ฮ่องกงยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ป่วยโควิด-19
เขตบริหารพิเศษฮ่องกงประกาศยกเลิกข้อบังคับกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. หลังจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นไป โดยผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกในฮ่องกงไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 5 วันอีกต่อไป
นาย จอห์น ลี หัวหน้าเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติของฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสฯ (19 ม.ค.) ว่า การยกเลิกข้อบังคับการกักตัวนี้มีผลครอบคลุมทั้งในโรงพยาบาล สถานที่ทำการของรัฐ และสถานที่พักฟื้นผู้ป่วย การตัดสินใจดังกล่าวของเขาถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการเดินหน้าไปสู่โหมดการใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งชาวฮ่องกงควรปฏิบัติกับโควิด-19 ในฐานะโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนอื่น ๆ เช่น โรคหวัด ภายใต้หลักการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ เขายังมีความเห็นว่า รัฐบาลควรมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้วิธีการบริหารจัดการอย่างชัดเจนไปสู่การอนุญาตให้พลเมืองเป็นผู้ตัดสินใจและรับผิดชอบตนเอง พร้อมกับยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของหลักวิทยาศาสตร์และการประเมินความเสี่ยง
การกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 นับเป็นข้อบังคับ ที่มีความสำคัญมากที่สุดข้อหนึ่งในมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างเข้มงวดของฮ่องกง การตัดสินใจยกเลิกการกักตัวผู้ป่วยโควิดจึงเป็นการสิ้นสุดข้อบังคับ ที่ใช้มานาน 3 ปี ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของปักกิ่ง และเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ในการลดสถานะของโควิด-19 จากโรคระบบทางเดินหายใจรุนแรง มาสู่สถานะของโรคประจำท้องถิ่น โดยฮ่องกงได้ปฏิบัติตามแนวทางของจีน ซึ่งได้ประกาศเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้รถไฟความเร็วสูงระหว่างฮ่องกงกับแผ่นดินใหญ่ได้กลับมาวิ่งให้บริการอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ได้ยกเลิกข้อบังคับการกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว แต่ชาวฮ่องกงยังคงถูกกำหนดให้ต้องสวมใส่หน้ากากอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ยกเว้นในกรณีจำเป็น เช่นการออกกำลังกาย
https://mgronline.com/china/detail/9660000005815
นักไวรัสวิทยา' กระทุ้งถึงเวลาทบทวนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวใหม่
'ดร.อนันต์'ชี้ไวรัสโควิดเปลี่ยนไวมาก โดยไปในทิศทางที่หนีภูมิจากวัคซีนเดิมไปเรื่อยๆ เผยอาจถึงเวลาต้องทบทวนการกระตุ้นด้วยวัคซีนตัวใหม่แบบจริงจังแล้ว
19 ม.ค.2566 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ดูเหมือนไวรัสสายพันธุ์ XBB ที่หนีภูมิเก่งที่สุดตอนนี้อาจจะโดนล้มแชมป์ในไม่ช้าครับ ข้อมูลล่าสุดจากทีมวิจัยของ Ohio State University พบว่า สายพันธุ์ลูกหลานของ BA.2.75 ชื่อว่า CA.3.1 อาจจะมีคุณสมบัติในการหนีภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์ XBB
ทีมวิจัยใช้ตัวอย่างซีรั่มของกลุ่มตัวอย่างที่ได้วัคซีนเข็มกระตุ้นชนิด Bivalent มาดูคุณสมบัติการต้านการติดเชื้อไวรัส XBB ได้ค่าประมาณ 159-199 (เทียบกับค่าเกิน 1000 เมื่อทดสอบกับ BA.5) แต่เมื่อทดสอบกับ CA.3.1 คนกลุ่มภูมิสูงๆเหล่านี้ได้ค่ายับยั้ง CA.3.1 เพียงแค่ 62 ซึ่งน้อยกว่า XBB ไปกว่า 3 เท่า
สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ได้วัคซีนเข็มกระตุ้นรูปแบบเดิมมา ภูมิต่อ XBB ได้ที่ 42-43 และ ต่อ CA.3.1 คือ 9 ซึ่งเทียบเท่ากับไม่มีภูมิต้านไวรัสเลย กลุ่มนี้ได้ภูมิต่อ BA.5 อยู่ประมาณ 200 ซึ่งค่อนข้างชัดว่าวัคซีนแบบ Bivalent มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิต่อโอมิครอนได้จริงๆ
ภูมิจากคนที่เคยติดเชื้อ BA.5 ตามธรรมชาติมา ได้ค่าภูมิต่อ BA.5 ไม่เท่ากับกลุ่มที่กระตุ้นด้วยวัคซีน bivalent แต่ภูมิต่อ CA.3.1 ไม่ได้ต่างกันมากคือประมาณ 45
ไวรัสเปลี่ยนไวมากครับ มาแบบไปในทิศทางที่หนีภูมิจากวัคซีนเดิมไปเรื่อยๆ การกระตุ้นด้วยวัคซีนอาจคงต้องคิดด้วยตัวใหม่แบบจริงจังละครับ เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนกับไวรัสใหม่ๆลดลงไปทุกทีๆ
https://www.thaipost.net/covid-19-news/305788/
ข่าวโควิดยังมีอยู่ค่ะ
