สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
จขกท ให้ข้อมูลน้อยไป แค่การบอกราคากระเป๋าเจ็ดหมื่น ไม่สามารถตอบได้ว่าเขาใช้เงินเกินตัวรึเปล่า หรือ จขกท สมควรจะห้ามเขาหรือควรปล่อยให้เขาซื้อไป เพราะมันจะเหมือนหนังคนละม้วนเลยทีเดียว ถ้าบริบทอื่นๆ แตกต่างกันไป
หนังเรื่องที่ 1
ผญ ให้ จขกท ซื้อให้ จขกท คงมีฐานะพอจะจ่ายไหวแหละ แต่เห็นว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป อยากเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต สร้างครอบครัวมากกว่า หนังเรื่องนี้ จขกท เป็นคนถือเงิน จึงมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะตัดสินใจว่าคุณจะจ่ายหรือไม่จ่ายกับของชิ้นนี้ และการที่พูดด้วยเหตุผลแล้วเธอมางอน คือเธองี่เง่า และเห็นแก่ตัวที่อยากได้เงินคุณ (อยากให้ซื้อของแพงๆ ให้ ก็ถือว่าอยากได้เงิน)
หนังเรื่องที่ 2
ผญ จะซื้อเอง แต่รายได้ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ จะซื้อคือต้องเก็บอยู่นานถึงจะซื้อไหว ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อแลกกับการซื้อกระเป๋าใบเดียว อันนี้ก็สมควรเตือน แต่ต้องเสียงอ่อนกว่าหนังเรื่องแรก เพราะคุณไม่ได้ถือเงิน มันเงินของเขา เขาอาจจะคิดว่าเขาจัดการได้ คุณต้องพูดในลักษณะให้เขาคิดตามและคิดให้ได้เอง ถ้าไม่ได้ก็ต้องปล่อย ห้ามยุ่ง ไม่ใช่ออกแนวสั่ง (บางคนไม่รู้ตัวว่าสั่ง ชอบคิดว่าก็ไม่ได้บังคับ ไม่ได้สั่ง แต่สิ่งที่พูดออกไปทำให้คนฟังรู้สึกแบบนั้น และไม่อยากทำตาม) อาจจะใช้วิธีกันเงินส่วนกลางสำหรับสร้างครอบครัว ว่าแต่ละเดือนคุณและเขาต้องลงเงินส่วนนี้คนละเท่าไหร่ ให้เขาต้องมีความรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทุกเดือน ถ้าเขาไม่ไหว เขาต้องเลือกว่าจะสร้างครอบครัวกับคุณ หรือจะอยากใช้เงินปรนเปรอตัวเองมากกว่ากัน
หนังเรื่องที่ 3
คุณกับเขามีรวมเงินกันเป็นส่วนกลาง แล้วเธอคิดจะเอาส่วนกลางนี้ไปซื้อของส่วนตัว อันนี้คุณก็มีสิทธิ์ห้ามเต็มที่ในเงินกองกลางนั้น คล้ายๆ เรื่องที่ 2 ให้เธอใช้เงินนอกเหนือจากส่วนกลาง ที่เป็นส่วนตัวของเธอเอง โดยห้ามกระทบการลงเงินส่วนกลาง (แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเคสนี้เท่าไหร่)
หนังเรื่องที่ 4
ผญ มีเงินมากพอจะซื้อกระเป๋าเจ็ดหมื่นได้สบายๆ แต่ จขกท ตึงเกิน มองแต่มุมว่าแพง ฟุ่มเฟือย กับกระเป๋าใบเดียว อยากให้ ผญ เก็บเงิน (ส่วนตัวของเธอเอง) ไว้สำหรับการสร้างครอบครัวกับคุณมากกว่า อันนี้เราว่า จขกท ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเลยด้วยซ้ำ เธอมีปัญญาหาเงินมากขนาดนั้น จะซื้อความสุขให้ตัวเองบ้างไม่ใช่เรื่องแปลก จะให้เขาสละทุกอย่างเพื่อสร้างครอบครัวอย่างเดียวก็เกินไป
จะเห็นว่าหนังเรื่องที่ 1 กับ 4 มันต่างกันมากกกกกกกกกกกกกกกกก และสิ่งที่ จขกท เล่ามา มันก็เป็นไปได้ทุกเวอร์ชั่น เราก็หว่านตอบไปก่อน จขกท ก็ดูเอาเองว่าเรื่องของตัวเองคือเรื่องไหน แต่ถ้ามีเรื่องที่ 5 ก็ช่วยบอกด้วยละกัน = ="
หนังเรื่องที่ 1
ผญ ให้ จขกท ซื้อให้ จขกท คงมีฐานะพอจะจ่ายไหวแหละ แต่เห็นว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป อยากเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต สร้างครอบครัวมากกว่า หนังเรื่องนี้ จขกท เป็นคนถือเงิน จึงมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะตัดสินใจว่าคุณจะจ่ายหรือไม่จ่ายกับของชิ้นนี้ และการที่พูดด้วยเหตุผลแล้วเธอมางอน คือเธองี่เง่า และเห็นแก่ตัวที่อยากได้เงินคุณ (อยากให้ซื้อของแพงๆ ให้ ก็ถือว่าอยากได้เงิน)
หนังเรื่องที่ 2
