วงโคจรดาวเทียมถือว่าเป็นสมบัติของชาติตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 60 ซึ่งระบุไว้ชัดว่า รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่ และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติ เพื่อใช้ประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน

เนื่องจากที่ผ่านมาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีความพยายามที่จะนำวงโคจรดาวเทียมของชาติมาจัดประมูล (อีกครั้ง) และให้สิทธิ์แก่เอกชนเป็นผู้ดำเนินการบริหารและจัดการ โดยเริ่มเปิดรับซองประมูลจากเอกชนตั้งแต่ 27 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมานั้น

จนเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านและมีสิทธิเข้าร่วมการประมูล 3 รายเท่านั้น ได้แก่ 
• บริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัดในเครือบริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน)
• บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT 
• บริษัท พร้อม เทคนิคคอล เซอร์วิสเซส จำกัด

โดยการจัดให้มีการประมูลฯ ขึ้นในครั้งนี้ ทางกสทช. พยายามอ้างถึงสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรเพื่อรักษาสิทธิ์ของไทยมาโดยตลอด พร้อมกับอ้างว่า 
แต่ทาง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวถึงข้ออ้างของกสทช.ดังกล่าวว่า 

"กสทช.บอกว่าดาวเทียมต้องให้แข่งขันเสรี แต่ผมบอกว่า มันเอื้อให้นายทุน เพราะดาวเทียมนั้นคือการผูกขาดโดยธรรมชาติ ทั้งการสื่อสาร ความมั่นคง และการจารกรรม ที่อยู่ในอวกาศ

รัฐต้องเป็นผู้ดำเนินการกิจการดาวเทียม เพื่อจัดสรรประโยชน์ ให้เอกชนแข่งขันอย่างเป็นธรรม และดูแลประชาชน รัฐต้องเป็นผู้คุมระบบ กลายเป็นให้เอกชนดูแล และจัดสรรให้รัฐใช้ ที่เหลือเอกชนผูกขาด หาผลประโยชน์"

โดยสหภาพแรงงานฯ จะจัดชุมนุมทิ้งทวน คัดค้านการยกสมบัติชาติ ให้นายทุนผูกขาดยึดครองกิจการดาวเทียม ที่ กสทช. ในวันศุกร์ที่ 13 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น.

จึงอยากขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนออกมาช่วยกัน ปกป้องผลประโยชน์ชาติ ที่จะทำให้อินเตอร์เน็ตทั่วถึง และราคาถูก เชิญออกมาร่วมกันแสดงออก เหมือนป้ายที่สถานีกลางบางซื่อ จน รฟท. ต้องตัดสินใจยกเลิกการรื้อป้ายชื่อสถานีออกไปในที่สุด