สวัสดีครับ ผมมีเคสการขอเคลมมอเตอร์เครื่องซักผ้ามาแบ่งปันครับ
กระทู้นี้อาจจะยาวนิดนึงนะครับ
แต่อาจทำให้เงินหมื่นของพี่ใช้ได้คุ้มค่า หรืออาจไม่ตกเป้นเหยื่อการตลาด
เมื่อประมาณ 9ปีที่แล้ว ผมได้ซื้อเครื่องซักผ้าแบรนด์นึงมา (ภาษาอังกฤษสองตัว) ก็ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด จนเมื่อปลายปีที่แล้ว
แฟนผมก็ได้ซักผ้าปกติ แต่ตอนเปิดเครื่อง เครื่องดันไม่หมุน มีแต่เสียงครางของมอเตอร์ อื๊ดดดด อื๊ดดดดด
ด้วยตัวผมเองก็เป็นช่างพอมีสกิลช่างก็เลยมองว่าเป็นที่มอเตอร์ บวกกับหาข้อมูลในเน็ตผมก็สรุปว่าเป็นที่มอเตอร์แน่ๆ
ช่วงแรกๆผมก็หาอะไหล่ในร้านค้าออนไลน์ดู ว่าจะซื้อมาเปลี่ยนเองแหละ พอเหลือบไปเห็นสติ๊กเกอร์ที่แปะหน้าเครื่อง 10year Waranty Motor
ผมก็เลยไปดู เนมเพลทหลังเครื่องว่าเครื่องนี้ผลิตถึง 10ปี หรือยัง ใจก็อยากจะลองดูที่แบรนด์เขาเคลมว่า 10year Warraty นั้นเขาทำได้หรือป่าว
หลังดูเช็คเรียบร้อยแล้ว เครื่องผลิตมาได้ 9 ปี ยังอยู่ในช่วงประกัน ผมจึงโทรหา CC ของแบรนด์ ทาง CC ก็เช็คว่าเครื่อง 9ปี นะคะลูกค้า
จะเปิดเคสแจ้งซ่อมเลยมั้ย แต่ต้องรอหลังปีใหม่นะคะ ผมก็บอกกลับไปว่า ผมสามารถไปเอามอเตอร์มาเปลี่ยนเองได้มั้ยครับ?
ทาง CC บอกว่าไม่ได้คะ ต้องให้ช่างเข้าเช็คและเปลี่ยนให้ โดยจะมีค่าแรงช่างประมาณ 1,000 บาท แต่จะไม่เสียค่าอะไหล่
ผมก็.อ่ะ OK ครับ ก็เลยรอเวลา.เคสของผมอยู่ศรีนครินทร์ สมุทรปราการ ครับ.
พอหลังปีใหม่วันที่ 4/01/66 ช่างติดต่อเข้าตรวจเช็ค ผมก็ลางานรอที่บ้าน
ช่างมาด้วยมอเตอร์ไซค์และกระเป๋าเป้ 1 ใบ เวลาประมาณ 11.00
ผม : พี่ช่างครับ เอามอเตอร์มาเปลียนด้วยใช่มั้ยครับ
ช่าง : ยังครับผมต้องเช็คก่อน ว่ามอเตอร์เสียจริงมั้ย
(ผมคิดในใจ เอ้า...ถ้าไม่เอามอเตอร์ตัวดีมาเทสเเล้วจะรู้เหรอว่ามันเสียหรือไม่เสีย ถ้าเอามอเตอร์ตัวใหม่มาใส่ เครื่องหมุนได้ก็จบ ไม่เสียเวลาด้วย )
ผมก็เลย : OK พี่ อยากเช็คตรงไหนก็ลุยเลยครับ
ช่างก็เริ่มถอดจาก Pressure sensor ก่อนเลย เอาตัวใหม่เปลี่ยน => ไม่หมุน
พี่ช่างก็เริ่มขยับไปมอเตอร์เดรน ไขน็อตดังแป๊ะ!! บอดี้ของมอเตอร์เดรนเป็นพลาสติกสีขาวแตก!!!
ช่าง : พี่ครับมอเตอร์เดรนน่าจะเสีย เนี้ยแตกแล้ว
ผม : เหรอครับพี่ ลองเปลี่ยนตัวใหม่ดูมั้ยล่ะ(ผมคิดในใจมันจะเสียได้ไงว่ะ ตอนเทสเมื่อกี้มันยังปิด-เปิด ได้ปกติอยู่เลย)แต่ผมไม่อยากขัดเขาตอนนั้นกลัวเขา รมณ์เสียฮ่าๆๆๆ
ผมอยู่ช่างสายService เหมือนกันก็เข้าใจเขาอยู่เลยปล่อยให้เขาเช็คเต็มที่ ผมก็มองดูอยู่ห่างๆ
ช่าง : เอามอเตอร์เดรนมาเปลี่ยน =>ไม่หมุน อาการเดิมเลยมีแต่เสียงอื๊ดด อื๊ดด
เหมือนพี่ช่างจะเริ่มตัน เขาเริ่มโทรปรึกษาทีมงานนู้นนี้นั่น
ตอนนี้เริ่มกินเวลาไปเป็นชั่วโมงแล้ว
ผมก็เลยลองถามพี่ช่างไปว่า พี่ไม่คิดว่ามอเตอร์เสียเลยเหรอครับ ?
