10 ม.ค. 2566 - 04:48 น.
เดนคุก 2 ศพเมาหนัก พ้นโทษไม่ถึงปี ชกต่อยเจ้าของร้าน พ่อห้ามจะโดนทำร้าย อส.เข้าช่วยถูกแทงดับเป็นรายที่ 3 แฉประวัติโหด ฆ่าคนตายตั้งแต่เป็นเยาวชน
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 9 ม.ค.66 ร.ต.อ.เดชา รามจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หาดสำราญ รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำ เลขที่ 6/16 หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง บริเวณริมถนนทางเข้าศูนย์ราชการ อ.หาดสำราญ ห่าง สภ.หาดสำราญเพียงแค่ 400 เมตร หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุประวิณ สมบัติศิริ ผกก. พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ร.ต.อ.ปณตพร ผลบุญ รอง สว.สส. กำลังชุดสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง
ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือลำเลียงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หาดสำราญ เพื่อพยายามยื้อชีวิต ตรวจสอบบนพื้นดิน พื้นปูน รวมทั้งบนเก้าอี้ หน้าร้านค้าดังกล่าว พบกองเลือดจำนวนมากเจิ่งนองอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายเขียน (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี สมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส.หาดสำราญ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดพกเข้าที่เหนือสีข้างขวา 1 แผล ไหล่ขวา 1 แผล หูซ้ายติ่งหูขาด 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 4 แผล
ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายยุทธนา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุแทงนายเขียน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าเหนือสะบักหลังซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด และแฉลบเข้าที่หลังหูด้านซ้ายอีก 1 นัด บาดเจ็บรู้สึกตัว ถูกนำส่ง รพ.ตรังเพื่อช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย คือ นายเหมือน (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ ถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีบาดแผลที่หน้าผาก และแขน
ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าบนพื้นดินที่ปนอยู่กับกองเลือดพบซองหนังใส่อาวุธปืนตกอยู่ 1 ซอง ไฟแช็ก 1 อัน รองเท้าทั้งของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตตกอยู่ 2 คู่ กุญแจรถและเงินของผู้เสียชีวิตตกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่พื้นปูนหน้าร้านพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 หัว อาวุธมีดพกพับด้ามซึ่งเป็นของผู้ก่อเหตุ 1 เล่มตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และพบขวดสุราตกอยู่ 1 ขวด ใกล้กันพบขวดแก้วสภาพแตกอีก 1 ขวด ถัดออกไปบนถนนพบรถ จยย.ของผู้ก่อเหตุจอดอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันมือมีดดื่มเหล้าขาวมาจากที่อื่น ก่อนขี่รถ จยย. มานั่งดื่มเหล้าขาวต่อเพียงคนเดียวที่ร้าน แต่บังเอิญมาพบเจอคนรู้จักได้นั่งร่วมวงด้วยกัน 2 คน ซึ่งมือมีดมานั่งที่ร้านค้าแห่งนี้เพียงครั้งแรก และเมาเต็มที่ ก่อนที่นายเหมือน เจ้าของร้านกลับเข้ามา จึงเห็นว่ามือมีดเมาหนักพูดจาเสียงดังและเอะอะโวยวาย จึงห้ามปรามให้เบาอารมณ์และเสียงลง ก่อนที่นายเหมือนจะไปนอนที่เปลหน้าบ้าน ทำให้มือมีดไม่พอใจเข้าไปกระชากนายเหมือนจากเปล ก่อนจะชกต่อยและต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกัน ทำให้นายเหมือนบาดเจ็บ ส่วนมือมีดไปชนเข้ากับเสาทำให้ศีรษะแตก และคิดว่าภรรยาของนายเหมือนเข้ามาตีศีรษะ จึงพยายามจะมีปัญหากับภรรยานายเหมือนอีกคน
นายเขียน (ผู้เสียชีวิต)
ต่อมา นายเขียน (ผู้เสียชีวิต) พร้อมด้วยนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) และคนอื่นๆ เดินเข้ามาห้ามปราม จนมือมีดออกกลับบ้านและไปยัง สภ.หาดสำราญ เพื่อขอแจ้งความ ส่วนนายเหมือน ได้ไปแจ้งความด้วยเช่นกันที่ถูกทำร้าย แต่ปรากฏว่าทางตำรวจยังคงไม่แจ้งความ โดยหวังว่าทั้งคู่น่าจะเคลียร์กันได้ และทั้งคู่ได้แยกย้ายออกจากโรงพัก ก่อนที่นายเหมือนและภรรยาหวาดกลัวได้หนีออกไปจากร้าน
กระทั่งมือมีดกลับมาที่ร้านอีกรอบ พร้อมถือขวานมาด้วย แต่ปรากฏว่านายเหมือนและภรรยาไม่อยู่แล้ว มีเพียงนายเขียน และนายสมพร นั่งอยู่เพื่อพูดคุยเคลียร์ปัญหาให้กับมือมีด ก่อนช่วยกันแย่งขวานออกมาจากมือได้ ทำให้มือมีดอาละวาดอย่างหนักทำลายข้าวของภายในร้าน ซึ่งนายสมพร ได้เข้าไปห้ามปราม แต่มืดมีดกลับไม่พอใจ และหาว่าพ่อจุ้นจ้าน พยายามใช้มีดที่พกติดตัวทำร้ายพ่อ ทำให้นายเขียน เข้าห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายพ่อ มืดมีดจึงแทงนายเขียน ส่วนนายเขียนได้ใช้อาวุธปืนประจำกายที่พกติดตัวยิงสวนเข้าไป ก่อนทั้งคู่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน จนเป็นเหตุให้นายเขียนเสียชีวิต