🇹🇭🏵มาลาริน🏵🇹🇭 ฮ่องกงยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ป่วยโควิด-19/นักไวรัสวิทยากระทุ้งถึงเวลาทบทวนวัคซีนป้องกันโควิดตัวใหม่
เขตบริหารพิเศษฮ่องกงประกาศยกเลิกข้อบังคับกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. หลังจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นไป โดยผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกในฮ่องกงไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 5 วันอีกต่อไป
นาย จอห์น ลี หัวหน้าเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติของฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสฯ (19 ม.ค.) ว่า การยกเลิกข้อบังคับการกักตัวนี้มีผลครอบคลุมทั้งในโรงพยาบาล สถานที่ทำการของรัฐ และสถานที่พักฟื้นผู้ป่วย การตัดสินใจดังกล่าวของเขาถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการเดินหน้าไปสู่โหมดการใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งชาวฮ่องกงควรปฏิบัติกับโควิด-19 ในฐานะโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนอื่น ๆ เช่น โรคหวัด ภายใต้หลักการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ เขายังมีความเห็นว่า รัฐบาลควรมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้วิธีการบริหารจัดการอย่างชัดเจนไปสู่การอนุญาตให้พลเมืองเป็นผู้ตัดสินใจและรับผิดชอบตนเอง พร้อมกับยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของหลักวิทยาศาสตร์และการประเมินความเสี่ยง
การกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 นับเป็นข้อบังคับ ที่มีความสำคัญมากที่สุดข้อหนึ่งในมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างเข้มงวดของฮ่องกง การตัดสินใจยกเลิกการกักตัวผู้ป่วยโควิดจึงเป็นการสิ้นสุดข้อบังคับ ที่ใช้มานาน 3 ปี ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของปักกิ่ง และเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ในการลดสถานะของโควิด-19 จากโรคระบบทางเดินหายใจรุนแรง มาสู่สถานะของโรคประจำท้องถิ่น โดยฮ่องกงได้ปฏิบัติตามแนวทางของจีน ซึ่งได้ประกาศเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้รถไฟความเร็วสูงระหว่างฮ่องกงกับแผ่นดินใหญ่ได้กลับมาวิ่งให้บริการอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ได้ยกเลิกข้อบังคับการกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว แต่ชาวฮ่องกงยังคงถูกกำหนดให้ต้องสวมใส่หน้ากากอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ยกเว้นในกรณีจำเป็น เช่นการออกกำลังกาย
https://mgronline.com/china/detail/9660000005815
นักไวรัสวิทยา' กระทุ้งถึงเวลาทบทวนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวใหม่
'ดร.อนันต์'ชี้ไวรัสโควิดเปลี่ยนไวมาก โดยไปในทิศทางที่หนีภูมิจากวัคซีนเดิมไปเรื่อยๆ เผยอาจถึงเวลาต้องทบทวนการกระตุ้นด้วยวัคซีนตัวใหม่แบบจริงจังแล้ว
19 ม.ค.2566 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ดูเหมือนไวรัสสายพันธุ์ XBB ที่หนีภูมิเก่งที่สุดตอนนี้อาจจะโดนล้มแชมป์ในไม่ช้าครับ ข้อมูลล่าสุดจากทีมวิจัยของ Ohio State University พบว่า สายพันธุ์ลูกหลานของ BA.2.75 ชื่อว่า CA.3.1 อาจจะมีคุณสมบัติในการหนีภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์ XBB
ทีมวิจัยใช้ตัวอย่างซีรั่มของกลุ่มตัวอย่างที่ได้วัคซีนเข็มกระตุ้นชนิด Bivalent มาดูคุณสมบัติการต้านการติดเชื้อไวรัส XBB ได้ค่าประมาณ 159-199 (เทียบกับค่าเกิน 1000 เมื่อทดสอบกับ BA.5) แต่เมื่อทดสอบกับ CA.3.1 คนกลุ่มภูมิสูงๆเหล่านี้ได้ค่ายับยั้ง CA.3.1 เพียงแค่ 62 ซึ่งน้อยกว่า XBB ไปกว่า 3 เท่า
สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ได้วัคซีนเข็มกระตุ้นรูปแบบเดิมมา ภูมิต่อ XBB ได้ที่ 42-43 และ ต่อ CA.3.1 คือ 9 ซึ่งเทียบเท่ากับไม่มีภูมิต้านไวรัสเลย กลุ่มนี้ได้ภูมิต่อ BA.5 อยู่ประมาณ 200 ซึ่งค่อนข้างชัดว่าวัคซีนแบบ Bivalent มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิต่อโอมิครอนได้จริงๆ
ภูมิจากคนที่เคยติดเชื้อ BA.5 ตามธรรมชาติมา ได้ค่าภูมิต่อ BA.5 ไม่เท่ากับกลุ่มที่กระตุ้นด้วยวัคซีน bivalent แต่ภูมิต่อ CA.3.1 ไม่ได้ต่างกันมากคือประมาณ 45
ไวรัสเปลี่ยนไวมากครับ มาแบบไปในทิศทางที่หนีภูมิจากวัคซีนเดิมไปเรื่อยๆ การกระตุ้นด้วยวัคซีนอาจคงต้องคิดด้วยตัวใหม่แบบจริงจังละครับ เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนกับไวรัสใหม่ๆลดลงไปทุกทีๆ
https://www.thaipost.net/covid-19-news/305788/
ข่าวโควิดยังมีอยู่ค่ะ