมานึกถึงความแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการทายแบบดวงกำเนิด หรือสุ่มจกไพ่ทาโรต์ ซึ่งในหนังสือจะให้คำทำนายลิสต์ไว้ 5 - 6 ข้อ ก็อาจจะตรง จะแม่นเสียข้อหนึ่ง แต่ข้อที่แม่นนั้น ไม่คิดว่าจะเกิด มันก็เกิด แต่ว่าเบากว่าคำทำนายในหนังสือ การทำนายทายทัก มันจึงเป็นการเฝ้าดูการฉายภาพของกรรม ผ่านตาเราไป

เทียบกับเพลงลูกกรุงเก่า ๆ ได้ 2 เพลง เพลงเศร้าคือเพลง โลกนี้คือละคร ของครูไพบูลย์ บุตรขัน (?) เพลงสนุกคือเพลง สุขกันเถอะเรา ของสุนทราภรณ์ (ครูเอื้อ สุนทรสนาน ?)

มันเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเดี๊ยนอวยพุทธคุณหนักหนา จนกดทับศาสตร์การทำนายดวง ก็เพราะคำสอนเรื่องกฎแห่งกรรม นี่แหละ

เดี๊ยนก็ไม่ได้หนีหายไปไหน แต่จะแจมน้อยลง งดโผล่ไปขัดคอเพื่อนสมาชิก 555 อยู่โต๊ะนี้ไม่เหงาดีค่ะ และไม่ต้องไปแตะต้องให้กระทบกระเทือนใคร เท่ากับการไปพูดเรื่องอื่นในโต๊ะอื่น ทำเป็นมึน ๆ กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลกไปเสีย หนังสือทำนายด้วยศาสตร์ต่าง ๆ ที่เดี๊ยนเคยซื้อเก็บไว้สมัยเรียนมัธยม ก็มีค่า ถูกปัดฝุ่นขึ้นมา แต่เดี๊ยนคงจะเน้นว่า อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดเป็นหลัก พยายามจะห่าง ๆ การทำนายไพ่ทาโรต์ออกไป

(ถ้านึกอะไรได้ จะมาพูดเพิ่มนะคะ น่าจะครบทุกเรื่องที่อยากพูดแล้ว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่