สอบถาม ลูกชายเจ้าของร้าน เล่าว่า คนก่อเหตุพูดตอนที่ศีรษะแตกว่าไม่เคยมีใครทำให้หัวแตกมาก่อน และหากไม่ติดคุกบางขวางไม่ยอมแน่ครั้งนี้ โดยกลับไปๆมาๆบ้านและร้านค้าหลายรอบ
ด้าน บุตรบุญธรรมผู้ตาย กล่าวว่า พ่อเป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม พ่อเข้าไปห้ามปราม กลับมาถูกแทงเสียชีวิต รู้สึกเสียใจช่วยพ่อไม่ได้ หลังจากจบ ม.6 ก็จะไปสอบเรียนแพทย์ เพราะเห็นตอนพ่อกำลังจะสิ้นใจ อยากจะช่วยชีวิตคนอื่นให้ได้ ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเองเคยฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ศพ พ้นโทษออกมาก็ยังไม่สำนึกยังมีนิสัยเดิมอยู่ ก็ก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้กฎหมายมีความเข้มแข็งกว่านี้
สอบปากคำนายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ
จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญา พบว่านายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชนเคยก่อเหตุและต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีดเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาในปี พ.ศ.2555 ได้ก่อเหตุต้องคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งทั้ง 2 คดีเกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.หาดสำราญ จนกระทั่งถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ และพ้นโทษมาเมื่อปี 2565 โดยที่ยังไม่ทันได้ครบหนึ่งปีจนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวเป็นศพที่ 3 ด้วยอาวุธมีดด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และจะทำการตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุว่ามีการยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดด้วยหรือไม่ พร้อมทั้งจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามขบวนการกฏหมาย ส่วนศพได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7451418
เดนคุก 2 ศพเมาหนัก ชกต่อยเจ้าของร้าน พ่อห้ามจะโดนด้วย อส.เข้าช่วยถูกแทงดับเป็นรายที่ 3
10 ม.ค. 2566 - 04:48 น.
เดนคุก 2 ศพเมาหนัก พ้นโทษไม่ถึงปี ชกต่อยเจ้าของร้าน พ่อห้ามจะโดนทำร้าย อส.เข้าช่วยถูกแทงดับเป็นรายที่ 3 แฉประวัติโหด ฆ่าคนตายตั้งแต่เป็นเยาวชน
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 9 ม.ค.66 ร.ต.อ.เดชา รามจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หาดสำราญ รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำ เลขที่ 6/16 หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง บริเวณริมถนนทางเข้าศูนย์ราชการ อ.หาดสำราญ ห่าง สภ.หาดสำราญเพียงแค่ 400 เมตร หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุประวิณ สมบัติศิริ ผกก. พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ร.ต.อ.ปณตพร ผลบุญ รอง สว.สส. กำลังชุดสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง
ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือลำเลียงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หาดสำราญ เพื่อพยายามยื้อชีวิต ตรวจสอบบนพื้นดิน พื้นปูน รวมทั้งบนเก้าอี้ หน้าร้านค้าดังกล่าว พบกองเลือดจำนวนมากเจิ่งนองอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายเขียน (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี สมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส.หาดสำราญ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดพกเข้าที่เหนือสีข้างขวา 1 แผล ไหล่ขวา 1 แผล หูซ้ายติ่งหูขาด 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 4 แผล
ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายยุทธนา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุแทงนายเขียน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าเหนือสะบักหลังซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด และแฉลบเข้าที่หลังหูด้านซ้ายอีก 1 นัด บาดเจ็บรู้สึกตัว ถูกนำส่ง รพ.ตรังเพื่อช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย คือ นายเหมือน (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ ถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีบาดแผลที่หน้าผาก และแขน
ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าบนพื้นดินที่ปนอยู่กับกองเลือดพบซองหนังใส่อาวุธปืนตกอยู่ 1 ซอง ไฟแช็ก 1 อัน รองเท้าทั้งของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตตกอยู่ 2 คู่ กุญแจรถและเงินของผู้เสียชีวิตตกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่พื้นปูนหน้าร้านพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 หัว อาวุธมีดพกพับด้ามซึ่งเป็นของผู้ก่อเหตุ 1 เล่มตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และพบขวดสุราตกอยู่ 1 ขวด ใกล้กันพบขวดแก้วสภาพแตกอีก 1 ขวด ถัดออกไปบนถนนพบรถ จยย.ของผู้ก่อเหตุจอดอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันมือมีดดื่มเหล้าขาวมาจากที่อื่น ก่อนขี่รถ จยย. มานั่งดื่มเหล้าขาวต่อเพียงคนเดียวที่ร้าน แต่บังเอิญมาพบเจอคนรู้จักได้นั่งร่วมวงด้วยกัน 2 คน ซึ่งมือมีดมานั่งที่ร้านค้าแห่งนี้เพียงครั้งแรก และเมาเต็มที่ ก่อนที่นายเหมือน เจ้าของร้านกลับเข้ามา จึงเห็นว่ามือมีดเมาหนักพูดจาเสียงดังและเอะอะโวยวาย จึงห้ามปรามให้เบาอารมณ์และเสียงลง ก่อนที่นายเหมือนจะไปนอนที่เปลหน้าบ้าน ทำให้มือมีดไม่พอใจเข้าไปกระชากนายเหมือนจากเปล ก่อนจะชกต่อยและต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกัน ทำให้นายเหมือนบาดเจ็บ ส่วนมือมีดไปชนเข้ากับเสาทำให้ศีรษะแตก และคิดว่าภรรยาของนายเหมือนเข้ามาตีศีรษะ จึงพยายามจะมีปัญหากับภรรยานายเหมือนอีกคน
นายเขียน (ผู้เสียชีวิต)
ต่อมา นายเขียน (ผู้เสียชีวิต) พร้อมด้วยนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) และคนอื่นๆ เดินเข้ามาห้ามปราม จนมือมีดออกกลับบ้านและไปยัง สภ.หาดสำราญ เพื่อขอแจ้งความ ส่วนนายเหมือน ได้ไปแจ้งความด้วยเช่นกันที่ถูกทำร้าย แต่ปรากฏว่าทางตำรวจยังคงไม่แจ้งความ โดยหวังว่าทั้งคู่น่าจะเคลียร์กันได้ และทั้งคู่ได้แยกย้ายออกจากโรงพัก ก่อนที่นายเหมือนและภรรยาหวาดกลัวได้หนีออกไปจากร้าน
กระทั่งมือมีดกลับมาที่ร้านอีกรอบ พร้อมถือขวานมาด้วย แต่ปรากฏว่านายเหมือนและภรรยาไม่อยู่แล้ว มีเพียงนายเขียน และนายสมพร นั่งอยู่เพื่อพูดคุยเคลียร์ปัญหาให้กับมือมีด ก่อนช่วยกันแย่งขวานออกมาจากมือได้ ทำให้มือมีดอาละวาดอย่างหนักทำลายข้าวของภายในร้าน ซึ่งนายสมพร ได้เข้าไปห้ามปราม แต่มืดมีดกลับไม่พอใจ และหาว่าพ่อจุ้นจ้าน พยายามใช้มีดที่พกติดตัวทำร้ายพ่อ ทำให้นายเขียน เข้าห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายพ่อ มืดมีดจึงแทงนายเขียน ส่วนนายเขียนได้ใช้อาวุธปืนประจำกายที่พกติดตัวยิงสวนเข้าไป ก่อนทั้งคู่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน จนเป็นเหตุให้นายเขียนเสียชีวิต
สอบถาม ลูกชายเจ้าของร้าน เล่าว่า คนก่อเหตุพูดตอนที่ศีรษะแตกว่าไม่เคยมีใครทำให้หัวแตกมาก่อน และหากไม่ติดคุกบางขวางไม่ยอมแน่ครั้งนี้ โดยกลับไปๆมาๆบ้านและร้านค้าหลายรอบ
ด้าน บุตรบุญธรรมผู้ตาย กล่าวว่า พ่อเป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม พ่อเข้าไปห้ามปราม กลับมาถูกแทงเสียชีวิต รู้สึกเสียใจช่วยพ่อไม่ได้ หลังจากจบ ม.6 ก็จะไปสอบเรียนแพทย์ เพราะเห็นตอนพ่อกำลังจะสิ้นใจ อยากจะช่วยชีวิตคนอื่นให้ได้ ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเองเคยฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ศพ พ้นโทษออกมาก็ยังไม่สำนึกยังมีนิสัยเดิมอยู่ ก็ก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้กฎหมายมีความเข้มแข็งกว่านี้
สอบปากคำนายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ
จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญา พบว่านายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชนเคยก่อเหตุและต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีดเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาในปี พ.ศ.2555 ได้ก่อเหตุต้องคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งทั้ง 2 คดีเกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.หาดสำราญ จนกระทั่งถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ และพ้นโทษมาเมื่อปี 2565 โดยที่ยังไม่ทันได้ครบหนึ่งปีจนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวเป็นศพที่ 3 ด้วยอาวุธมีดด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และจะทำการตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุว่ามีการยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดด้วยหรือไม่ พร้อมทั้งจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามขบวนการกฏหมาย ส่วนศพได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7451418