Credit: รหัสวิทยา
อันการพิจารณาดวงชะตาบุคคลนั้น มิใช่ว่ารู้แค่หลักโยคเกณฑ์และดาวอันส่งเสริมให้คุณแก่ดวงชะตาแต่เพียงอย่างเดียวแล้วก็จะพยากรณ์กันโผงผางไปว่าดวงนั้นดีเด่นให้คุณอันดับหนึ่งตามลักษณะที่ตำราสรรเสริญไว้นั้น แท้จริงเราจะต้องเข้าใจถึงจุดเบียน(จุดเสีย)ของดวงชะตาด้วย
.
ดังจะแจกแจงดังต่อไปนี้
.
1. ภพ อริ มรณะ และวินาศนะ หรือภพที่ 6 8 และ 12 ของดวงชะตานั้นคือจุดอับของดวงชะตาที่เรียกกันว่า “ทุสถานะ” ดาวใดไปอยู่ก็เท่ากับดาวนั้นถูกฆ่า ถูกทำลาย ถูกทำให้เสื่อมสมรรถภาพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวอาทิตย์ จันทร์ และพฤหัสบดี อันเป็นดาวหลักของดวงชะตา หากดาวเหล่านี้ถูกฆ่าหมดเสียแล้วก็เรียกว่าดวงอาภัพ แม้นจะรุ่งโรจน์ก็ไม่ยั่งยืน แม้ดาวเจ้าเรือนทั้ง 3 อันให้โทษนั้นมาสัมพันธ์ถึงลัคนา ก็ย่อมให้โทษด้วยเช่นเดียวกัน
.
2. ดาวเจ้าเรือนลัคนา ซึ่งอาจเปรียบเสมือนลัคนาที่ 2 ในดวงชะตาก็มีความสำคัญมาก หากว่าดาวเจ้าเรือนลัคนาเป็นประเป็นนิจ หรือถูกบาปเคราะห์เบียนอย่างรุนแรง หรือถูกเบียนโดย อริ มรณะ วินาศนะ ย่อมทำให้วาสนารถถอยลงไป แม้มั่งมีศรีสุขก็จะกลายเป็นขี้โรค มีโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนไม่มีความสุข ถึงดวงจะมีโยคเกณฑ์เด่นสักปานใดก็จะต้องลดถอยลงเสมอ ด้วยความที่ดาวเจ้าเรือนลัคนาหรือวาสนาถูกเบียดเบียนเสียแล้ว
.
3. อันโยคเกณฑ์นั้นแม้จะดีปานใด แต่ถ้าดาวบาปเคราะห์เบียนลัคนาอย่างรุนแรงแล้ว ก็จะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคและบั่นทอนคุณภาพความดีลงไปจนถึงขนาดวาสนาไม่ยั่งยืนนานก็ได้
.
4. ตามโยคเกณฑ์อันดีเด่นนั้น เราจะต้องตรวจด้วยว่า ดาวอันให้คุณตามโยคเกณฑ์ที่ว่านั้นเป็นดาวอันให้โทษหรือเปล่า คือเป็นเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาศนะ หรือถูกบาปเคราะห์เบียดเบียนหรือไม่ มิเช่นนั้นโทษกับคุณก็จะหักล้างกันไป
.
5. เรือนใดถูกบาปเคราะห์เบียดเบียนอยู่ หรือถูกดาวอริ มรณะ และวินาศนะไปครองอยู่ ดาวเจ้าเรือนนั้นๆ ย่อมมีสภาพเหมือนบาปเคราะห์หรือดาว อริ มรณะ วินาศนะ นั้นด้วย แม้ไปอยู่เรือนใดก็ย่อมสำแดงโทษให้
.
6. ดาวพระเคราะห์อันแลกเรือนกัน ถ้าไปแลกกับเรือนที่เสีย เช่นไปแลกกับเรือนอริ มรณะ และวินาศนะ ย่อมจะนำผลชั่วมาสู่ด้วย
.
7. เรือนใดภพใดที่มีดาวสถิตอยู่ก็ดี หรือไม่มีดาวสถิตอยู่ก็ดี อาจมีดาวบาปเคราะห์ขนาบหน้าหลังเรือนนั้นอยู่ ก็ย่อมเกิดโทษเสมอ
.
8. ดาวบาปเคราะห์ขนาบหน้าหลังลัคนา ทำให้ชีวิตมีอุปสรรคเดือดร้อนไม่สร่าง แต่ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์ขนาบหน้าหลังมักได้ผู้อุปถัมภ์ค้ำชูดี ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
.
9. ถ้ามีดาวบาปเคราะห์นำหน้าลัคนาหลายดวงในตำแหน่งศูนยะพาหะ จะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคมากและเดือดร้อนอยู่ไม่สร่าง
.