ช่าง :ไม่เกี่ยวหรอกครับ มอเตอร์ไม่เสียง่ายๆหรอก
ผมได้ยินนี้สตั๊นไป3วิ เลย
ผม:แล้วพี่จะเช็คตรงไหนต่อครับ
พี่ช่างก็เริ่มลื้อเริ่มถอดตัวถังฝาครอบถัง แผงหน้าปัดวงจรควบคุม
ผมก็เลยลองถามไปว่า พี่ลองปลดสายพานออกแล้วลองให้มอเตอร์หมุนตัวเปล่าๆดูมั้ยครับ พูดแบบเกรงใจๆพี่ช่าง ฮ่าๆๆๆๆ
ระหว่างนั่นพี่ช่างก็ยังจับนู้นจับนี้ ขยับนู้นขยับนี้ แล้วลองเทส ก็เหมือนเดิม
สุดท้ายพี่เขาก็ลองถอดสายพานแล้วหมุนมอเตอร์ตัวเปล่า สรุปว่าถ้าถอดสายพานมอเตอร์หมุน แต่พอเอามือแตะที่จานสายพาน มอเตอร์ก็หยุด
ผมจึงมั่นใจว่ามอเตอร์ไม่มีแรงบิดเเล้ว ขนาดเอามือแตะที่จานสายพานยังไม่มีแรงหมุน แล้วผ้า+น้ำ หนักเป็นสิบกิโลจะเอาแรงที่ไหนมาหมุน
แต่.พี่ช่างไม่คิดแบบนั้นครับ
แกบอกว่า น่าจะมีอะไรติดที่แกนซักแน่ๆเลย เพราะใช้มือหมุนถังเปล่าๆ (ตอนปลดสายพาน) ถังมันฝืดๆ
ผมก็เลยไม่พูดอะไรต่อ พี่ช่างแกก็ลื้อถังซักออกเพื่อดูแกน ผมก็ถือโอกาสล้างถังซักไปในตัวด้วยเลย ฮ่าๆๆๆๆ
สุดท้ายก็ไม่มีเศษถุงเท้าหรืออะไร นอกจากโคลนของเศษผงซักฟอก
ตอนนี้ก็กินเวลาไปถึงบ่ายสามโมงแล้ว
พอทำความสะอาดประกอบกลับเเล้วลองเทส=>เหมือนเดิม อื๊ดด อื๊ดดด
ผม: พี่คิดว่ามอเตอร์เสียมั้ยครับ
ช่าง: ไม่น่าเกี่ยวนะครับ เมื่อกี้มอเตอร์ยังหมุนอยู่เลย
พี่ช่างก็โทรปรึกษาทีมงานสักพัก.
ช่าง: เดี๋ยวผมสั่งมอเตอร์ กับแกนซักมาเทสให้นะครับ ต้องรอของ 20วัน
ช่าง: ตัวมอเตอร์เดรนต้องเปลี่ยนนะครับ มันแตกแล้ว ( อะไหล่จัวนี้เสียตังค์ น่าจะเก้าร้อยกว่าบาท )
ผม: รูน๊อตมันแตกครับ แต่มั้นยังไม่เสีย พี่เปลี่ยนของเดิมกลับให้ผมเลยนะครับ
แต่พี่ช่างยังไม่เปลี่ยนนะครับ เขาบอกเดี๋ยวใส่มอเตอร์จะเปลี่ยนคืนให้
ผม: ค่าแรงนี้ รอปิด Job แล้วค่อยจ่ายใช่มั้ยครับ?
ช่าง: จ่ายเลยครับ
ผมก็จ่ายพร้อมรับใบเสร็จมา ช่างก็กลับไปประมาณ 4โมงเย็น
พร้อมกับผมที่หมดไป 1วัน และยังไม่ได้อะไรคืบหน้า
ประมาณวันที่ 5/01/66 มีทีมงานช่างโทรมาบอกว่าให้ข้อมูลผมผิด มอเตอร์รับประกันแค่ 5ปี
ผมเลยบอกไปว่าที่เครื่องก็มีสติ๊กเกอร์แปะไว้นะครับว่า 10ปี
เขาเลยให้ผมส่งรูปไปให้ดู ผมก็ส่งรูปไปให้ดูในไลน์
ตอนนี้ผมเริ่มคิดในใจแล้วว่า งานนี้เคลมไม่ง่ายแน่ แต่ก็ยังมั่นใจในแบรนด์นะครับ ว่าแบรนด์ใหญ่ขนาดนี้
ถ้าทำไม่ได้เขาจะกล้าเอามาทำการตลาดเหรอวะ?
