บานตู้แบบเปิดออก บานเฟี้ยมหรือบานเลื่อนเลือกการเปิดอย่างไหนดี หลายๆท่านคงตั้งคำถามแบบนี้ แล้วแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ตัดสินใจไม่ถูกเพราะมีตัวเลือกเยอะ แถมยังสงสัยไปอีกว่ามีชนิดการเปิดแบบอื่นๆให้เลือกอีกบ้างมั้ย วันนี้ผมมีข้อมูลมาแชร์กันให้ทราบครับว่าควรเลือกการเปิดชนิดไหนดี ให้เหมาะกับบ้านของเรา
บานตู้ที่ทำง่ายที่สุด มีปัญหาน้อยที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดคือบานเปิดครับ ติดตั้งโดยใช้บานพับถ้วย 4-5ตัวต่อหนึ่งบาน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและขนาดของบานตู้ครับ
ข้อดีของบานเปิดข้อแรกคือ ทำงานง่ายซ่อมง่ายการติดตั้งไม่ซับซ้อน
ข้อดีต่อมาคือ เมื่อเปิดบานที่อยู่คู่กันก็จะสามารถเห็นเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ในนั้นได้หมด ทำให้เลือกสิ่งของที่อยู่ในนั้นได้หมด
ข้อดีต่อมาคือมื่อเราเลือกใช้บานพับแบบเปิดได้กว้างถึง 175องศา พื้นที่ในการใช้งานก็จะกว้างขึ้น ไม่รู้สึกอึดอัดครับ
ข้อดีต่อมา ในเรื่องความสวยงาม บานจะเรียบเป็นระนาบเดียวกันเมื่อปิดบาน
ข้อเสียก็คือต้องมีระยะด้านหน้ามากหน่อยในการสวิงเปิดบานออกมา
ข้อเสียถัดมาคือถ้าต้องการทำหน้าบานที่มีขนาดใหญ่ๆ บานเปิดไม่ตอบโจทย์ครับ เพราะยิ่งมีบานขนาดใหญ่ บานยิ่งหนักและมีแนวโน้มว่าบานมักจะบิดไม่เรียบเพราะบานพับรับน้ำหนักที่ด้านข้างเท่านั้น
บานเลื่อนเหมาะกับพื้นที่ที่อยู่ด้านหน้าไม่มาก เช่นด้านหน้าเป็นตู้ด้านหลังเป็นเตียงนอน อย่างนี้ควรเลือกการเปิดแบบบานเลื่อนครับ
ข้อดีถัดมาคือสามารถทำบานตู้ขนาดกว้างๆใหญ่ๆได้ครับ ลูกล้อที่หิ้วรับน้ำหนักอยู่ด้านบนช่วยให้น้ำหนักบานทิ้งตัวลงมาในแนวดิ่ง บานเลื่อนในปัจจุบันน่าใช้งานมากครับ อุปกรณ์ใหม่ๆรองรับงานDESIGNเพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนเราคุ้นกับบานเลื่อนเปิดสลับกันไปมา2บาน แต่เดี๋ยวนี้มีบานแบบเปิด3บานหรือมากกว่านั้นให้เลือกใช้ครับ
ข้อเสียคือ การเปิดหาสิ่งของภายในและใช้งานจะใช้ได้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งถูกบานซ้อนทับกันอยู่ครับ
ข้อเสียถัดมาคือการSERVICEทำได้ยากกว่าบานเปิดครับ ต้องเรียกช่างมาแก้ให้ ยิ่งเราใช้บานเลื่อนที่ซับซ้อนเท่าไรยิ่งต้องจ่ายค่าฟิตติ้งในราคาที่สูงขึ้น ซ่อมยากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับเพราะมันไม่ได้เสียกันง่ายๆครับ ถ้าติดตั้งดี
บานเปิดหรือบานเลื่อน เลือกใช้แบบไหนดี
บานตู้ที่ทำง่ายที่สุด มีปัญหาน้อยที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดคือบานเปิดครับ ติดตั้งโดยใช้บานพับถ้วย 4-5ตัวต่อหนึ่งบาน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและขนาดของบานตู้ครับ
ข้อดีของบานเปิดข้อแรกคือ ทำงานง่ายซ่อมง่ายการติดตั้งไม่ซับซ้อน
ข้อดีต่อมาคือ เมื่อเปิดบานที่อยู่คู่กันก็จะสามารถเห็นเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ในนั้นได้หมด ทำให้เลือกสิ่งของที่อยู่ในนั้นได้หมด
ข้อดีต่อมาคือมื่อเราเลือกใช้บานพับแบบเปิดได้กว้างถึง 175องศา พื้นที่ในการใช้งานก็จะกว้างขึ้น ไม่รู้สึกอึดอัดครับ
ข้อดีต่อมา ในเรื่องความสวยงาม บานจะเรียบเป็นระนาบเดียวกันเมื่อปิดบาน
ข้อเสียก็คือต้องมีระยะด้านหน้ามากหน่อยในการสวิงเปิดบานออกมา
ข้อเสียถัดมาคือถ้าต้องการทำหน้าบานที่มีขนาดใหญ่ๆ บานเปิดไม่ตอบโจทย์ครับ เพราะยิ่งมีบานขนาดใหญ่ บานยิ่งหนักและมีแนวโน้มว่าบานมักจะบิดไม่เรียบเพราะบานพับรับน้ำหนักที่ด้านข้างเท่านั้น
บานเลื่อนเหมาะกับพื้นที่ที่อยู่ด้านหน้าไม่มาก เช่นด้านหน้าเป็นตู้ด้านหลังเป็นเตียงนอน อย่างนี้ควรเลือกการเปิดแบบบานเลื่อนครับ
ข้อดีถัดมาคือสามารถทำบานตู้ขนาดกว้างๆใหญ่ๆได้ครับ ลูกล้อที่หิ้วรับน้ำหนักอยู่ด้านบนช่วยให้น้ำหนักบานทิ้งตัวลงมาในแนวดิ่ง บานเลื่อนในปัจจุบันน่าใช้งานมากครับ อุปกรณ์ใหม่ๆรองรับงานDESIGNเพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนเราคุ้นกับบานเลื่อนเปิดสลับกันไปมา2บาน แต่เดี๋ยวนี้มีบานแบบเปิด3บานหรือมากกว่านั้นให้เลือกใช้ครับ
ข้อเสียคือ การเปิดหาสิ่งของภายในและใช้งานจะใช้ได้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งถูกบานซ้อนทับกันอยู่ครับ
ข้อเสียถัดมาคือการSERVICEทำได้ยากกว่าบานเปิดครับ ต้องเรียกช่างมาแก้ให้ ยิ่งเราใช้บานเลื่อนที่ซับซ้อนเท่าไรยิ่งต้องจ่ายค่าฟิตติ้งในราคาที่สูงขึ้น ซ่อมยากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับเพราะมันไม่ได้เสียกันง่ายๆครับ ถ้าติดตั้งดี