10. ถ้ามีดาวบาปเคราะห์กลุ่มลัคนาหลายดวงจะทำให้ชีวิตลำบากยากแค้น มักประสบอุบัติเหตุเดือดร้อนนานาประการไม่เคยสงบลงได้
🙂
เรียบเรียงจากหนังสือ : ประถมภาคแห่งโหราศาสตร์
เขียนโดย : อ. พลูหลวง (ประยูร อุลุชาฎะ ศิลปินแห่งชาติ)
ดาวบาปเคราะห์ และเจ้าเรือนทุสถาน
อันการพิจารณาดวงชะตาบุคคลนั้น มิใช่ว่ารู้แค่หลักโยคเกณฑ์และดาวอันส่งเสริมให้คุณแก่ดวงชะตาแต่เพียงอย่างเดียวแล้วก็จะพยากรณ์กันโผงผางไปว่าดวงนั้นดีเด่นให้คุณอันดับหนึ่งตามลักษณะที่ตำราสรรเสริญไว้นั้น แท้จริงเราจะต้องเข้าใจถึงจุดเบียน(จุดเสีย)ของดวงชะตาด้วย
.
ดังจะแจกแจงดังต่อไปนี้
.
1. ภพ อริ มรณะ และวินาศนะ หรือภพที่ 6 8 และ 12 ของดวงชะตานั้นคือจุดอับของดวงชะตาที่เรียกกันว่า “ทุสถานะ” ดาวใดไปอยู่ก็เท่ากับดาวนั้นถูกฆ่า ถูกทำลาย ถูกทำให้เสื่อมสมรรถภาพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวอาทิตย์ จันทร์ และพฤหัสบดี อันเป็นดาวหลักของดวงชะตา หากดาวเหล่านี้ถูกฆ่าหมดเสียแล้วก็เรียกว่าดวงอาภัพ แม้นจะรุ่งโรจน์ก็ไม่ยั่งยืน แม้ดาวเจ้าเรือนทั้ง 3 อันให้โทษนั้นมาสัมพันธ์ถึงลัคนา ก็ย่อมให้โทษด้วยเช่นเดียวกัน
.
2. ดาวเจ้าเรือนลัคนา ซึ่งอาจเปรียบเสมือนลัคนาที่ 2 ในดวงชะตาก็มีความสำคัญมาก หากว่าดาวเจ้าเรือนลัคนาเป็นประเป็นนิจ หรือถูกบาปเคราะห์เบียนอย่างรุนแรง หรือถูกเบียนโดย อริ มรณะ วินาศนะ ย่อมทำให้วาสนารถถอยลงไป แม้มั่งมีศรีสุขก็จะกลายเป็นขี้โรค มีโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนไม่มีความสุข ถึงดวงจะมีโยคเกณฑ์เด่นสักปานใดก็จะต้องลดถอยลงเสมอ ด้วยความที่ดาวเจ้าเรือนลัคนาหรือวาสนาถูกเบียดเบียนเสียแล้ว
.
3. อันโยคเกณฑ์นั้นแม้จะดีปานใด แต่ถ้าดาวบาปเคราะห์เบียนลัคนาอย่างรุนแรงแล้ว ก็จะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคและบั่นทอนคุณภาพความดีลงไปจนถึงขนาดวาสนาไม่ยั่งยืนนานก็ได้
.
4. ตามโยคเกณฑ์อันดีเด่นนั้น เราจะต้องตรวจด้วยว่า ดาวอันให้คุณตามโยคเกณฑ์ที่ว่านั้นเป็นดาวอันให้โทษหรือเปล่า คือเป็นเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาศนะ หรือถูกบาปเคราะห์เบียดเบียนหรือไม่ มิเช่นนั้นโทษกับคุณก็จะหักล้างกันไป
.
5. เรือนใดถูกบาปเคราะห์เบียดเบียนอยู่ หรือถูกดาวอริ มรณะ และวินาศนะไปครองอยู่ ดาวเจ้าเรือนนั้นๆ ย่อมมีสภาพเหมือนบาปเคราะห์หรือดาว อริ มรณะ วินาศนะ นั้นด้วย แม้ไปอยู่เรือนใดก็ย่อมสำแดงโทษให้
.
6. ดาวพระเคราะห์อันแลกเรือนกัน ถ้าไปแลกกับเรือนที่เสีย เช่นไปแลกกับเรือนอริ มรณะ และวินาศนะ ย่อมจะนำผลชั่วมาสู่ด้วย
.
7. เรือนใดภพใดที่มีดาวสถิตอยู่ก็ดี หรือไม่มีดาวสถิตอยู่ก็ดี อาจมีดาวบาปเคราะห์ขนาบหน้าหลังเรือนนั้นอยู่ ก็ย่อมเกิดโทษเสมอ
.
8. ดาวบาปเคราะห์ขนาบหน้าหลังลัคนา ทำให้ชีวิตมีอุปสรรคเดือดร้อนไม่สร่าง แต่ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์ขนาบหน้าหลังมักได้ผู้อุปถัมภ์ค้ำชูดี ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
.
9. ถ้ามีดาวบาปเคราะห์นำหน้าลัคนาหลายดวงในตำแหน่งศูนยะพาหะ จะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคมากและเดือดร้อนอยู่ไม่สร่าง
.
10. ถ้ามีดาวบาปเคราะห์กลุ่มลัคนาหลายดวงจะทำให้ชีวิตลำบากยากแค้น มักประสบอุบัติเหตุเดือดร้อนนานาประการไม่เคยสงบลงได้
🙂
เรียบเรียงจากหนังสือ : ประถมภาคแห่งโหราศาสตร์
เขียนโดย : อ. พลูหลวง (ประยูร อุลุชาฎะ ศิลปินแห่งชาติ)