ผมเข้าใจว่าทีมช่างเป็นทีมภายนอกที่ไม่ใช่ทีมจากแบรนด์เอง แต่ผมไม่เข้าใจว่าทีมช่างทำไมเขาเริ่มเล่นแง่กับลูกค้า
ทั้งๆที่เขาน่าจะเบิกมอเตอร์จากแบรนด์ Warranty ได้ฟรีๆ ค่าแรงผมก็จ่าย
ระหว่างรอผมไม่เคยโทรตามโทรจี้ เสื้อผ้าผมก็ไส่แบบไม่ซัก แฮ่...ผมก็เอาใส่รถไปร้านสะดวกซักหน้าปากซอย
ก็ไม่ได้ไป Pressure ใส่ทางทีมช่างเลยนะครับ ผมเข้าใจว่างานเคลม ต้องสำคัญลำดับสุดท้ายอยู่แล้ว 5555+++
ล่าสุดวันนี้ 19/01/66
ทีมช่างโทรมาบอก มอเตอร์มาแล้วนะครับแต่รอ แกนซักอยู่ ของยังไม่เข้า
ผมก็เลยถามไปว่า พี่เอาแค่มอเตอร์มาใส่ให้ผมก่อนได้มั้นครับ ผมว่าแกนซักไม่เสียหรอก แค่นนี้เครื่องผมก็น่าจะใช้ได้แล้ว
ทีมช่าง : ไม่ได้ครับสั่งของมาแล้วต้องเปลี่ยนครับ ค่าแกนซักสองพันกว่าบาท
ผม : มันไม่เสียพี่จะเปลี่ยนทำไมครับ (น้ำเสียงผมเริ่มหนัก)
ทีมช่าง : ก็ช่างที่ไปหน้างานเข้าให้สั่งครับ ผมก็ต้องเชื่อช่างผม
ผม : พี่ลองคุยกับช่างพี่นะครับ ว่าช่างพี่บอว่าจะสั่งมาทดลอง เขานังไม่รู้เลยว่ามันเสียมั้ย
ทีมช่าง : ผมไม่ใช่ช่างผมต้องเชื่อช่างผมครับ (พูดคำเดิม)
ผม : ผมกำลังอธิบายให้พี่เข้าใจว่า ถ้าอุปกรณ์ตัวไหนไม่เสียก็ไม่ต้องเปลี่ยนให้ลูกค้านะครับ
ทีมช่าง : ผมสั่งของมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์แล้วมันไม่สมบูรณ์ ผมไม่รับผิดชอบนะครับ
ผม : ได้เลยครับ ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์แล้วใช้ได้ แกนซักไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ
ทีมช่าง : เดี๋ยวยังไงรอวันที่ช่างเข้าไปนะครับ
หลังคุยจบผมเริ่มหัวเสียนิดๆ
มีคำถามเกิดขึ้นในหัวผม อยากฝากถามไปถึงแบรนด์
- ช่างเขาไม่ได้เบิดมอเตอร์ Warranty ฟรีเหรอครับ ทำไมเขาถึงพยายามยัดเยียดเปลี่ยนอะไหล่ตัวที่ไม่เสียให้ลูกค้าด้วย
- ทางแบรนด์มีกฏเกณฑ์ในการคัดเลือก partner อย่างไรบ้างครับ มีการอบรบเรื่องจรรยาบรรณ บ้างหรือไม่ เขากำลังทำให้ภาพลักษ์ของแบรนด์เสียหายนะครับ
- หากเป็นคนแก่ สองตายาย ไม่รู้เรื่องช่างบ้าง ผมว่าเคสนี้มีโดนหลายพัน ทั้งๆที่แบรนด์ทำการตลากว่า 10year Warranty Motor.
- หากแบรนด์เคลมว่า 10 year motor warranty จะ 9.6ปี ก็ยังถือว่าอยู่ในประกันใช่มั้ยครับ
แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเอาเงื่อนไขนี้มาทำการตลาดนะครับ เพราะมันมีผลกับการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากๆ
หากทางแบรนด์นี้ (ภาษาอังกฤษ 2ตัว ) ผ่านมาเจอกระทู้นี้ รบกวนพิจารณาเคสให้ทีนะครับ
พี่ๆน้องๆที่กำลังตัดสินใจอยู่ จะรอดูเคสผมเพื่อประกอบกสรตัดสินใจการซื้อก็ได้นะครับ ของราคาเป็นหมื่นๆ อยู่กับเราหลายปี ครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
#Update 20/01/66
ช่วงบ่าย 2 ทีมช่างโทรมา ขอนัดเข้าแก้ไข แจ้งว่าของเข้ามาครบแล้ว
แผนก็คือ จะเปลี่ยนมอเตอร์ให้ก่อน หากใช้ได้ก็จะไม่เปลี่ยนแกนซักตามที่ผมแจ้ง
นัดวันอาทิตย์ที่ 22/01/66 เวลาบ่ายสามโมงครึ่งครับ
แบบนี้ผมค่อนข้างโอเคนะครับ