ผญ จะซื้อเอง แต่รายได้ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ จะซื้อคือต้องเก็บอยู่นานถึงจะซื้อไหว ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อแลกกับการซื้อกระเป๋าใบเดียว อันนี้ก็สมควรเตือน แต่ต้องเสียงอ่อนกว่าหนังเรื่องแรก เพราะคุณไม่ได้ถือเงิน มันเงินของเขา เขาอาจจะคิดว่าเขาจัดการได้ คุณต้องพูดในลักษณะให้เขาคิดตามและคิดให้ได้เอง ถ้าไม่ได้ก็ต้องปล่อย ห้ามยุ่ง ไม่ใช่ออกแนวสั่ง (บางคนไม่รู้ตัวว่าสั่ง ชอบคิดว่าก็ไม่ได้บังคับ ไม่ได้สั่ง แต่สิ่งที่พูดออกไปทำให้คนฟังรู้สึกแบบนั้น และไม่อยากทำตาม) อาจจะใช้วิธีกันเงินส่วนกลางสำหรับสร้างครอบครัว ว่าแต่ละเดือนคุณและเขาต้องลงเงินส่วนนี้คนละเท่าไหร่ ให้เขาต้องมีความรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทุกเดือน ถ้าเขาไม่ไหว เขาต้องเลือกว่าจะสร้างครอบครัวกับคุณ หรือจะอยากใช้เงินปรนเปรอตัวเองมากกว่ากัน
หนังเรื่องที่ 3
คุณกับเขามีรวมเงินกันเป็นส่วนกลาง แล้วเธอคิดจะเอาส่วนกลางนี้ไปซื้อของส่วนตัว อันนี้คุณก็มีสิทธิ์ห้ามเต็มที่ในเงินกองกลางนั้น คล้ายๆ เรื่องที่ 2 ให้เธอใช้เงินนอกเหนือจากส่วนกลาง ที่เป็นส่วนตัวของเธอเอง โดยห้ามกระทบการลงเงินส่วนกลาง (แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเคสนี้เท่าไหร่)
หนังเรื่องที่ 4
ผญ มีเงินมากพอจะซื้อกระเป๋าเจ็ดหมื่นได้สบายๆ แต่ จขกท ตึงเกิน มองแต่มุมว่าแพง ฟุ่มเฟือย กับกระเป๋าใบเดียว อยากให้ ผญ เก็บเงิน (ส่วนตัวของเธอเอง) ไว้สำหรับการสร้างครอบครัวกับคุณมากกว่า อันนี้เราว่า จขกท ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเลยด้วยซ้ำ เธอมีปัญญาหาเงินมากขนาดนั้น จะซื้อความสุขให้ตัวเองบ้างไม่ใช่เรื่องแปลก จะให้เขาสละทุกอย่างเพื่อสร้างครอบครัวอย่างเดียวก็เกินไป
จะเห็นว่าหนังเรื่องที่ 1 กับ 4 มันต่างกันมากกกกกกกกกกกกกกกกก และสิ่งที่ จขกท เล่ามา มันก็เป็นไปได้ทุกเวอร์ชั่น เราก็หว่านตอบไปก่อน จขกท ก็ดูเอาเองว่าเรื่องของตัวเองคือเรื่องไหน แต่ถ้ามีเรื่องที่ 5 ก็ช่วยบอกด้วยละกัน = ="
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเขาใช้เงินจขกท.ซื้อ พูดห้ามปรามได้อยู่ แต่ถ้าเขาใช้เงินของเขาเองและหารายได้มากกว่าราคากระเป๋า แฟนจขกท.คงไม่มีปัญหาการเงิน เขาอาจจะซื้อเพื่อเป็นรางวัลของตัวเองก็ได้ 😁😁 แต่ถ้าเอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อกระเป๋าใบเดียวคิดว่าเขาก็น่าจะไม่ทำอย่างนั้น
ขนาดแฟนเราชอบการขับขี่รถวิบากมาก ขี่มา 5-6 ปีล่ะ คันนึงแสนกว่าเปลี่ยนรถมาไม่รู้กี่คันแล้ว ขี่เบื่อก็ขายขาดทุนแล้วก็ซื้อใหม่ งงเหมือนกัน ล่าสุดซื้อสองคันภายในเดือนเดียว เรากับพ่อเขาพูดจนหูแฉะแต่ก็ได้แค่พูด เพราะเงินเขา เขาบริหารเงินเก่ง เก็บเก่ง หาเก่ง ต้องยอมเขาเลย มีธุรกิจส่วนตัวเลยเก็บได้ แต่ถ้าหาเช้ากินค่ำคงไม่ไหวแน่ และความสุขแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องให้พื้นที่เขาด้วยจะไปกะเกณฑ์ให้ทำที่เราต้องการทุกอย่างก็ไม่ใช่ ลองคุยกันใหม่ค่ะเผื่อจะเข้าใจกันมากขึ้น ✌🏻
ขนาดแฟนเราชอบการขับขี่รถวิบากมาก ขี่มา 5-6 ปีล่ะ คันนึงแสนกว่าเปลี่ยนรถมาไม่รู้กี่คันแล้ว ขี่เบื่อก็ขายขาดทุนแล้วก็ซื้อใหม่ งงเหมือนกัน ล่าสุดซื้อสองคันภายในเดือนเดียว เรากับพ่อเขาพูดจนหูแฉะแต่ก็ได้แค่พูด เพราะเงินเขา เขาบริหารเงินเก่ง เก็บเก่ง หาเก่ง ต้องยอมเขาเลย มีธุรกิจส่วนตัวเลยเก็บได้ แต่ถ้าหาเช้ากินค่ำคงไม่ไหวแน่ และความสุขแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องให้พื้นที่เขาด้วยจะไปกะเกณฑ์ให้ทำที่เราต้องการทุกอย่างก็ไม่ใช่ ลองคุยกันใหม่ค่ะเผื่อจะเข้าใจกันมากขึ้น ✌🏻
แสดงความคิดเห็น
แฟนอยากได้กระเป๋าราคาแพง แต่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต ด้วยราคา สูงถึง เจ็ดหมื่น