เราเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเจอปัญหาเดียวกับเรา วันนี้เลยอยากได้คำแนะนำจากคนอื่นๆดูบ้างค่ะ
เกริ่นก่อนว่าเราคบแฟนได้2ปี ยังไม่ได้ตกลงหมั้นหมายกัน แต่ครอบครัวทั้งสองของเราก็เคยเจอเคยคุยกันไว้บ้างแล้ว
ช่วงนั้นเป็นจังหวะที่เราออกจากงานประจำ พ่อแม่แฟนเค้าก็ได้ชวนเราไปอยู่บ้าน ซึ่งที่บ้านมีธุรกิจครอบครัว และมีพี่สาวแฟนอาศัยอยู่ด้วย
ด้วยความที่เราไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน เราจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับเค้า เพียงเพราะว่าเราตั้งใจจะวางอนาคตกับแฟนคนนี้ และพ่อแม่แฟนเค้าก็ดูจริงใจกับเราดีนะ
การเข้าไปอยู่ที่ๆเราไม่ได้เติบโตและรู้จักนิสัยใจคอกันดี มันทำให้เรารู้สึกเกรงใจ ทำตัวไม่ถูก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ตั้งแต่ได้เข้าไปอยู่ เราก็เริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกไม่พอใจของพี่สาวแฟนมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะออกมาในทางคำพูดที่ว่า
ที่ผู้หญิงมาคบกับน้องชายเขาก็เพราะเงินบ้าง หรือบางครั้งก็พูดกับเราว่า เธอจะอยู่บ้านนี้ได้จริงๆหรอ และในอีกหลายๆคำพูด มันก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้
เราพยายามบอกแฟนมาตลอดว่าเรารู้สึกไม่ดี เราเสียความรู้สึก กับคำพูดของพี่สาวเค้า แต่สิ่งที่เค้าช่วยได้ก็แค่การรับฟัง
ซึ่งเรื่องนี้เราเองได้พยายามปรับความคิดตัวเองมากๆ เราพยายามอยู่ 1 ปี
จนวันนึงเราก็อยากจะมั่นใจว่าในอนาคตกับแฟนคนนี้มันจะสดใส เราได้ถามเค้าไปว่า '' ในวันข้างหน้าเราจะได้เก็บเงินมีบ้านมีรถเป็นของตัวเราเองไหม''
คำตอบที่ได้คือ เค้ายังตอบไม่ได้ แล้วเค้าก็ย้อนมาว่าเรา ''ลองดูศักยภาพตัวเองบ้างสิ''
คำพูดนี้มันทำให้เราคิดไปได้ว่า เราไม่สมควรอยู่กับเค้าแล้วแน่ๆ การที่เราปรับความคิด ปรับจูนเข้าหาที่บ้านเค้าอย่างเต็มที่มา1ปีเต็มๆ มันไม่มีความหมายเลย แฟนเราเค้าไม่ได้อยู่ข้างๆให้กำลังใจเรา ช่วยประคองเราเลยด้วยซ้ำ มันก็เกิดจุดแตกหักครั้งใหญ่
ในเมื่อเราอยู่ตัวคนเดียวในบ้านเค้าแล้ว เราควรถอยออกมาดีมั้ย ซึ่งสิ่งที่เราทำคือการเก็บเสื้อผ้ากระเป๋า 1 ใบ กับตระกร้าผ้า ออกไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับใคร สิ่งนี้มันทำให้พี่สาวเค้าไม่พอใจอย่างมากและบอกกับแฟนเราว่า ''ถ้ามันจะไปก็ไปให้รอด อย่ากลับมา '' แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครรู้เลยว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากอะไร
การกระทำของเรามันผิดจริง เราได้เข้ามาขอโทษพ่อแม่แฟนเรียบร้อยแล้ว และได้บอกกับเค้าไปตรงๆว่าเรา อึดอัด ที่โดนดูถูก โดนคำพูดเหยียดจากพี่สาวแฟนมาตลอด และสุดท้ายแล้ว แฟนเราก็ไม่ได้อยู่ข้างๆเราเพื่อซัพพอร์ตเลย
สุดท้ายแล้วเราอยากจะขอฟังความคิดเห็นจากคนอื่นๆดู ว่าเราควรจะพอแค่นี้ หรือปรับจูนกันใหม่ดีคะ