#Update 21/01/66
11.20 ผมโทรไปขอเลื่อนนัดทีมช่าง เนื่องจากผมกังวลว่าจะกลับจากต่างจังหวัดไม่ทัน
วันอาทิตย์บ่ายสาม
ช่างจึงนัดใหม่วันอังคาร 13.00 ทีมช่างแจ้งว่า จะส่งหัวหน้าช่างเข้ามาเปลี่ยนให้ครับ
#Update 25/01/66
เมื่อวาน 24/01/66 เวลา 13.30 พี่ช่างได้เข้ามาที่บ้าน
เป็นพี่ช่างคนใหม่ (หัวหน้าช่าง) พร้อมมอเตอร์ตัวใหม่
หลังจากทักทายพูดคุยกันแปบนึง พี่เขาก็ขอเข้าไปดูเครื่อง
และก็เริ่มทำงาน
จากที่สังเกตุพี่ช่างคนนี้ค่อนข้างชำนาญเลยครับ
- เอามอเตอร์ใหม่ มาวัดค่าความต้านทานขดลวด
- ถอดมอเตอร์เก่าออกมาวัดค่าความต้านทานขดลวดเทียบกับของใหม่
- พี่ช่างโชว์ค่าให้ดู มอเตอร์เก่า/ใหม่ = ได้เท่ากันทั้ง 3ค่า แสดงว่ามอเอตรอ์ไม่เสีย
อันนี้ผมไม่ติดใจใดๆเลยครับ เพราะเห็นค่าชัดเจนมาก
- พี่ช่างบอก ทีนี้ก็เหลือแค่Capacitorหรือที่เราเรียกกันว่า แคป รัน แล้วล่ะครับ
พี่หัวหน้าช่างคนนี้ไม่พูดถึงแกนซักเลย
พอพี่เขาถอดแคป รัน ออกมาให้ดูก็ โป๊ะเช่ะ เลยครับ
แคป รัน บวม แตก เสียแน่นอน
พี่ช่างไม่ได้เตรียมอะไหล่มาด้วย จึงโทรเช็คที่ออฟฟิศ => แต่ไม่มีของต้องรอ 1-2 วัน
ผม : จึงขอพี่ช่างว่า ผมหาของเองได้มั้ยครับ ผมรู้จัดร้านขายอุปกรณ์พวกนี้ แถวๆอ่อนนุช
พี่ช่างบอก :ได้เลยครับ ถ้าได้ของเเล้วแล้วแจ้งแกเดี๋ยวแกมาใส่ให้ ( ไม่คิดค่าแรงเพิ่ม )
ผม :เดี๋ยวผมใส่เองก็ได้ครับ ถ้ามอเตอร์ไม่เสียผมไม่รบกวนพี่แล้วครับ
พี่ช่าง
K ครับ พร้อมกับบอกวิธีใส่ และเทคการสังเกตุอะไหล่แท้ ต้องดูตรงไหนจะได้ไม่โดนหลอก
และพี่ช่างก็เปลี่ยนมอเตอร์เดรนตัวเก่าที่พี่ช่างคนเก่าเขาเปลี่ยนไว้กลับให้คืน
แล้วมันก็จะเหลือพวกแหวนรองฝาปั่น ต่างๆที่พี่ช่างคนแรกถอดไว้ยังไม่ได้ประกอบกลับ ผมเลยรบกวนให้พี่เขาใส่คืนให้หน่อย
สรุปพี่ช่างคนเก่าลืมใส่แหวนรองก้นถัง ระหว่างถังนอกกับถังใน ถ้าไม่รองแหวนตัวนี้จะทำให้ถังเสียดสีกันแล้วถังจะรั่วได้ พี่ช่างคนใหม่เขาแจ้งมาแบบนี้
พี่ช่างคนใหม่ก็ต้องลื้อถังออกมาใหม่หมด และให้ผมฉีดน้ำล้างเศษโคลนที่แห้งร่อนจากการล้างรอบที่แล้วอีกครั้งนึง
หลังจากประกอบเสร็จพี่ช่างก็แนะนำการตรวจเช็ค บำรุงรักษาอุปกรณ์เพิ่ม ซึ่งดีมาก ผมเข้าใจเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ขึ้นมากเลย
Filter กรองน้ำ มีจุดไหนบ้าง ต้องคอยหมั่นล้าง
เทคนิคการถอดถังล้าง ทำอย่างไรจะได้ง่ายๆ
ก่อนกลับพี่ช่างแจ้งว่าหากเอาแคป รัน มาเปลี่ยนแล้วยังไม่หมุนก็แจ้งพี่เขาได้เดี๋ยวเข้ามาดูให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะค่าแรงที่เก็บไป เขาดูแลให้ 90วัน
จากนั้นแยกย้ายกัน ผมก็ไปที่อ่อนนุชเพื่อซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน ของแท้ไม่มี ผมเลยได้ของเทียบมา ในราคา 120บาท ตอนนี้เครื่องใช้งานได้ปกติแล้วครับ
สรุป - ผมเสียค่าแรงช่าง เก้าร้อยกว่าบาท แค่ครั้งเดียว (แต่ผมว่าได้คุยกับพี่หัวหน้าช่างคิดว่าคุ้มครับ ได้รู้เทคนิคอะไรดีๆขึ้นเยอะครับ )
- ค่าอะไหล่ 120
-ช่างชื่อพี่สุพจน์
