ไม่ได้อยากฆ่าตัวตายนะคะ.. แต่??! #ปัญหาชีวิต

กระทู้คำถาม
ปกติเป็นคนค่อนข้างร่าเริง สนุกสนาน ไม่ค่อยเก็บเรื่องร้ายไม่สบายใจไว้กับตัวนาน ทำใจกับเรื่องแย่ๆที่เจอได้เร็ว..
แต่หนึ่งเดือนมานี้ รู้สึกเหมือนแบกอะไรไว้ในอก มันหนักอึ้งตลอดเวลา ไม่ว่าตอนหลับหรือตื่น แม้บางครั้งจะยุ่งวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ จนลืมเรื่องเครียดไปแต่ในอกมันยังรู้สึกหนักๆหน่วงๆอยู่ดี..
เวลาตื่นเช้ามา สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว คือคำว่า ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย โกรธตัวเองที่ตื่นขึ้นมาทุกวัน มีความรู้สึกว่าถ้าได้หลับแบบนี้ตลอดไป ไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลยก็คงดี  รู้สึกว่าชีวิต ไม่เหลือเรื่องอะไรที่จะทำให้มีความสุขเลย แม้ความสุขเพียงเล็กน้อยก็ตาม.. ไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะจากความรู้สึกจริงๆ รู้สึกท้อ หมดพลังที่จะทำอะไรในชีวิต มองไม่เห็นเป้าหมาย ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไรต่อ.. อยากหนีไปจากทุกสิ่งรอบตัวในตอนนี้  แบบนี้เป็นปกติของคนที่มีเรื่องเครียดมั้ยคะ? หรืออาการมันหนักไปหน้าแล้วจริงๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และให้กำลังใจนะคะ.. หลายคนอาจจะสงสัยว่า มันเกิดปัญหาอะไร หนักหนาแค่ไหน  ถึงต้องมาตั้งกระทู้ยืดยาวขนาดนั้น.. เราจะเล่าให้ฟังค่ะ ถือว่าเป็นการระบายความอัดอั้นในใจไปในตัวนะคะ ถ้าอ่านแล้วมันสร้างความหงุดหงิด รำคาญใจให้ใคร เราก็ขออภัยล่วงหน้าค่ะ

   เริ่มมจากพ่อ.. พ่อเราปีนี้อายุ 52 ปี ทำงานเป็นพนักงานทั่วไป ฝ่ายเบ็ตเล็ต ของบริษัทขายรถมอไซค์รายใหญ่ของจังหวัดเรา อายุงาน 15-16 ปี..
แต่แล้วเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ช่วงวันหยุดยาวของบริษํท อยุ่ๆหัวหน้าของพ่อได้โทรมาบอกว่า บริษัทจะยุบแผนกของพ่อ เนื่องจากยอดขายไม่ดีและเดือนนี้(ธันวาคม) จะเป็นเดือนสุดท้ายของการทำงาน.. ทุกคนในแผนกจะถูกเลิกจ้างทั้งหมด รวมถึงหัวหน้าของพ่อด้วย
!!!?   อึ้งกันทั้งบ้านเลยค่ะ อยุ่ๆพ่อก็ตกงานกระทันหัน แต่พอผ่านไปอีกวันหัวหน้าพ่อ ก็โทรมาแจ้งว่าบริษัทจะให้ทำต่ออีก1เดือน คือเดือนนี้(มกราคม)  ถึงจะได้ทำต่ออีกเดือนแต่มันก็ฉุกละหุกมากๆๆอยุ่ดีค่ะ  ในวัยอายุ 52 จะไปทำอะไรต่อดี อายุขนาดนี้จะมีใครรับเข้าทำงานอีกคะ..
ส่วนแม่เรา รับซักผ้า รีดผ้า รับจ้างเลี้ยงเด็ก(1คน) อยุ่ที่บ้านรายได้ต้อเดือนไม่แน่นอน ราวๆ 4-6พันบาท
และเมื่ออาทิตย์ก่อน ได้มีหมายศาลเป็นกระดาษปึกใหญ่ส่งมาที่บ้าน ใจความโดยสรุป คือแม่เรากับน้าแถวบ้านอีกคน ได้ไปคำประกันเงินกู้แบงค์ออมสินของบุคคลนึง(เมื่อก่อนอยุ่ข้างบ้านเรา) และคนกู้ก็หนีหายไป ติดต่อใดๆไม่ได้ ไม่ทราบย่ยหนีไปอยุ่ไหน.. และป้าเค้าไม่จ่ายเงินตรงนี้เลย  แบงค์จึงหันมาเล่นงานคนต้ำประกันแทน ซื้อก็คือแม่เราและน้าอีกคน นัดขึนสาวันที่ 30 เดือนนี้..
ส่วนเราเมื่อก่อนไปทำงานอยุ่ที่อื่นหลายปี และเพิ่งกลับมาอยุ้บ้านได้ 2ปี ตอนแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจต้องเข้าโรงบาล งานปัจจุบัน ข่วยงานที่ร้านข้าว จ่ายตลาด รับ-ส่ง รายได้ต่อวันก็ไม่แน่นอน 180-200 บาท.. แต่เราต้องจ่ายเงินกู้นอกระบบวันละ  (จ่ายเรื่อยๆจนกว่าจะมีเงินไปปิดเงินต้น)
สิ่งที่เราเครียดตอนนี้คือ ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนในบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าผ่อนมอไซค์ ค่าเงินแบงค์ที่กู้มาซ่อมบ้านเดือนละสี่พันกว่าบาท.. ที่พ่อเป็นคนรับผิดชอบ เรากับแม่คงต้องช่วยกัจ่า แถมมีชายหลานวัย ป1. ที่ต้องดูแลอีก รวมๆกันมันเลยทำให้เราเครียดและกังวลค่ะ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่