การเข้าไปใช้ชีวิตกับครอบครัวแฟน มันไม่ใช่เรื่องงายเลยจริงๆ
เกริ่นก่อนว่าเราคบแฟนได้2ปี ยังไม่ได้ตกลงหมั้นหมายกัน แต่ครอบครัวทั้งสองของเราก็เคยเจอเคยคุยกันไว้บ้างแล้ว
ช่วงนั้นเป็นจังหวะที่เราออกจากงานประจำ พ่อแม่แฟนเค้าก็ได้ชวนเราไปอยู่บ้าน ซึ่งที่บ้านมีธุรกิจครอบครัว และมีพี่สาวแฟนอาศัยอยู่ด้วย
ด้วยความที่เราไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน เราจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับเค้า เพียงเพราะว่าเราตั้งใจจะวางอนาคตกับแฟนคนนี้ และพ่อแม่แฟนเค้าก็ดูจริงใจกับเราดีนะ
การเข้าไปอยู่ที่ๆเราไม่ได้เติบโตและรู้จักนิสัยใจคอกันดี มันทำให้เรารู้สึกเกรงใจ ทำตัวไม่ถูก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ตั้งแต่ได้เข้าไปอยู่ เราก็เริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกไม่พอใจของพี่สาวแฟนมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะออกมาในทางคำพูดที่ว่า
ที่ผู้หญิงมาคบกับน้องชายเขาก็เพราะเงินบ้าง หรือบางครั้งก็พูดกับเราว่า เธอจะอยู่บ้านนี้ได้จริงๆหรอ และในอีกหลายๆคำพูด มันก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้
เราพยายามบอกแฟนมาตลอดว่าเรารู้สึกไม่ดี เราเสียความรู้สึก กับคำพูดของพี่สาวเค้า แต่สิ่งที่เค้าช่วยได้ก็แค่การรับฟัง
ซึ่งเรื่องนี้เราเองได้พยายามปรับความคิดตัวเองมากๆ เราพยายามอยู่ 1 ปี
จนวันนึงเราก็อยากจะมั่นใจว่าในอนาคตกับแฟนคนนี้มันจะสดใส เราได้ถามเค้าไปว่า '' ในวันข้างหน้าเราจะได้เก็บเงินมีบ้านมีรถเป็นของตัวเราเองไหม''
คำตอบที่ได้คือ เค้ายังตอบไม่ได้ แล้วเค้าก็ย้อนมาว่าเรา ''ลองดูศักยภาพตัวเองบ้างสิ''
คำพูดนี้มันทำให้เราคิดไปได้ว่า เราไม่สมควรอยู่กับเค้าแล้วแน่ๆ การที่เราปรับความคิด ปรับจูนเข้าหาที่บ้านเค้าอย่างเต็มที่มา1ปีเต็มๆ มันไม่มีความหมายเลย แฟนเราเค้าไม่ได้อยู่ข้างๆให้กำลังใจเรา ช่วยประคองเราเลยด้วยซ้ำ มันก็เกิดจุดแตกหักครั้งใหญ่
ในเมื่อเราอยู่ตัวคนเดียวในบ้านเค้าแล้ว เราควรถอยออกมาดีมั้ย ซึ่งสิ่งที่เราทำคือการเก็บเสื้อผ้ากระเป๋า 1 ใบ กับตระกร้าผ้า ออกไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับใคร สิ่งนี้มันทำให้พี่สาวเค้าไม่พอใจอย่างมากและบอกกับแฟนเราว่า ''ถ้ามันจะไปก็ไปให้รอด อย่ากลับมา '' แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครรู้เลยว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากอะไร
การกระทำของเรามันผิดจริง เราได้เข้ามาขอโทษพ่อแม่แฟนเรียบร้อยแล้ว และได้บอกกับเค้าไปตรงๆว่าเรา อึดอัด ที่โดนดูถูก โดนคำพูดเหยียดจากพี่สาวแฟนมาตลอด และสุดท้ายแล้ว แฟนเราก็ไม่ได้อยู่ข้างๆเราเพื่อซัพพอร์ตเลย
สุดท้ายแล้วเราอยากจะขอฟังความคิดเห็นจากคนอื่นๆดู ว่าเราควรจะพอแค่นี้ หรือปรับจูนกันใหม่ดีคะ