ส่วนตัวผมยังชอบแบรนด์นี้อยู่เพราะใช้มาเกือยสิบปีเจอปัญหาแค่แคป รัน บวมแตก ถ้าพี่หัวหน้าช่างคนนี้มารอบแรกผมว่าจบตั้งแต่วันแรกแล้ว
น่าเสียดายตรงนี้ครับ
ใครจะซื้อเครื่องซักผ้าแบรนด์นี้ (ภาษาอังกฤษสองตัว) เพราะเงื่อนไขประกันมอเตอร์ 10 ปี รอจบเคสของผมก่อนนะครับ
กระทู้นี้อาจจะยาวนิดนึงนะครับ
แต่อาจทำให้เงินหมื่นของพี่ใช้ได้คุ้มค่า หรืออาจไม่ตกเป้นเหยื่อการตลาด
เมื่อประมาณ 9ปีที่แล้ว ผมได้ซื้อเครื่องซักผ้าแบรนด์นึงมา (ภาษาอังกฤษสองตัว) ก็ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด จนเมื่อปลายปีที่แล้ว
แฟนผมก็ได้ซักผ้าปกติ แต่ตอนเปิดเครื่อง เครื่องดันไม่หมุน มีแต่เสียงครางของมอเตอร์ อื๊ดดดด อื๊ดดดดด
ด้วยตัวผมเองก็เป็นช่างพอมีสกิลช่างก็เลยมองว่าเป็นที่มอเตอร์ บวกกับหาข้อมูลในเน็ตผมก็สรุปว่าเป็นที่มอเตอร์แน่ๆ
ช่วงแรกๆผมก็หาอะไหล่ในร้านค้าออนไลน์ดู ว่าจะซื้อมาเปลี่ยนเองแหละ พอเหลือบไปเห็นสติ๊กเกอร์ที่แปะหน้าเครื่อง 10year Waranty Motor
ผมก็เลยไปดู เนมเพลทหลังเครื่องว่าเครื่องนี้ผลิตถึง 10ปี หรือยัง ใจก็อยากจะลองดูที่แบรนด์เขาเคลมว่า 10year Warraty นั้นเขาทำได้หรือป่าว
หลังดูเช็คเรียบร้อยแล้ว เครื่องผลิตมาได้ 9 ปี ยังอยู่ในช่วงประกัน ผมจึงโทรหา CC ของแบรนด์ ทาง CC ก็เช็คว่าเครื่อง 9ปี นะคะลูกค้า
จะเปิดเคสแจ้งซ่อมเลยมั้ย แต่ต้องรอหลังปีใหม่นะคะ ผมก็บอกกลับไปว่า ผมสามารถไปเอามอเตอร์มาเปลี่ยนเองได้มั้ยครับ?
ทาง CC บอกว่าไม่ได้คะ ต้องให้ช่างเข้าเช็คและเปลี่ยนให้ โดยจะมีค่าแรงช่างประมาณ 1,000 บาท แต่จะไม่เสียค่าอะไหล่
ผมก็.อ่ะ OK ครับ ก็เลยรอเวลา.เคสของผมอยู่ศรีนครินทร์ สมุทรปราการ ครับ.
พอหลังปีใหม่วันที่ 4/01/66 ช่างติดต่อเข้าตรวจเช็ค ผมก็ลางานรอที่บ้าน
ช่างมาด้วยมอเตอร์ไซค์และกระเป๋าเป้ 1 ใบ เวลาประมาณ 11.00
ผม : พี่ช่างครับ เอามอเตอร์มาเปลียนด้วยใช่มั้ยครับ
ช่าง : ยังครับผมต้องเช็คก่อน ว่ามอเตอร์เสียจริงมั้ย
(ผมคิดในใจ เอ้า...ถ้าไม่เอามอเตอร์ตัวดีมาเทสเเล้วจะรู้เหรอว่ามันเสียหรือไม่เสีย ถ้าเอามอเตอร์ตัวใหม่มาใส่ เครื่องหมุนได้ก็จบ ไม่เสียเวลาด้วย )
ผมก็เลย : OK พี่ อยากเช็คตรงไหนก็ลุยเลยครับ
ช่างก็เริ่มถอดจาก Pressure sensor ก่อนเลย เอาตัวใหม่เปลี่ยน => ไม่หมุน
พี่ช่างก็เริ่มขยับไปมอเตอร์เดรน ไขน็อตดังแป๊ะ!! บอดี้ของมอเตอร์เดรนเป็นพลาสติกสีขาวแตก!!!
ช่าง : พี่ครับมอเตอร์เดรนน่าจะเสีย เนี้ยแตกแล้ว
ผม : เหรอครับพี่ ลองเปลี่ยนตัวใหม่ดูมั้ยล่ะ(ผมคิดในใจมันจะเสียได้ไงว่ะ ตอนเทสเมื่อกี้มันยังปิด-เปิด ได้ปกติอยู่เลย)แต่ผมไม่อยากขัดเขาตอนนั้นกลัวเขา รมณ์เสียฮ่าๆๆๆ
ผมอยู่ช่างสายService เหมือนกันก็เข้าใจเขาอยู่เลยปล่อยให้เขาเช็คเต็มที่ ผมก็มองดูอยู่ห่างๆ
ช่าง : เอามอเตอร์เดรนมาเปลี่ยน =>ไม่หมุน อาการเดิมเลยมีแต่เสียงอื๊ดด อื๊ดด
เหมือนพี่ช่างจะเริ่มตัน เขาเริ่มโทรปรึกษาทีมงานนู้นนี้นั่น
ตอนนี้เริ่มกินเวลาไปเป็นชั่วโมงแล้ว
ผมก็เลยลองถามพี่ช่างไปว่า พี่ไม่คิดว่ามอเตอร์เสียเลยเหรอครับ ?
ช่าง :ไม่เกี่ยวหรอกครับ มอเตอร์ไม่เสียง่ายๆหรอก
ผมได้ยินนี้สตั๊นไป3วิ เลย
ผม:แล้วพี่จะเช็คตรงไหนต่อครับ
พี่ช่างก็เริ่มลื้อเริ่มถอดตัวถังฝาครอบถัง แผงหน้าปัดวงจรควบคุม
ผมก็เลยลองถามไปว่า พี่ลองปลดสายพานออกแล้วลองให้มอเตอร์หมุนตัวเปล่าๆดูมั้ยครับ พูดแบบเกรงใจๆพี่ช่าง ฮ่าๆๆๆๆ
ระหว่างนั่นพี่ช่างก็ยังจับนู้นจับนี้ ขยับนู้นขยับนี้ แล้วลองเทส ก็เหมือนเดิม
สุดท้ายพี่เขาก็ลองถอดสายพานแล้วหมุนมอเตอร์ตัวเปล่า สรุปว่าถ้าถอดสายพานมอเตอร์หมุน แต่พอเอามือแตะที่จานสายพาน มอเตอร์ก็หยุด
ผมจึงมั่นใจว่ามอเตอร์ไม่มีแรงบิดเเล้ว ขนาดเอามือแตะที่จานสายพานยังไม่มีแรงหมุน แล้วผ้า+น้ำ หนักเป็นสิบกิโลจะเอาแรงที่ไหนมาหมุน
แต่.พี่ช่างไม่คิดแบบนั้นครับ
แกบอกว่า น่าจะมีอะไรติดที่แกนซักแน่ๆเลย เพราะใช้มือหมุนถังเปล่าๆ (ตอนปลดสายพาน) ถังมันฝืดๆ
ผมก็เลยไม่พูดอะไรต่อ พี่ช่างแกก็ลื้อถังซักออกเพื่อดูแกน ผมก็ถือโอกาสล้างถังซักไปในตัวด้วยเลย ฮ่าๆๆๆๆ
สุดท้ายก็ไม่มีเศษถุงเท้าหรืออะไร นอกจากโคลนของเศษผงซักฟอก
ตอนนี้ก็กินเวลาไปถึงบ่ายสามโมงแล้ว
พอทำความสะอาดประกอบกลับเเล้วลองเทส=>เหมือนเดิม อื๊ดด อื๊ดดด
ผม: พี่คิดว่ามอเตอร์เสียมั้ยครับ
ช่าง: ไม่น่าเกี่ยวนะครับ เมื่อกี้มอเตอร์ยังหมุนอยู่เลย
พี่ช่างก็โทรปรึกษาทีมงานสักพัก.
ช่าง: เดี๋ยวผมสั่งมอเตอร์ กับแกนซักมาเทสให้นะครับ ต้องรอของ 20วัน
ช่าง: ตัวมอเตอร์เดรนต้องเปลี่ยนนะครับ มันแตกแล้ว ( อะไหล่จัวนี้เสียตังค์ น่าจะเก้าร้อยกว่าบาท )
ผม: รูน๊อตมันแตกครับ แต่มั้นยังไม่เสีย พี่เปลี่ยนของเดิมกลับให้ผมเลยนะครับ
แต่พี่ช่างยังไม่เปลี่ยนนะครับ เขาบอกเดี๋ยวใส่มอเตอร์จะเปลี่ยนคืนให้
ผม: ค่าแรงนี้ รอปิด Job แล้วค่อยจ่ายใช่มั้ยครับ?
ช่าง: จ่ายเลยครับ
ผมก็จ่ายพร้อมรับใบเสร็จมา ช่างก็กลับไปประมาณ 4โมงเย็น
พร้อมกับผมที่หมดไป 1วัน และยังไม่ได้อะไรคืบหน้า
ประมาณวันที่ 5/01/66 มีทีมงานช่างโทรมาบอกว่าให้ข้อมูลผมผิด มอเตอร์รับประกันแค่ 5ปี
ผมเลยบอกไปว่าที่เครื่องก็มีสติ๊กเกอร์แปะไว้นะครับว่า 10ปี
เขาเลยให้ผมส่งรูปไปให้ดู ผมก็ส่งรูปไปให้ดูในไลน์
ตอนนี้ผมเริ่มคิดในใจแล้วว่า งานนี้เคลมไม่ง่ายแน่ แต่ก็ยังมั่นใจในแบรนด์นะครับ ว่าแบรนด์ใหญ่ขนาดนี้
ถ้าทำไม่ได้เขาจะกล้าเอามาทำการตลาดเหรอวะ?
ผมเข้าใจว่าทีมช่างเป็นทีมภายนอกที่ไม่ใช่ทีมจากแบรนด์เอง แต่ผมไม่เข้าใจว่าทีมช่างทำไมเขาเริ่มเล่นแง่กับลูกค้า
ทั้งๆที่เขาน่าจะเบิกมอเตอร์จากแบรนด์ Warranty ได้ฟรีๆ ค่าแรงผมก็จ่าย
ระหว่างรอผมไม่เคยโทรตามโทรจี้ เสื้อผ้าผมก็ไส่แบบไม่ซัก แฮ่...ผมก็เอาใส่รถไปร้านสะดวกซักหน้าปากซอย
ก็ไม่ได้ไป Pressure ใส่ทางทีมช่างเลยนะครับ ผมเข้าใจว่างานเคลม ต้องสำคัญลำดับสุดท้ายอยู่แล้ว 5555+++
ล่าสุดวันนี้ 19/01/66
ทีมช่างโทรมาบอก มอเตอร์มาแล้วนะครับแต่รอ แกนซักอยู่ ของยังไม่เข้า
ผมก็เลยถามไปว่า พี่เอาแค่มอเตอร์มาใส่ให้ผมก่อนได้มั้นครับ ผมว่าแกนซักไม่เสียหรอก แค่นนี้เครื่องผมก็น่าจะใช้ได้แล้ว
ทีมช่าง : ไม่ได้ครับสั่งของมาแล้วต้องเปลี่ยนครับ ค่าแกนซักสองพันกว่าบาท
ผม : มันไม่เสียพี่จะเปลี่ยนทำไมครับ (น้ำเสียงผมเริ่มหนัก)
ทีมช่าง : ก็ช่างที่ไปหน้างานเข้าให้สั่งครับ ผมก็ต้องเชื่อช่างผม
ผม : พี่ลองคุยกับช่างพี่นะครับ ว่าช่างพี่บอว่าจะสั่งมาทดลอง เขานังไม่รู้เลยว่ามันเสียมั้ย
ทีมช่าง : ผมไม่ใช่ช่างผมต้องเชื่อช่างผมครับ (พูดคำเดิม)
ผม : ผมกำลังอธิบายให้พี่เข้าใจว่า ถ้าอุปกรณ์ตัวไหนไม่เสียก็ไม่ต้องเปลี่ยนให้ลูกค้านะครับ
ทีมช่าง : ผมสั่งของมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์แล้วมันไม่สมบูรณ์ ผมไม่รับผิดชอบนะครับ
ผม : ได้เลยครับ ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์แล้วใช้ได้ แกนซักไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ
ทีมช่าง : เดี๋ยวยังไงรอวันที่ช่างเข้าไปนะครับ
หลังคุยจบผมเริ่มหัวเสียนิดๆ
มีคำถามเกิดขึ้นในหัวผม อยากฝากถามไปถึงแบรนด์
- ช่างเขาไม่ได้เบิดมอเตอร์ Warranty ฟรีเหรอครับ ทำไมเขาถึงพยายามยัดเยียดเปลี่ยนอะไหล่ตัวที่ไม่เสียให้ลูกค้าด้วย
- ทางแบรนด์มีกฏเกณฑ์ในการคัดเลือก partner อย่างไรบ้างครับ มีการอบรบเรื่องจรรยาบรรณ บ้างหรือไม่ เขากำลังทำให้ภาพลักษ์ของแบรนด์เสียหายนะครับ
- หากเป็นคนแก่ สองตายาย ไม่รู้เรื่องช่างบ้าง ผมว่าเคสนี้มีโดนหลายพัน ทั้งๆที่แบรนด์ทำการตลากว่า 10year Warranty Motor.
- หากแบรนด์เคลมว่า 10 year motor warranty จะ 9.6ปี ก็ยังถือว่าอยู่ในประกันใช่มั้ยครับ
แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเอาเงื่อนไขนี้มาทำการตลาดนะครับ เพราะมันมีผลกับการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากๆ
หากทางแบรนด์นี้ (ภาษาอังกฤษ 2ตัว ) ผ่านมาเจอกระทู้นี้ รบกวนพิจารณาเคสให้ทีนะครับ
พี่ๆน้องๆที่กำลังตัดสินใจอยู่ จะรอดูเคสผมเพื่อประกอบกสรตัดสินใจการซื้อก็ได้นะครับ ของราคาเป็นหมื่นๆ อยู่กับเราหลายปี ครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
#Update 20/01/66
ช่วงบ่าย 2 ทีมช่างโทรมา ขอนัดเข้าแก้ไข แจ้งว่าของเข้ามาครบแล้ว
แผนก็คือ จะเปลี่ยนมอเตอร์ให้ก่อน หากใช้ได้ก็จะไม่เปลี่ยนแกนซักตามที่ผมแจ้ง
นัดวันอาทิตย์ที่ 22/01/66 เวลาบ่ายสามโมงครึ่งครับ
แบบนี้ผมค่อนข้างโอเคนะครับ
#Update 21/01/66
11.20 ผมโทรไปขอเลื่อนนัดทีมช่าง เนื่องจากผมกังวลว่าจะกลับจากต่างจังหวัดไม่ทัน
วันอาทิตย์บ่ายสาม
ช่างจึงนัดใหม่วันอังคาร 13.00 ทีมช่างแจ้งว่า จะส่งหัวหน้าช่างเข้ามาเปลี่ยนให้ครับ
#Update 25/01/66
เมื่อวาน 24/01/66 เวลา 13.30 พี่ช่างได้เข้ามาที่บ้าน
เป็นพี่ช่างคนใหม่ (หัวหน้าช่าง) พร้อมมอเตอร์ตัวใหม่
หลังจากทักทายพูดคุยกันแปบนึง พี่เขาก็ขอเข้าไปดูเครื่อง
และก็เริ่มทำงาน
จากที่สังเกตุพี่ช่างคนนี้ค่อนข้างชำนาญเลยครับ
- เอามอเตอร์ใหม่ มาวัดค่าความต้านทานขดลวด
- ถอดมอเตอร์เก่าออกมาวัดค่าความต้านทานขดลวดเทียบกับของใหม่
- พี่ช่างโชว์ค่าให้ดู มอเตอร์เก่า/ใหม่ = ได้เท่ากันทั้ง 3ค่า แสดงว่ามอเอตรอ์ไม่เสีย
อันนี้ผมไม่ติดใจใดๆเลยครับ เพราะเห็นค่าชัดเจนมาก
- พี่ช่างบอก ทีนี้ก็เหลือแค่Capacitorหรือที่เราเรียกกันว่า แคป รัน แล้วล่ะครับ
พี่หัวหน้าช่างคนนี้ไม่พูดถึงแกนซักเลย
พอพี่เขาถอดแคป รัน ออกมาให้ดูก็ โป๊ะเช่ะ เลยครับ
แคป รัน บวม แตก เสียแน่นอน
พี่ช่างไม่ได้เตรียมอะไหล่มาด้วย จึงโทรเช็คที่ออฟฟิศ => แต่ไม่มีของต้องรอ 1-2 วัน
ผม : จึงขอพี่ช่างว่า ผมหาของเองได้มั้ยครับ ผมรู้จัดร้านขายอุปกรณ์พวกนี้ แถวๆอ่อนนุช
พี่ช่างบอก :ได้เลยครับ ถ้าได้ของเเล้วแล้วแจ้งแกเดี๋ยวแกมาใส่ให้ ( ไม่คิดค่าแรงเพิ่ม )
ผม :เดี๋ยวผมใส่เองก็ได้ครับ ถ้ามอเตอร์ไม่เสียผมไม่รบกวนพี่แล้วครับ
พี่ช่าง K ครับ พร้อมกับบอกวิธีใส่ และเทคการสังเกตุอะไหล่แท้ ต้องดูตรงไหนจะได้ไม่โดนหลอก
และพี่ช่างก็เปลี่ยนมอเตอร์เดรนตัวเก่าที่พี่ช่างคนเก่าเขาเปลี่ยนไว้กลับให้คืน
แล้วมันก็จะเหลือพวกแหวนรองฝาปั่น ต่างๆที่พี่ช่างคนแรกถอดไว้ยังไม่ได้ประกอบกลับ ผมเลยรบกวนให้พี่เขาใส่คืนให้หน่อย
สรุปพี่ช่างคนเก่าลืมใส่แหวนรองก้นถัง ระหว่างถังนอกกับถังใน ถ้าไม่รองแหวนตัวนี้จะทำให้ถังเสียดสีกันแล้วถังจะรั่วได้ พี่ช่างคนใหม่เขาแจ้งมาแบบนี้
พี่ช่างคนใหม่ก็ต้องลื้อถังออกมาใหม่หมด และให้ผมฉีดน้ำล้างเศษโคลนที่แห้งร่อนจากการล้างรอบที่แล้วอีกครั้งนึง
หลังจากประกอบเสร็จพี่ช่างก็แนะนำการตรวจเช็ค บำรุงรักษาอุปกรณ์เพิ่ม ซึ่งดีมาก ผมเข้าใจเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ขึ้นมากเลย
Filter กรองน้ำ มีจุดไหนบ้าง ต้องคอยหมั่นล้าง
เทคนิคการถอดถังล้าง ทำอย่างไรจะได้ง่ายๆ
ก่อนกลับพี่ช่างแจ้งว่าหากเอาแคป รัน มาเปลี่ยนแล้วยังไม่หมุนก็แจ้งพี่เขาได้เดี๋ยวเข้ามาดูให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะค่าแรงที่เก็บไป เขาดูแลให้ 90วัน
จากนั้นแยกย้ายกัน ผมก็ไปที่อ่อนนุชเพื่อซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน ของแท้ไม่มี ผมเลยได้ของเทียบมา ในราคา 120บาท ตอนนี้เครื่องใช้งานได้ปกติแล้วครับ
สรุป - ผมเสียค่าแรงช่าง เก้าร้อยกว่าบาท แค่ครั้งเดียว (แต่ผมว่าได้คุยกับพี่หัวหน้าช่างคิดว่าคุ้มครับ ได้รู้เทคนิคอะไรดีๆขึ้นเยอะครับ )
- ค่าอะไหล่ 120
-ช่างชื่อพี่สุพจน์
ส่วนตัวผมยังชอบแบรนด์นี้อยู่เพราะใช้มาเกือยสิบปีเจอปัญหาแค่แคป รัน บวมแตก ถ้าพี่หัวหน้าช่างคนนี้มารอบแรกผมว่าจบตั้งแต่วันแรกแล้ว
น่าเสียดายตรงนี้ครับ